Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : เจาะโค้งแรก NER กำไรวูบ เพราะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน แต่กำไรปกติเติบโตดี

2,813

HotNews : เจาะโค้งแรก NER กำไรวูบ เพราะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน แต่กำไรปกติเติบโตดี

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(12 พฤษภาคม 2563) NER รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิ 59.89 ล้านบาท ลดลง 40.66% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เหตุขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 127.25 บาท (ซึ่งเป็นขาดทุนทางบัญชี) เป็นผลกระทบ COVID-19 ฉุดบาทอ่อนลง แต่กำไรปกติเติบโตดี ด้าน "ชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์" แม่ทัพใหญ่ NER ลั่น 9 เดือนจากนี้ บริษัทยังคงขยายตลาดและเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน

 

 

 

 

 


บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่าไตรมาส 1/2563 สิ้นสุด วันที่ 31มีนาคม 2563 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ จำนวน 59.89 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.03 ของยอดขายรวม ลดลง 41.04 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.66 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 100.93 ล้านบาท

 

 

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 มีรายได้จากการขายรวม 2,954.36 ล้านบาท ลดลง 83.92 ล้านบาทหรือร้อยละ 2.76 แบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 1,466.34 ล้านบาท หรือร้อยละ49.63ของยอดขายรวม ลดลง 375.45 ล้านบาทหรือร้อยละ 20.39 รายได้จากการขายต่างประเทศ 1,488.02 ล้านบาท หรือร้อยละ50.37ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 291.53 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.37

 

 

ด้านต้นทุนขายเท่ากับ 2,554.37 ล้านบาท ลดลง 235.10 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.43 ในสัดส่วนลดลงจากยอดขายที่ลดลงแบ่งเป็นต้นทุนขายยางพาราเท่ากับ 2,530.02 ล้านบาท หรือร้อยละ85.64ของรายได้จากการขายรวม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เท่ากับจำนวนเงิน 2,773.39 ล้านบาทหรือร้อยละ 91.28ของรายได้จากการขายรวม ลดลงในอัตราร้อยละ 5.64จากต้นทุนวัตถุดิบวัสดุสิ้นเปลืองใช้ไป ลดลงในอัตราร้อยละ 4.65 จากแนวโน้มราคายางพาราที่ปรับตัวลดลงตามราคาตลาด

 

 

 

 


ขณะที่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 98.57 ล้านบาทจากการรับชำระหนี้จากลูกหนี้การค้าต่างประเทศและชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน(P/C) 50.17 ล้านบาท ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นเงินกู้ยืมระยะสั้นตามตั๋วสัญญาใช้เงิน(P/C) 48.40ล้านบาท ขาดทุนจากการวัดมูลค่าตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้น 71.05 ล้านบาท จากการทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ากับสถาบันการเงิน ในระหว่างเดือน มกราคม 2563 แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลต่อค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง

 

 


ด้านนายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2563ว่า มีรายได้จากการขายรวม 2,954.36 ล้านบาท ลดลง 83.92 ล้านบาทหรือ 2.76% เมื่อเทียบกับเดียวกันปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายในประเทศ 1,466.34 ล้านบาท หรือคิดเป็น 49.63%ของยอดขายรวม ลดลง 20.39% รายได้จากการขายต่างประเทศ 1,488.02 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50.37% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 24.37%

 

 

 

 

 


สำหรับกำไรขั้นต้นงวดไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 399.99 ล้านบาท หรือ 13.54% จากยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 151.18 ล้านบาทหรือคิดเป็น 60.76% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรสุทธิ อยู่ที่ 59.89 ล้านบาท หรือ 2.03% ของยอดขายรวม ลดลง 41.04 ล้านบาท หรือ 40.66% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 0.04 บาทต่อหุ้น

 

 


ผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า(COVID-19) ทำให้เงินบาทมีการอ่อนค่าลง บริษัทขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน สุทธิ จำนวน 29.32 ล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ตามมาตรฐานการบัญชีของตราสารอนุพันธ์ สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Forward Contract) สำหรับค่าสินค้าที่บริษัทได้มีการขายล่วงหน้าไว้แล้ว จำนวน 127.25 ล้านบาท

 


นายชูวิทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนงานที่วางไว้ เนื่องจากมีการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องรวมถึงโรงงานของลูกค้าในจีนเริ่มกลับมาเดินการผลิตแล้ว สำหรับการเจรจาลูกค้ารายใหม่ ในช่วงปลายไตรมาส 2 คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญากับลูกค้าใหม่ 2 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าสัญญาระยะยาว (Long Term Contact)อีกด้วย คาดว่าจะมาช่วยหนุนออเดอร์ของบริษัทให้เพิ่มขึ้น โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้ทดลองเดินเครื่องจักรโรงงานผลิตแห่งใหม่ตามแผนที่วางไว้

 

 

 


สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนจากก๊าซชีวภาพนั้น หากรัฐบาลเริ่มโครงการ บริษัทก็พร้อมจะเข้าประมูลโดยทันทีโดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีส่วนเข้าไปร่วมในโครงการจำนวน6เมกะวัตต์ ในกลุ่มโรงไฟฟ้าชุมชนแบบเร่งด่วน (Quick Win) พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมส่งมอบแผ่นปูรองนอนสัตว์ให้สหกรณ์โคนมทั่วประเทศเพื่อทดลองใช้ หลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เมืองให้สามารถเดินทางระหว่างจังหวัดได้

