ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
AGI: ชื่อดูธรรมดา แต่ความสามารถไม่ธรรมดา
คุยกันเรื่องเมกะเทรนด์ครั้งนี้เราจะพูดถึง Theme AI สืบเนื่องมาจากประเด็นที่ตลาดเกิดคำถามในช่วงนี้ว่า หุ้นกลุ่ม AI ที่ปรับตัวขึ้นมานั้น ถึงจุดพีคแล้วหรือยัง ?

โดยทั่วไปแล้วจุดพีคของหุ้นมักจะมาพร้อมกับการที่ราคาปรับขึ้นมาจนสะท้อนแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวไปหมดแล้ว ซึ่งถ้ามาดูราคาหุ้นก็ดูเหมือนว่าจะสะท้อนการเติบโตของ AI ไปมากในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เช่น NVIDIA ปรับตัวขึ้นนับตั้งแต่ต้นปี 2023 ถึง 475% อย่างไรก็ตาม ธีมที่เข้ามาหนุนหลักๆมาจาก Generative AI ซึ่งยังไม่ใช่จุดพีคของเทคโนโลยี เพราะฉะนั้นเราจึงไม่คิดว่าธีม AI จะถึงจุดจบของการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากทีเด็ดถัดไปของธีมนี้ ก็คือเทคโนโลยี AGI หรือ Artificial General Intelligence โดยหากพัฒนาได้สำเร็จก็จะสามารถเพิ่ม productivity ได้เป็นอย่างมาก

ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพขึ้น โดยเอายุคของ AI มาเทียบกับโทรศัพท์ … เทคโนโลยีที่พัฒนาจากโทรศัพท์ในยุคแรกที่เป็น Fixed Line ขึ้นมาเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ ก็ทำให้การติดต่อสื่อสารยืดหยุ่นขึ้น นำมาสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เทียบได้กับ AI ในสมัยก่อนที่ทำงานแบบไม่ซับซ้อนนัก จนกลายมาเป็น Gen AI ที่มีความฉลาดขึ้น ทำงานเชิงสร้างสรรค์ได้มากขึ้น...

...จาก Fixed Line เปลี่ยนมาเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ แรกๆก็ดูเจ๋งแล้ว แต่พอเข้าสู่ยุค Smart Phone กลับกลายเป็นว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เป็นระบบ analog หรือ digital ก็ดูธรรมดาไปเลย เพราะเทียบไม่ได้กับประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ฉบับย่อส่วนที่สามารถพกพา พูดคุย และทำงานได้ และมันก็ยังสร้างอาชีพและธุรกิจเชื่อมโยงขึ้นมาอีกมากมาย เช่น YouTuber และ Social Media ต่างๆ ซึ่งหากโยงกลับมาเทียบกับเรื่อง AI ... Gen AI ก็เปรียบเสมือน Nokia 3310 ในต้นทศววรษ 2000 แต่ AGI ก็เปรียบเสมือน iPhone ที่เปิดตัวในปี 2007 ที่ฉีกกฏโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเดิม เนื่องจากได้เปลี่ยนภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือไปอย่างสิ้นเชิงจากคุณสมบัติอันเป็นเลิศกว่าในหลายๆด้าน ทำให้มูลค่าตลาดของหุ้น Apple แซงหน้า Nokia ได้ภายหลังจากนั้นเป็นร้อยเท่าตัว

AGI คืออะไร? แตกต่างจาก Gen AI อย่างไร?...AGI คือ ประเภทหนึ่งของ AI ที่ความสามารถเรียกได้ว่าใกล้เคียงหรือเทียบเท่ามนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการคิด ทำความเข้าใจ เรียนรู้ สามารถประยุกต์ใช้ความสามารถในการแก้ไขปัญหาได้เองเลย ซึ่งต่างจาก Gen AI ที่ใช้กันตอนนี้ ที่จัดอยู่ในประเภทของ Narrow AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่องานเฉพาะด้าน เช่น เขียนบทความ วาดภาพ หรือแต่งเพลง แต่ไม่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับงานอื่นๆ ได้ เพราะฉะนั้นศักยภาพในการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับทั้งภาคธุรกิจของ AGI จึงมีสูงมาก

