Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KCS Daily Strategy

177

"Service Sector + Short Sales Measure  Play"

 KCS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "Sideways/Up" ต้าน 1373/1378 จุด รับ 1355/1350 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯลงแรง ก่อนปิดลบน้อยลง ส่วนตลาด Futures ฟื้นตัวเล็กน้อย หลักๆ เกิดจาก PCE Price Index งวด 1Q24 เร่งสู่ +3.4%y-y สูงกว่าคาด(prev +1.8%) ทำให้ US Bond Yield อายุ 10ปี พุ่ง 4.739%(ยังอยู่ในกรอบที่คาดว่าจะพีค 4.7-4.8%) ก่อนชะลอลง 4.71%+/- รอการรายงงาน Core PCE สหรัฐฯ คืนนี้ ขณะที่ GDP งวด 1Q24 สหรัฐ +1.6%q-q vs prev.3.4% แย่กว่าตลาดคาด แม้หลักๆ จะเกิดจากการค้าระหว่างประเทศ และ Inventories Lost ซึ่งเป็นรายการที่มีความผันผวน แต่ก็สะท้อนภาพ Soft Landing กำลังจะเกิดขึ้นเช่นกัน ทำให้กรณีเงินเฟ้อเริ่มนิ่งๆ น่าจะเริ่มเห็นการปรับมุมมองของ FED เป็น Dovish เล็กๆ ได้ จะหนุนภาวะ Search For Yield สู่ Asia  โดย SET ยังดึงดูด Fund Flow จาก Valuation ที่ถูก (Forward PER24F ที่ 14.1x เป็นระดับ – 1.0 S.D.) การรายงานกำไร 1Q24 โค้งแรกดีกว่าคาด +2.8% ขณะที่ตลาดจะเริ่มใช้มาตรการลดความผันผวนของจากการขาย Short หุ้นและ Program Trading นำโดย Uptick Rule ตั้งแต่ปลาย 2Q24 มอง SET ฟื้นได้ต่อ โดยมีหุ้นนำตลาด คือ หุ้นอิงภาคบริการ หุ้นได้ประโยชน์มาตรการตลาดฯ  วันนี้แนะ  AOT, BTS, HANA  เด่น


Daily outlook: "Sideways/Up" ต้าน 1373/1378 จุด รับ 1355/1350 จุด

What happened around the world ?

•(*/+) US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลงแรงรับตัวเลข GDP สหรัฐต่ำคาด และ PCE  งวด1Q24 ออกมาสูงกว่าคาด Dow Jones –0.98%. S&P 500 -0.45%, NASDAQ -0.64% โดยกลุ่มนำตลาดของดัชนี S&P500 ยังเป็นกลุ่ม Materials, Energy, Industrials ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ ICT, Health care, Realestate ฯลฯ หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่นได้แก่ META – 10.5% รับบริษัทแถลงแผนการลงทุนขนาดใหญ่, IBM -8.25%รับงบต่ำคาด , Microsoft -2.45% กลุ่ม TESLA +4.9% NVDIA +3.7%

•  (*/+) US Earning : บริษัทจดทะเบียนสหรัฐรายงานงบ 1Q24 ออกมารวม 214 บริษัท จาก 500 บริษัท กำไรออกที่ออกมาดีกว่าคาด Surprise 10% เพิ่มขึ้นจาก 8% และโต 6.08%y-y (หุ้นที่งบดีกว่าคาด คือ Harley Davidson, Hyundai Motor ฯลฯ   กลุ่มที่กำไร/รายได้ต่ำคาด อาทิ IBM , Caterpillar(รายได้ตำคาด)

•  (*/+) US Econ : 1.) ตัวเลข GDP 1Q24 สหรัฐ +1.6%q-q ต่ำกว่าตลาดคาด +2.5%q-q vs prev.+3.4%q-q แม้ GDP ต่ำกว่าคาดแต่รายละเอียดองค์ประกอบภายในยังแกร่ง โดยถูกกดดันหลักจาก 1.) Inventory(สินค้าคงคลัง)หดตัวแรง และ 2.) การค้าสุทธิ(ส่งออก-นำเข้า) หดตัวแรง หลักๆมาจากการนำเข้าสูง โดยหาก GDP หักสินค้าคงคลัง และการค้าสุทธิ คือ Final Sales to Domestic Purchaser +2.8% สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐยังแกร่ง  2.) PCE Price งวด 1Q24 +3.4% เร่งขึ้นจาก 1.8% และ Core PCE +3.7% สูงกว่าคาดเร่งขึ้นจาก 2% 3.)ยอดขอรับสวัสดิการว่างงาน(Initial Jobless Claims) +2.07 แสนรายต่ำกว่าตลาดคาด และเท่ากับสัปดาห์ก่อน สะท้อนภาพภาคแรงงานประคองในลักษณะ Soft Landing ได้ (ความเสี่ยง Hard Landing จะเกิดขึ้นผู้ขอรับสวัสดิการเฉลี่ยจะสูงกว่าระดับ 4.0 แสนตำแหน่ง)  