 

 

 

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ออกบทวิเคราะห์ คงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายที่ 3.10 บาท อิง PER ที่ 9x (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มยางที่ 13x) NER รายงานกำไรสุทธิใน 1Q20 ที่ 60 ล้านบาท -41% YoY และ -52% QoQ จากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ประมาณ 127 ล้านบาท เพราะค่าเงินบาทอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ประมาณ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯจากปีก่อนที่อยู่เพียง 29 บาท

 

 

สำหรับกำไรปกติ = 187 ล้านบาท +113% YoY และ +91% QoQ กำไรปกติที่ออกมาดีเนื่องจากธุรกิจยางธรรมชาติได้ผลดีจากต้นทุนที่อ่อนตัวลง ผู้ประกอบการหลายรายออกจากอุตสาหกรรมไป ทำให้การแข่งขันแย่งซื้อวัตถุดิบยางธรรมชาติลดลง โดยบริษัทสามารถขายล่วงหน้าตั้งแต่เดือนพย.ปลายปีก่อนในราคาที่สูงขณะที่สามารถควบคุมต้นทุน ส่งผลให้ gross margin มีการปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 13.5% จาก 8.2% ใน 1Q19 และ 7.7%.ใน 4Q19 เราคงกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 546 ล้านบาท ทรงตัว YoY โดยผลประกอบการอาจจะอ่อนลงหลังผ่านพ้นช่วงคำสั่งซื้อล่วงหน้าประมาณเดือนส.ค. ซึ่งเราได้มีการปรับลดกำไรไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าความต้องการจะฟื้นกลับมาในปลายปีจากการสถานการณ์ COVID-19 ผ่านพ้นจุด Peak และเริ่มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้กำไรปกติในปี 2020F อยู่ที่ 546 ล้านบาท +20% YoY

 


ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้น +8% และ outperform SET +3% ใน 1 เดือนเพราะแนวโน้ม COVID-19 คลี่คลาย เรายังแนะนำ "ซื้อ" ปัจจุบัน NER เทรดที่ 2020E PER ที่ 6.0x ต่ำกว่ากลุ่มยางที่ 13x โดยมี key catalyst คือ ลูกค้าเริ่มกลับมาเดินการผลิตหลังจาก COVID-19 ผ่านพ้นจุด Peak

 


กำไรสุทธิ 1Q20 ใกล้กับที่เราประเมินแต่ต่ำกว่าตลาดคาด กำไรปกติเติบโตดี แต่ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน NER รายงานกำไรสุทธิใน 1Q20 ที่ 60 ล้านบาท -41% YoY และ -52% QoQ จากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ประมาณ 127 ล้านบาท และรับรู้อีกประมาณ 29 ล้านบาทเพราะค่าเงินบาทอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ประมาณ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯจากปีก่อนที่อยู่เพียง 29 บาท

 

 

สำหรับกำไรปกติ = 187 ล้านบาท +113% YoY และ +91% QoQ กำไรปกติที่ออกมาดีเนื่องจากธุรกิจยางธรรมชาติได้ผลดีจากต้นทุนที่อ่อนตัวลง ผู้ประกอบการหลายรายออกจากอุตสาหกรรมไป ทำให้ภาวะการแข่งขันแย่งซื้อวัตถุดิบยางธรรมชาติลดน้อยลงไป โดยบริษัทสามารถขายล่วงหน้าตั้งแต่เดือนพย.ปลายปีก่อนในราคาที่สูงในช่วงประมาณ 139-143 เหรียญต่อกก.ขณะที่สามารถควบคุมต้นทุนยางอยู่ที่ประมาณ 125-130 เหรียญต่อกก ส่งผลให้ gross profit margin มีการปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 13.5% จาก 8.2% ใน 1Q19 และ 7.7%.ใน 4Q19 จากการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น

 

 


คงกำไรสุทธิปี 2020E เราคงกำไรสุทธิทั้งปีอยู่ที่ 546 ล้านบาท ทรงตัว YoY โดยผลประกอบการอาจจะอ่อนลงใน 2Q20-3Q20F จากผลกระทบ COVID-19 รวมถึงช่วงหลังผ่านพ้นช่วงคำสั่งซื้อล่วงหน้าประมาณเดือนส.ค. ซึ่งเราได้มีการปรับลดกำไรไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าความต้องการจะฟื้นกลับมาในปลายปีจากการสถานการณ์ COVID-19 ผ่านพ้นจุด Peak ส่งผลให้กำไรปกติในปี 2020F อยู่ที่ 546 ล้านบาท +20% YoY

 

 


ราคาเป้าหมายที่ 3.1 บาท อิง PER ที่ 6x (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มยางที่ 13x) โดยมี key catalyst คือ บริษัทยังมีเติบโตต่อเนื่องจากการขยายกำลังผลิต รวมถึงโรงงานของลูกค้าในจีนเริ่มกลับมาเดินการผลิต ขณะที่ความเสี่ยงคือ การฟื้นตัวจาก COVID-19 ล่าช้ากว่าที่คาดไว้

 

 

NER



 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

จบในวัน By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เมื่อข่าวบวก ข่าวดีมา เล่นหุ้น ก็ต้อง เผด็จศึก จบในวัน ทำกำไร ไม่ต้องรอ ฟ้าสาง เพราะฟ้า...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้