สถานะของ AGI ปัจจุบันอยู่จุดไหน? เทคโนโลยีปัจจุบันยังไปไม่ถึงขั้นของ AGI แต่หลายๆตัวอย่างของ AI ที่ใช้กันในทุกวันนี้ ก็ชี้ถึงศักยภาพที่จะต่อยอดไปถึง AGI ได้ในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น GPT-4 ของ OpenAI มีความสามารถด้านภาษาได้ใกล้เคียงมนุษย์ ซึ่ง Sam Altman เคยกล่าวว่า GPT-4 อาจมองได้ว่าเป็นระบบ AGI เวอร์ชั่นแรกเริ่ม หรือ อย่างหุ่นยนต์ Humanoid ที่ชื่อ Figure 01 ที่พัฒนาโดยบริษัท Figure AI กับ OpenAI ก็มีคลิปที่ปล่อยออกมาเมื่อกลางเดือน มี.ค. ที่สร้างความฮือฮา เพราะแสดงให้เห็นว่าหุ่นยนต์นี้สามารถอธิบายสิ่งที่เค้ามองเห็นได้ออกมาเป็นภาษาพูด และสามารถวางแผนได้ด้วยว่าจะทำอะไรต่อไป รวมถึงยังบอกเหตุผลที่มาที่ไปของการกระทำ เรียกได้ว่ามีการพูดและกระทำโต้ตอบกับคนได้อย่างแนบเนียน

คนมีชื่อเสียงในวงการก็เริ่มมีหลายคนมากขึ้นที่ออกมาพูดถึงอนาคตที่ใกล้เข้ามาของ AGI ไม่ว่าจะเป็น Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ที่เพิ่งออกมาบอกว่าเชาเชื่อว่าจะเห็นความสำเร็จของ AGI ภายใน 5 ปีข้างหน้า หรือ Demis Hassabis ซีอีโอของ DeepMind มีมุมมองที่คล้ายกัน โดยกล่าวว่าความก้าวหน้าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นน่าทึ่งมาก และคาดการณ์ว่า AI ระดับมนุษย์อาจเกิดขึ้นได้ภายในปี 2030 (อ่านรายงานฉบับเต็มคลิกที่นี่)

สรุปภาพตลาดวานนี้
ดัชนีหุ้นไทยยังดิ่งชดเชยวันหยุด หุ้นบูลชิพกอดคอ ลงต่อ PTT PTTEP EA PTTGC GULF BGRIM GPSC ADVANC SCB BBL ออกอาการเหมือนเมื่อวาน เช้าๆยืนเหมือนจะสู้ แต่เป็นสัญญาณหลอก สายๆตกบ่าย กอดคอร่วงยกแผง...

แนวโน้มตลาดวันนี้
พายุที่พัดมากำลังจะ ผ่านไป (รออีกนิด)
วิตกภัยสงครามกับสถานการณ์ตะวันออกกลางครั้งล่าสุด บวกกับ ตลาดคาดทิศทางดอกเบี้ยเฟดน่าจะตรึงไว้นานกว่าที่คิด เปรียบเสมือนพายุฤดูร้อนพัดถล่มตลาดหุ้นไทยช่วง 1-2 วันทำการที่เปิดทำการมา โดนแรงขายชดเชยวันหยุดยาวไปเรียบร้อย และเราคาดว่าพายุกำลัง จะพัดผ่านไปในอีกไม่กี่อึดใจ...
ระยะสั้น สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เราต้อง กลับคำแนะนำ หันมาเพิ่มความระมัดระวัง และชะลอการเร่งโหลดหุ้น...แต่รอบนี้จะไม่ลงรุนแรงจากการ Call margin เพราะวอลุ่มจากการเล่นหุ้นด้วย มาร์จิ้นหดหายไปอย่างมีนัยยะ.

เราเชื่อว่าเมื่อพายุพัดผ่านไป ตลาดหุ้นไทยจะรีบาวด์จากโซน 1,360 จุด ได้อีกครั้ง “สรุปหุ้นไทย เล่นไปเล่นมา กลับมาที่ก้นแนวรับเดิม โซน 1,350 จุด บวกลบ และเด้งยังไม่พ้นโซน 1,400 จุด ไปได้ไกล”

เหมือนเมื่อวาน คาดหุ้นไทย มีโอกาสเริ่มรีบาวด์ได้ แต่ยังต้องระวังหุ้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจาก ดอกเบี้ย และภัยสงคราม เช่น อิเล็กทรอนิกส์ (ต้นทุนโลหะ พุ่ง), ธุรกิจห้าง สินค้าบริโภค เกี่ยวโยงยุโรปเช่นภาคการท่องเที่ยว (น้ำมันแพง สินค้าแพง ค่าตั๋วเครื่องบินแพงจากการคว่ำบาตรอิหร่าน และกำลังซื้อหด), ธุรกิจที่พึ่งพิงพลังงานในการผลิต (โรงไฟฟ้า, เครื่องบิน), สินเชื่อฯ (ดอกเบี้ยแพงไม่ยอมลงง่ายๆ) เป็นต้น