•(*) To monitor :  ฝั่งสหรัฐติดตาม 26 เม.ย. เงินเฟ้อ PCE เดือน มี.ค. คาด 2.6%y-y เร่งขึ้นจาก 2.5% ในเดือน ก.พ. , Core PCE คาด +2.6%y-y ชะลอจาก 2.8% ในเดือน ก.พ. KCS ประเมินหากตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ออกมาอ่อนตัวมองเป็นจิตวิทยาบวกต่อตลาดหุ้นโลก คาดกดดัน Bond yields อ่อนตัวลงต่อ บวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า GULFการเงินเน้น MTC

•  (*) US Bond & Dollar :  US Bond  yields ระยะสั้นเป็นขาขึ้นต่อ อายุ 10 ปี  +4 bpsปิดที่ 4.71% ทำจุดสูงสุดในรอบ 6 เดือน และอายุ 2 ปี พลิกขึ้น +3 bps ปิด 4.89%มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารและประกันชีวิต แนะนำเน้นเพียง Trading  BLA, TLI  ขณะที่ Dollar Index แกว่งตัว  105.4+/- จุด

•(*/+) Oil : น้ำมันดิบฟื้นตัวอีกครั้ง Brent +1.12%d-d ปิดที่ US$ 89.01/barrel, น้ำมันดิบ West Texas +0.92%d-d ปิดที่ US$ 83.57/barrel แรงหนุนจากความกังวล Supply Shortage หลังสถานการณ์ตะวันออกกลางกลับมาตึงอีกครั้งหลังอิสราเอลยกระดับโจมตีทางอากาศใสเมืองราฟาห์ของกาซา ประเทศอิสราเอล บริเวณที่กลุ่มฮามาสตั้งที่พัก KCS ประเมิน 3 Scenario 1.) สงครามรุนแรงและขยายวงกว้างกลายเป็นสงครามในภูมิภาค (ให้น้ำหนัก 10%)  ประเมินราคาน้ำมันดิบมีโอกาสทะลุ 100 เหรียญ SET Index มีโอกาสปรับฐาน โซนแนวรับสำคัญ 1210 จุด(ใกล้ Low ปี 2557 และ อิง PER 2024F 13 เท่า ลดลงจากปัจจุบันไปอีก -1.5X) กลยุทธ์แนะหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันขึ้น PTTEP, PTT  2.) สงครามยืดเยื้อแต่ไม่รุนแรง, ไม่ขยายวงกว้าง Base Case (ให้น้ำหนัก 60%)  วางแนวต้านของน้ำมันที่ 92 เหรียญฯ มองแนวรับ 85/80 เหรียญ   SET ประเมินจะแกว่งตัวออกข้าง แนวรับโซน 1340-1300+-  3.) สงครามจบไว ไม่ขยายวงกว้าง (ให้น้ำหนัก 30%)  ประเมินราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับลง ต่ำ 83.6 เหรียญฯ แนะนำ ลงทุนหุ้นได้ประโยชน์น้ำมันลงเน้น  ICHI OSP BJC AAV ฯลฯ

What happened in Thailand ?.

•  (*/+) SET: SET Index ฟื้นตัวต่อเนื่อง +3.17 จุด +0.23% ทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย EMA 10 วัน บริเวณ 1365 จุด ก่อนปิด 1364.27 จุด กลุ่มหนุน คือ กลุ่มการแพทย์ (BH, BDMS) หนุนจาก BH รายงานกำไร 1Q24 ดีกว่าตลาดคาด 11% หนุนเกิดแรงเก็งกำไรคาดหุ้นกำไร ร.พ. อื่นมีโอกาสออกมาเด่นเช่นกัน กลุ่มชิ้นส่วนฯ (DELTA, HANA) หนุนจากเงินบาทยังเคลื่อนไหวอ่อนค่าเกินกว่า 37 บาท ขณะที่มีจังหวะอ่อนค่าแตะระดับ 37.2 บาท กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มพลังงาน (PTTEP, TOP) PTTEP ตอบรับราคาน้ำมันที่เริ่มนิ่งตามสถานการณ์สงครามอิสราเอล - อิหร่าน TOP ตามค่าการกลั่นเริ่มเป็นภาพอ่อนตัวในช่วง 2Q24 กลุ่มขนส่ง (AOT) มองอ่อนตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวสัปดาห์ล่าสุดที่ลดลง w-w หลังสงกรานต์

• (+) Flow : เงินทุนต่างชาติไหลเข้า ซื้อหุ้น +48.5 ล้านเหรียญฯ  ขายพันธบัตร -37.5 ล้านเหรียญฯ  TFEX สถานะ Net Long +22,074 สัญญา เงินบาททรงตัว 37.0+/- บาท

• (+) Short Sales Measures : ตลาดฯ แถลงมาตรการช่วยลดความผันผวนราคาหลักทรัพย์ (โดยเฉพาะที่เกิดจากการ Short Sales) และมาตรการลดพฤติกรรมซื้อขายไม่เหมาะสม คาดทยอยมีผลตั้งแต่ช่วงปลาย 2Q24 นำโดยมาตรการ Uptick ทุกหลักทรัพย์ (ให้ขาย Short ได้ที่ราคาสูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย) vs เดิมที่เป็น Zero-plus Tick (ขาย Short ได้ในราคาที่เท่ากับหรือสูงกว่าราคาสุดท้าย)             ขณะที่อีกมาตรการสำคัญ คือ การเดินหน้าการจัดให้มี Central Platform ตรวจสอบปริมาณหลักทรัพย์ก่อนการซื้อขาย Short มีผลปลาย 4Q24          เรามองทั้ง 2 ส่วนจะช่วยความผันผวนราคาหลักทรัพย์จากการขาย Short ในระยะถัดไปได้ เป็นบวกต่อตลาด และและอาจหนุนหุ้นที่มีสถานะคงค้าง Short Sales ถูก Cover กลับ

กลยุทธ์ ทีมกลยุทธ์ทำการคัดเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานระยะถัดไปน่าสนใจ ขณะที่ปัจจุบันเป็นหุ้นมีสถานะคงค้าง Short Sales สูง > 1% คาดถูก Cover กลับเป็นแรงหนุนหุ้น เน้น BTS (3.36%) HANA (3.23%) MTC (2.08%) KCE (1.76%) KBANK (1.5%) AWC (1.45%) SAWAD (1.19%) BEM(1.17%) OSP (1.01%) BH (1.03%)

• (*) Bank : สมาคมธนาคารไทย ประกาศลดดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) -0.25% สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคลและ SME เป็นเวลา 6 เดือน KCS ประเมินเป็นจิตวิทยาลบต่อกลุ่มธนาคาร           เรามองว่าธนาคารพาณิชย์จะทยอยประกาศโครงการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในการลดดอกเบี้ยรายย่อย (MRR) ทั้งนี้เรามองว่าผลกระทบต่อกำไรสุทธิ 2024F ไม่มาก เพราะเป็นการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม แต่มองเป็นบวกต่อกลุ่มอิงกำลังซื้อในประเทศ อาทิ ค้าปลีก เครื่องดื่ม เน้น CPALL, CPAXT, BJC, ILM, ICHI, OSP

• (*/+) SET 1Q24 Earnings  : รายงานผลประกอบการงบ 1Q24  วานนี้ จำนวนบริษัทที่รายงานกำไรแล้วอยู่ที่ 20 แห่ง หุ้นที่มีคาดการณ์กำไร กำไรดีกว่าคาด 2.8% +XX%y-y

กลุ่มที่ดีกว่าตลาดคาด คือ BH (+25%y-y, +15%q-q)

กลุ่มใกล้เคียงตลาดคาด คือ PTTEP (-3%y-y, +2%q-q)

ส่วนวันนี้ติดตามรายงานกำไร 1Q24 ของ DELTA (ตลาดคาด +31.9%y-y, +1.2%q-q)  และ ITC (ตลาดคาด +71.5%y-y, -4.9%q-q)

• (*) To monitor  : ติดตาม ยอดส่งออก - นำเข้า (Bloomberg คาดรายงาน 26-4 พ.ค.) ตลาดคาดยอดส่งออก -4%y-y vs prev. 3.6%y-y

 

Daily Strategy :  AOT, BTS, HANA เด่น

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "Sideways/Up" ภาพหลักมองตลาดจะแกว่งตัวได้ ตอบรับ US Bond Yield สหรัฐฯที่อยู่ในโซนพีคแล้ว ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มอ่อนลง น่าจะหนุน Fund Flow สู่เอเชีย ขณะที่ตลาดจะเริ่มใช้มาตรการลดความผันผวนของจากการขาย Short หุ้นและ Program Trading นำโดย Uptick Rule ตั้งแต่ปลาย 2Q24 และการเก็งหุ้น Real Sector ภาคบริการที่คาดรายงานงบ 1Q24 ดีเป็นหุ้นชุดถัดไป มองหุ้นนำ 1) หุ้นอิงภาคบริการ เก็งงบ 1Q24 หน้าร้อนที่ยาวนาน ผสาน สัปดาห์หน้าเข้าสู่ช่วง Golden Week นักท่องเที่ยวจีน ญี่ปุ่น เน้น AOT, MINT, CPALL, CPAXT, BJC (ตั้งรับ), ICHI, OSP 2) หุ้นที่มีโอกาสเห็นภาพ Cover Short เร่ง อาทิ BTS HANA MTC KCE


    หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกผ่านจุดต่ำสุด (IVL, PTTGC, HANA, SJWD, MENA, WICE, HANA, PTT)
    หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรการภาครัฐฯ บริโภค ท่องเที่ยว (CPALL, CPAXT, BJC, OSP, ICHI, ILM, AOT, AAV, MINT)
    กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, GPSC,  CPALL, TRUE, MINT,  BE8, WARRIX, MTC)
    กลุ่ม Dividend Plays (AP, MC, SC, SIRI)
    กลุ่มได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ฤดูร้อน (ICHI, OSP, CPALL, CPAXT, AOT, AAV, MINT)

 

• APR24 Best Picks: AOT,  CPAXT, ICHI, IVL, OSP, HANA, MINT

• 2Q24Stock Picks : AOT, BJC, HANA, HMPRO, IVL, JMT, MINT, MTC, SCGP, TU Mid-Small Cap Play : OSP, WARRIX, SJWD, STEC


 Tactical & Investment Idea
    
 • Strategy Update : War Tension

Fact  : สถานการณ์ความตึงเครียดตะวันออกกลางผันผวนสูงในช่วงเดือน เม.ย.2024  KCS ประเมินสถานการณ์สงครามเป็น  3 Scenario

1.)  Worst Case(ให้น้ำหนัก 10%): สงครามรุนแรงและขยายวงกว้างกลายเป็นสงครามในภูมิภาค (ประเทศพันธมิตรของทั้ง 2 ฝั่งเข้าร่วมรบ) ประเมินราคาน้ำมันดิบทะลุ 100 เหรียญฯ มอง SET Index มีโอกาสปรับฐาน โซนแนวรับสำคัญ 1210 จุด(ใกล้ Low ปี 2557 และ อิง PER 2024F 13เท่า ลดลงจากปัจจุบันไปอีก -1.5X) 〽️กลยุทธ์แนะหุ้นกลุ่มพลังงานต้นน้ำได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันขึ้น PTTEP, PTT, TOP, SPRC เน้น PTTEP,  TOP

◾️2.)Base Case (ให้น้ำหนัก 60%) : สงครามยืดเยื้อแต่ไม่รุนแรง, ไม่ขยายวงกว้าง ประเมินราคาน้ำมันดิบจะค่อยๆแกว่งตัวลง วางแนวต้านของน้ำมันที่ 92 เหรียญฯ มองแนวรับ 85/80 เหรียญ   SET ประเมินจะแกว่งตัวออกข้าง แนวรับโซน 1340-1300+- น่าจะประคองอยู่ (อิง PER 14.3-14X ซึ่งเป็นกรอบ ERP เกือบแตะ +1SD หรือ 3.7-4% สะท้อน Value Zone ที่น่าลงทุนกลางยาวมากๆ ถูกสุดตั้งแต่ Covid 2019)  ส่วนแนวต้านสั้น 1365/1380จุด จนกว่าสถานการณ์จะคลาย Upside จะกว้างขึ้น    〽️กลยุทธ์แนะลงทุนหุ้นอิงบริโภคและบริการ เน้น BJC, ICHI, CPALL, CPAXT, AOT, OSP, GPSC, IVL, SCGP

3.)Best Case(ให้น้ำหนัก 30%)  : สงครามจบไว ไม่ขยายวงกว้าง ประเมินราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับลง ต่ำ 83.6 เหรียญฯ SET Index  มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นเหนือแนวต้าน 1400 จุด ได้ไว ใน 1 สัปดาห์  〽️กลยุทธ์แนะลงทุนหุ้นที่ลงแรงและพื้นฐานดี ได้ประโยชน์น้ำมันลงเน้น  BJC, ICHI, CPALL, CPAXT, AOT, OSP, GPSC, IVL, SCGP  AAV,HANA, MTC

 

• Strategy Update : SET50/100 2H24 Second update

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงเกณฑ์สภาพคล่องเพื่อคัดเลือกหุ้นเข้า/ออก SET50-SET100 (เปิดรับฟังช่วงระหว่าง 11-26 เม.ย.) เพื่อให้ดัชนีสะท้อนการเคลื่อนไหวของหลักทรัพย์และมีผลตอบแทนตามวัตถุประสงค์ของการจัดทำดัชนี และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำการเปลี่ยนจากการกำหนดค่าเริ่มต้นของสภาพคล่อง  จากเดิม (Trading Value 50%, Turnover Ratio 2%) และปรับลดระดับลงมาเพื่อให้ได้หุ้นครบจำนวน 105 หุ้น เป็น การใช้เกณฑ์ขั้นต่ำ (Trading Value ไม่น้อยกว่า 25%, Turnover Ratio ไม่น้อยกว่า 1%) ซึ่งผลลัพธ์ของหุ้น SET50-100 ย้อนหลัง 10ปี ไม่ต่างจากเดิมมากนัก ทำให้ KCS คาดว่ามีโอกาสสูงที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะนำเกณฑ์ดังกล่าวมาใช้ในการคัดเลือกหุ้นเข้าและออกดัชนี SET50-SET100 ในรอบ 2H24 นี้ทันที ดังนั้นเราจึงจัดทำคาดการณ์รายชื่อหุ้นเข้า/ออก SET50-SET100 สำหรับรอบ 2H24 อีกครั้ง ก่อนที่ตลาดจะประกาศการคัดเลือกหุ้นเข้าออกรอบนี้ในช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2024 และมีผลเริ่มใช้ 1 ก.ค. 2024 โดยสำหรับผลการคำนวนในรอบนี้ใช้ข้อมูลตั้งแต่ 1 พ.ค. 2023 – 17 เม.ย. 2024 (ยังเหลือข้อมูลราว 6 สัปดาห์) ผลของการคาดการณ์น่าจะมีความใกล้เคียงสูงในส่วนของ SET50 แต่อาจคาดเคลื่อนในบางส่วนในชุดหุ้น SET100 ซึ่งคาดว่าบทวิเคราะห์ฉบับนี้จะช่วยให้นักลงทุนเตรียมตัวสำหรับการลงทุนในดัชนี SET50 และ SET100 ล่วงหน้าได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

 ➕ หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบนี้มี 4 บริษัท คือ BJC (โอกาสเข้า 100% กรณีปรับเกณ์), BCP (โอกาสเข้า 90%), TIDLOR (โอกาสเข้า 90%) และ ITC (โอกาสเข้า 70%)

➖หุ้นคาดว่าจะหลุด SET50 รอบนี้ 4 บริษัท คือ BANPU, (โอกาสหลุด 70%), SAWAD (โอกาสหลุด 70%), KCE (โอกาสหลุด 90%) และ COM7 (โอกาสหลุด 90%)

➕หุ้นที่คาดเข้า SET100 รอบนี้มี 7 บริษัท คือ BJC, BA, MBK, CKP, QH, SKY, JAS

➖ หุ้นที่คาดว่าจะหลุด SET100 รอบนี้ 7 บริษัท คือ AURA, FORTH, MOSHI, ORI, RCL, SNNP, TKN

กลยุทธ์ :แนะนำ เก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 โดย เราชอบ BJC, BCP และ ITC ส่วน SET100 เราแนะนำเก็งกำไร BA

 

• Strategy Update : Summer Play

Fact : กรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยว่า ไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนในปี 2024 ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 เดือน ก.พ. 24 โดยคาดหมายว่าอุณหภูมิจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติและปี 2023 ราว 1 องศา ทีมกลยุทธ์ KCS ประเมินเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากอากาศร้อน อาทิ กลุ่มเครื่องดื่ม กลุ่มค้าปลีก กลุ่มห้างสรรพสินค้า กลุ่มโรงแรม

Key Ideas : อิงผลการศึกษา 8 ปีย้อนหลัง หากซื้อก่อนเข้าสู่หน้าร้อน 1 เดือน หุ้นกลุ่มโรงแรม เครื่องดื่ม กลุ่มค้าปลีก มักให้ผลตอบแทนเด่น เฉลี่ย +2.5%  +2.2% และ +1.6% vs SET +0.5%

ทั้งนี้ หากซื้อวันที่เข้าสู่ฤดูร้อน และขายหลังจากนั้น 1 เดือน หุ้นโรงแรม เครื่องดื่ม และค้าปลีกจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเด่น +3.5% +3.9% และ 1.9% vs SET +1.5%

Strategy : การลงทุนที่ดีที่สุดในการลงทุนก่อนเข้าสู่หน้าร้อน คือ แนะนำซื้อหุ้นในธีม Summer Play  ก่อน 1 เดือน และถือจนเข้าสู่หน้าร้อน คาดจะได้รับผลตอบแทนเป็นบวกสูงที่สุด โดยอิงภาพทางพื้นฐานปี 2024F ประกอบ เราแนะนำ เครื่องดื่ม เน้น ICHI ค้าปลีก เน้น CPALL CPAXT ท่องเที่ยว+โรงแรม เน้น AOT AAV MINT

• Strategy Update: Dividend Plays

Fact :  ช่วงปลายเดือน ก.พ. - พ.ค.2024  จะเข้าสู่เทศกาลจ่ายปันผลประจำปี 2023 ของบริษัทจดทะเบียน   ทีมกลยุทธ์ KCS จึงได้รวบรวมหุ้นที่คาดจะจ่ายปันผลช่วง 2023F (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลครั้งเดียว) หรือ 2H23F (สำหรับบริษัทที่จ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง) จากคาดการณ์ของ KCS และ Consensus เพื่อนำมาคัดสรรหุ้นปันผลสูง (High Dividend) คือ Dividend Yield มากกว่า 2.0% สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะ 1-2 เดือนแรกของปี ใน "Theme 2H23F Dividend Play"

Key Ideas:

    KCS ได้ทำการศึกษาสถิติผลตอบแทนหุ้นปันผล(SETHD) ย้อนหลัง 10 ปี พบว่า SETHD ในช่วงเดือน ม.ค. – ก.พ. ของทุกปี ผลตอบแทนมักเป็นบวก เดือน ม.ค. ผลตอบแทนบวก 7 ใน 10 ปี เฉลี่ย +0.97%, เดือน ก.พ. บวก 8 ใน 10 ปี ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +0.91%
    SETHD ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของทุกปี (งวด 1Q)  ผลตอบแทนเป็นบวก 8 ใน 10 ปี  เฉลี่ย +1.47%)

Strategy: ในเชิงกลยุทธ์ KCS แนะนำซื้อหุ้นปันผลสูงก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD 2 สัปดาห์แล้วขายวันที่ขึ้นเครื่องหมาย XD (dividend capture) มักจะให้ผลตอบแทนที่ดี ทีมกลยุทธ์ KCS ได้ทำการคัดกรองหุ้นปันผลเด่น 2H23F ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ คือ 1) เป็นหุ้นที่จะจ่ายเงินปันผล 2023F/2H23F สูงกว่า 2%  2) เป็นหุ้นพื้นฐานที่มีแนวโน้มการเติบโตหรือกระแสเงินสดมั่นคง หรืออยู่ใน Theme การลงทุนหลักของ KCS ปี 2024 อาทิ Theme ดอกเบี้ยผ่านจุดพีคไปแล้ว กลุ่มหุ้นที่หนุนเศรษฐกิจไทยปี 2024F ฟื้นตัวมากกว่าศักยภาพ 3.0% ฯลฯ โดยเรียงตามอัตราตอบแทนเงินปันผลจากสูงไปต่ำ พบว่ามีหุ้นปันผลเด่น 11 บริษัท คือ

 

หุ้น Big Cap ได้แก่ AP(TP-15.5,Yield 2H23F-5.7%)  LH(TP-9.5,Yield 2H23F-4.9%) SAWAD (TP-53,Yield 2H23F-4.3%) TIDLOR(TP-30,Yield 2H23F-2.8%) WHA(TP-6.4,Yield 2H23F-2.4%)INTUCH(TP-85, Yield 2H23F-2.4%) ADVANC(TP-264, Yield 2H23F-2.0%)

 

หุ้น Mid Cap ได้แก่ MC(TP-16,Yield 2H23F-6.3%) NER(TP Con-6.1,Yield 2H23F-4.5%)  SC (TP-4.5, 2H23F-4.34%) SIRI(TP-2.2,Yield 2H23F-3.8%)


โดยทีมกลยุทธ์ KCS ได้ทำการศึกษาสถิติหุ้นปันผลเด่น 11 บริษัทดังกล่าวข้างต้น ย้อนหลัง 8 ปั  พบว่าหากลงทุนซื้อหุ้นก่อน 2 สัปดาห์และขายวันที่ขึ้น XD พบว่า ผลตอบแทนเป็นบวก   โดยหุ้นที่ให้ Return มากที่สุด คือ TIDLOR +5.4%, ADVANC +3.7%,  INTUCH +2.2%, ส่วน WHA, AP,SIRI, MC, NER ผลตอบแทนอยู่ในช่วง + 1.2 -1.5% เท่ากับว่า การลงทุนหุ้นกลุ่ม High Dividend ในช่วงเวลาดังกล่าว หลายๆครั้งนักลงทุนจะได้รับเงินปันผลฟรี
 
    

Research Highlight

• NER (Trading Buy, TP*5.75):   เรามีมุมมองบวกต่องบ 1Q24F แต่ลบเล็กน้อยต่องบ 3Q24F คาดกำไรปกติ 462 ลบ. ใน 1Q24F เพิ่ม +52%y-y +8%q-q เพราะราคาขายที่ +15%y-y +9%q-q เพียงพอชดเชยปริมาณขายที่ -10%y-y -10%q-q ทำให้ GPM เพิ่ม y-y q-q จากการบริหารมาร์จิ้นได้ดี สำหรับ 2Q24F คาดกำไรปกติยังเพิ่ม q-q ด้วยอานิสงส์ราคายางเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามใน 3Q24F จะเป็นภาพที่ท้าทายเพราะราคายางที่ลดลงอย่างรวดเร็วในเดือนเมย จะทำให้มาร์จิ้นและราคาขายใน 3Q24F หดตัวลง คาดกำไรปกติจะลด q-q ประเด็นที่จับตาคือลูกค้าจีนที่ความต้องการอ่อนตัว ซึ่งเกิดขึ้นใน 1Q-2Q24F ถ้ายังอ่อนตัวอีกใน 2H24F อาจทำให้เป้าหมายปริมาณขายของ NER ไม่เป็นไปตามเป้า และอาจทำให้กำไรสุทธิอ่อนตัวได้ ปัจจุบันแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ยังดีใน 1Q-2Q24F ทำให้เรายังคงแนะนำ Trading Buy NER ด้วย TP 24F ที่ 5.75 บาทลดจากเดิมเพื่อสะท้อน dilution effect ของวอร์แรนต์ (XR ไปแล้วเมื่อวันที่ 22 เมย ให้ 6 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ ราคาใช้สิทธิ 5.50 บาท)

 2Q24F Equity Outlook :      Entering into "Search of Yield", Standby for Asia & Thailand Recovery
·        Stock Best Picks :     AOT, BJC, HANA, HMPRO, IVL, JMT, MINT, MTC, SCGP, TU
·        Mid-Small Cap Play :   OSP, WARRIX, SJWD, STEC


Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
AOT (TP24F Con-75.3)  S 63.75/63 R: 65.25/66 (Stop Loss: <62.75)
            Theme: Service Sector Plays
    Earnings outlook:         คาดกำไรสุทธิ 2Q23/24F ที่ 6.1 พันลบ. (+230% y-y +35% q-q) ฟื้นแข็งแกร่งต่อเนื่องตามการฟื้นของผู้โดยสารและเที่ยวบิน แนวโน้มกำไร 3Q23/24F จะเริ่มอ่อนตัว q-q ตามฤดูกาล แต่ยังมองเติบโตสูง y-y ได้ต่อเนื่อง
    Valuation: ซื้อขาย PER23/24F ที่ 47.79 เท่า แต่ยังไม่รวม Upside จำนวนมาก อาทิ ผลบวกนักท่องเที่ยวไทยไปจีน การจัดงานเทศกามหาสงกรานต์รัฐฯ + การพิจารณา Entertainment Complex ครม. วันนี้หนุนระยะกลาง-ยาว
    Catalyst: มองราคาหุ้นตอบรับนักท่องเที่ยวรายสัปดาห์ระยะสั้นอ่อนตัว w-w ไปแล้ว ขณะที่สัปดาห์นี้จะเร่งขึ้น จากการเข้าสู่ Golden Week นักท่องเที่ยวจีน+ญี่ปุ่นช่วงวันแรงงาน


HANA (TP24F-51.6): S:  38.5/38 R: 40.5/41 (Stop Loss: <37.75)
  

    Theme: Short Sales Measure Plays  
    Earnings outlook:   1H24 HANA อาจยังไม่มีพัฒนาการนัก และน่าจะดีขึ้นใน 2H24 ปัจจัยบวกใน 1H24 มีเพียงกลุ่ม PCBA ของโรงงานลำพูนและสหรัฐยังดีอยู่ ปัจจัยลบคือกลุ่มเซมิฯของอยุธยายังช้า กลุ่มเซมิฯในโรงงานจีนยังขาดทุนเพราะลูกค้าในจีนอ่อนตัว ส่วนโรงงานที่เกาหลี เครื่องจักรยังไม่เพียงพอ น่าจะยังอ่อนตัว สำหรับ 2H24 สิ่งที่จะดีขึ้นคือเซมิฯของอยุธยา และ โรงงานเกาหลีมีเครื่องจักรเพียงพอแล้ว สิ่งที่ยังรอดูต่อคือการปรับโครงสร้างโรงงานเซมิฯในจีน ซึ่งยังมีผลการดำเนินงานขาดทุน
    Valuation:   :   PER2024F ที่ 15.0 เท่า ไม่แพงเทียบรอบการฟื้นตัวที่ซื้อขาย 20 +/- เท่า)
    Catalyst: เป็นหุ้นที่มีสถานะ Short ที่ยังไม่ถูก Cover สูงเป็นลำดับต้นของตลาดในปัจจุบัน ทำให้มีโอกาสถูก Cover Short เร่งจากการที่ตลาดเตรียมทยอยออกมาตรการลดความผันผวนจากการขาย Short และ Program Trading นับจากปลาย 2Q24

  
BTS (TP Con24F-7.2):  S:  6.15/6.0 R: 6.5/6.55 (Stop Loss: <5.9)
   
    Theme :  Short Sales Measure Plays  
    Earnings outlook : มองกำไรงวด 3Q24 (สิ้นสุด ธ.ค. 23) เป็นจุดต่ำสุดแล้ว โดยไม่มีการตั้งด้อยค่าเพิ่มเติมแล้ว โดยตลาดคาด BTS จะเริ่มกลับมามีกำไรราว 150-200 ล้านบาทในงวด 4Q24 จากแรงขับเคลื่อนธุรกิจปกติ
    Valuation:  PBV2024F ที่ 1.3 เท่า vs ค่าเฉลี่ย XX เท่า
    Catalyst: เป็นหุ้นที่มีสถานะ Short ที่ยังไม่ถูก Cover สูงเป็นลำดับต้นของตลาดในปัจจุบัน ทำให้มีโอกาสถูก Cover Short เร่งจากการที่ตลาดเตรียมทยอยออกมาตรการลดความผันผวนจากการขาย Short และ Program Trading นับจากปลาย 2Q24


Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(KCS)

Strategist Team
Suwat Wattanapornprom,AISA: Analyst Registration (No.044015)
Fundamental Investment Analyst on Securities
Suwat. Wattanapornprom @krungsricapital.com 02-081-2871
Takit Chardcherdsak,AISA: Analyst Registration (No.087636)
Fundamental Investment Analyst on Capital Market and Technical
Takit.Chardcherdsak@krungsricapital.com 02-081-2873
Thian Kanokpongsak
Assistant Analyst

ณภัค ภัทรสุปรีดิ์

: เรียบเรียง โทร : 02-276-5976 อีเมล์ : reporter@hooninside.com ที่มา : สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

เก็งหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งขึ้น ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนการเล่นการเทรดเป็นไปตามแรง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้