Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส : SCGP แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 42 บาท

309

 

SCGP คำแนะนำ ซื้อ
ราคาปิด 31 บาท ราคาพื้นฐาน 42 บาท
คาดปี 67F ฟื้นตัวดีขึ้น


-Core Profit งวด 4Q66 ดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ บริษัทรายงานก าไรสุทธิ 4Q66 เท่ากับ 1.2 พันล้านบาท เติบโต+171%YoY แต่ -8%QoQ เป็นไปตามที่เราคาดไว้ การลดลง QoQ เป็นผลจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยและภาษีสูงขึ้นรวมถึงมีขาดทุน FX 100 ล้านบาท แต่หากพิจารณากำไรจากการดำเนินงานที่เป็นเงินสดก่อนหักดอกเบี้ย & ภาษี(EBITDA) และไม่รวมรายการพิเศษ พบว่า Core EBITDA อยู่ที่ 4.16 พันล้านบาท เติบโต +15%YoY และ +4%QoQ
โดย EBITDA margin เพิ่มขึ้นเป็น 13.1% ใน 4Q66(จาก 10.8% ใน 4Q65 และ 12.6% ใน 3Q66)ปัจจัยหนุนการดำเนินงานปกติงวด 4Q66 คือ 1) การแข่งขันตัดราคาในอินโดนีเซียผ่อนคลายลง, 2) ปริมาณขายบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น และ 3) บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


-ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับ 2H66 เท่ากับ 0.30 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 เม.ย.67


- งวด 1Q67F มีส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น 70% ใน Starprint Vietnam JSC (SPV) ช่วยหนุนด้วย หลังจากดีลซื้อขายแล้วเสร็จในปลายเดือนธ.ค.66 เราคาดว่า SCGP จะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาใน 1Q67Fราว 25 ล้านบาทและในปี 67Fอย่างน้อย 100 ล้านบาท แม้ว่าจะเป็นสัดส่วนที่น้อยราว 1.4% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิปี 67F ของSCGP ที่ประมาณ 7 พันล้านบาท แต่ก็เป็นบวกมากขึ้นในระยะยาว จากการที่ SCGP เข้าไปช่วย SPV พัฒนาและเพิ่มคุณภาพบรรจุภัณฑ์ทำให้มีกำไรสูงขึ้น รวมถึง SCGP ได้ขยายฐานลูกค้า MNC ในเวียดนามด้วย


- คาดธุรกิจหลักช่วง 1Q67F จะดีขึ้นต่อ QoQ เพราะ 1) อุปสงค์บรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นในช่วงตรุษจีน, 2) เริ่มมีสัญญาณว่าอุปสงค์ในจีนจะค่อยๆดีขึ้น จากจีนนำเข้าบรรจุภัณฑ์กระดาษราว 8.4 แสนตันในเดือนพ.ย.66 ซึ่งสูงกว่าก่อนโควิด, 3) ราคาบรรจุภัณฑ์กระดาษในจีนอยู่ในขาขึ้น, 4) การแข่งขันด้านราคาในอินโดนีเซียลดลงไปมาก และ 5)มีการเลือกตั้งในอินโดนีเซียช่วงกลาง 1Q67(ผู้บริหารคาดว่า Fajarจะถึงจุดคุ้มทุนปลายปี 67)


- คงคำแนะนำซื้อ SCGP ให้ราคาพื้นฐาน 42 บาท (DCF) ราคาหุ้นปัจจุบันลดลงและต่ำกว่าราคา IPO ที่ 35 บาทสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว ขณะที่ธุรกิจปี 67F อยู่ในช่วงฟื้นตัว ปริมาณขายและ EBITDA margin สูงขึ้น คาดกำไรสุทธิปี 67Fเติบโตแกร่ง +42% เป็น 7.3 พันล้านบาท ส่วนปัจจัยหนุนระยะยาว คือ การขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์โดยใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง, การบริโภคขยายตัว, การใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษแทนพลาสติกเพื่อลดผลกระทบต่อ
สิ่งแวดล้อม, การขยายของมือง พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง, เข้าซื้อกิจการ ทั้ง M&A และ M&P เพิ่มขึ้น


-ปัจจัยเสี่ยงหลัก คือ ราคาวัตถุดิบเพิ่มเกินคาด, การแข่งขันสูง, ผลตอบแทนจากบริษัทที่เข้าไปลงทุนต่ำกว่าคาด

นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethb@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

เก็งกำไรงบ บจ. By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม มองห้วงการเก็งกำไร ประเด็นงบไตรมาสแรกปีนี้ น่าจะเป็นสตอรี่ที่นักลงทุน ให้น้ำหนักการเก็งกำไร หรือ แม้งบอาจ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้