กลยุทธ์การลงทุน
ระมัดระวัง ไม่ต้องรีบโหลดหุ้นที่ได้รับผลกระทบดังที่กล่าวมา ส่วนนักเก็งกำไรแนะเบนเข็มไปหากลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET ทดสอบป้อมปราการ….ด่านรับสำคัญ ซูมกราฟ 60 นาทีพบว่าดัชนี recovery 2 ชม. สุดท้ายก่อนปิด เข้าข่ายเปิดสูงปิดต่ำ “Hammer” นอกจากนี้ RSI 60 min ลงเข้าสู่เขตแดน oversold อีกจุดที่น่าเป็นห่วง….ตปท รีบาวด์ขึ้นได้ทั้งหมด ยกเว้นดัชนีหุ้นไทย ส่วนวันสุดท้ายของสัปดาห์ ตลาดอาจกังวลต่อสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ดังนั้นดัชนีวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวแคบๆ หรือปรับตัวลงได้เล็กน้อย เรายังคงคาดว่า SET support หลักบริเวณ 1350-1360 จุด….ต้องสู้ ต้องยืนให้ได้…..

What to watch
ติดตามพัฒนาการ ภาวะภัยสงครามในตะวันออกกลาง ลุ้นว่าจะนิ่งขึ้นหรือไม่(หากชาติพันธมิตรอิสราเอล ช่วยเกลี้ยกล่อมไม่ให้อิสราเอล ตอบโต้อิหร่าน)
การปรับ ครม.ในประเทศ
การเดินหน้าคว่ำบาตร อิหร่าน ของชาติพันธมิตรสหรัฐ
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดดอกบี้ยเร็วๆนี้ หากไม่มีเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย

หุ้นแนนำวันนี้
PSLความกังวล สงคราม กระทบการปิดช่องแคบฯและเส้นทางเดินเรือต้องวิ่งอ้อม หนุนค่าระวางฯ ระยะสั้น (S 7.8 R 8.5/9 SL 7.5)

รายงานพื้นฐานวันนี้

Fundamental Portfolio
ปรับพอร์ต
เพิ่ม MEB: คาดกำไร 1Q24 จะออกมาดีกว่าตลาดคาด หนุนโดยอุปสงค์จากงาน 2024 E-book Fair
เพิ่ม WHA: ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันมีการโอนที่ดินค่อนข้างมาก และยังมีอัพไซด์ต่อเนื่องใน 2H24 จากการอนุมัติมาตรการส่งเสริมจาก BOI
ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันพอร์ตเราขาดทุน 4.8% ใกล้เคียงกับตลาดที่ 3.9%

ONEE
(Non-Rated)
เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์
โมเดลธุรกิจระยะกลางมีโอกาสเติบโตดีกว่ากลุ่ม
แม้ว่าในระยะสั้น ONEE จะโดนกระทบจากภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว แต่คาดผลกระทบจะน้อยกว่าสื่อทีวีอื่น เนื่องจาก ONEE ถือเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ที่สามารถหารายได้จากหลายช่องทางปีล่าสุดสัดส่วนรายได้จากสื่อทีวีลดลงมาเหลือเพียง 44% การสร้างรายได้จากการเป็นเจ้าของคอนเทนต์สามารถได้หลายช่องทางทั้ง OTT, Online รวมถึงการบริหารศิลปิน ซึ่งตอนนี้มีมากว่า 200 คน และสร้างสัดส่วนรายได้กว่า 16% จากศิลปินเบอร์ต้นๆ 30-40 คน โดยส่วนแบ่งที่ ONEE ได้จากธุรกิจนี้อยู่ที่เพียง 20% เทียบกับบริษัทระดับโลกหลายเจ้าที่สูงถึง 70% นอกจากนี้เรามองว่ามีโอกาสที่ ONEE จะต่อยอดในการขายสินค้าโดยการใช้ศิลปินในเครือสร้างรายได้ในอนาคต
Fundamental View: เราไม่ได้ให้คำแนะนำ สำหรับ ONEE

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน