Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.กรุงศรี พัฒนสิน : KCS Daily Strategy

211


"Rate Cut Cycle Plays"

KCS Daily Strategy : คาด SET วันนี้ "Up" ต้าน 1382/1393 จุด รับ 1368/1364 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯขึ้นเฉลี่ย +1.06% โดย Dow Jones และ S&P500 เดินหน้าทำ All time high ผลประชุม Fed คงดอกเบี้ยที่ 5.25-5.5% และให้มุมมอง "Neutral" สอดคล้องกับ MUFG คาด ขณะที่ Dot Plot คงลดดอกเบี้ยปี 2024F 3 ครั้ง(การปรับดอกเบี้ยช้าสุดไม่น่าจะเกิน ก.ย. 24) ด้านเศรษฐกิจ Fed ปรับ GDP2024F ขึ้นเป็น 2.0% (เดิม 1.4%) vs ปี 2023 ที่ +2.5% เป็นภาพ "US Goldilocks" ที่จะแปรเปลี่ยนสู่ Soft Landing หนุนภาวะSearch For Yield อิงภาพ Equity Risk Premium ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผลตอบแทนลงทุนในหุ้นใกล้เคียงกับพันธบัตร คาด Flow จะสลับมากลุ่ม EM Asia ที่ยัง Laggard และเริ่มมีปัจจัยเร่งฟื้น อาทิ จีน ไทย ภาคบริการเด่น+วันนี้ลุ้นงบประมาณรัฐฯคืบหน้าผ่านการพิจารณา ส.ส. และคาดเบิกจ่ายได้ ต้น เม.ย. หนุน ผสาน ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าสู่ 35.9 +/- บาท เชื่อ SET ฟื้นได้ โดยมีหุ้นนำ คือ หุ้นดอกเบี้ยขาลงหนุน หุ้นอิงงบรัฐ หุ้นภาคบริการ วันนี้แนะนำ CPAXT, GULF, BBIK

 

Daily outlook: "Up" ต้าน 1382/1393 จุด รับ 1368/1364 จุด

What happened around the world ?

• (*/+)US Stocks : ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นต่อ รับผลประชุม Fed คงอัตราดอกเบี้ยตามคาดและ Dot plot ยังคงคาดลดดอกเบี้ยปีนี้ลง 3 ครั้งตามคาด โดย Dow Jones +1.03%, S&p500 +0.89% Nasdaq +1.25% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ปรับขึ้นเกือบทุก Sectoe กลุ่มที่ปรับลงมีเพียง Energy, Health care กลุ่มที่ Outperform คือ Consumer discretionary ,ICT, Financial ฯลฯ โดยหุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น อาทิ กลุ่ม High Growth ที่ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง อาทิ Meta +1.87%, Amazon +1.3%, Alphabet +1.2%, NVDIA +1.1% และหุ้น Tesla +2.5% รับข่าวยืนยันว่าจะปรับขึ้นราคารถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Model Y ที่ผลิตในประเทศจีน เริ่มมีผล 1 เม.ย.

•(*/+)Fed meeting: ผลประชุม Fed เป็นไปตามคาด คือ มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.25% - 5.5%(คงติดต่อกัน 5 ครั้ง) โดย key สำคัญคือ 1.) Dot plot เผยมุมมองดอกเบี้ย อิงปี 2024 เป็นไปตามคาด (Inline) คือยังคงคาดลดดอกเบี้ย 3 ครั้งๆละ 25 bps. เท่ากับคาดการณ์รอบ ธ.ค. แต่ปี 2025 มีการปรับลดคาดการณ์การลดดอกเบี้ยเหลือเพียง 3 ครั้ง(จากเดิมรอบ ธ.ค. คาดลดที่ 4 ครั้ง) และปี 2026 คาดลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง(จากเดิมรอบ ธ.ค. คาดลดที่ 3 ครั้ง) ทำให้อัตราดอกเบี้ยสิ้นปี 2024-2026 อยู่ที่ 4.6% และ 3.9% และ 2.9% ตามลำดับ 2.) คาดการณ์ GDP Growth : มีมุมมองบวกคาด GDP ปี 2024 ที่ 2% จาก 1.4% และปี 2025 คาด GDPที่ 2% จาก 1.8% และปี 2026 คาด GDPที่ 1.9% จาก 1.8% ส่วนอัตราการว่างงานคาดปี 2024-2026 เท่ากับรอบก่อน ที่ 4.1% 3.)ประธาน Fed Powell ปฏิเสธที่ตอบคำถามว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบใด โดยย้ำว่าการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกน่าจะเกิดขึ้น " ณ จุดใดจุดหนึ่งในปีนี้ โดยรวม KCS ประเมินผลประชุม Fed รอบนี้เป็นเป็นภาพ Slighly positive และเข้ากรณี Base case ตามที่ MUFG และตลาดคาด คือทิศทางดอกเบี้ยเป็นขาลง และ Fed มองเศรษฐกิจเป็น Soft landing เป็นปัจจัยต่อตลาดหุ้นโลกและสินทรัพย์เสี่ยง

•(*)Vietnam : คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามตกลงที่จะอนุมัติให้ประธานาธิบดี Vo Van Thuong พ้นจากตำแหน่ง เป็นไปตามที่ตลาดคาด(In line) และวันนี้จะมีการจัดประชุมพิเศษเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ ถือว่าเร็ว เพราะอิงจากสถิติการเลือกประธานาธิบดีในปีที่แล้ว พบว่าการแต่งตั้งประธานาธิบดีคนใหม่จะใช้เวลาราว 1-2 เดือน) KCS มองบวกต่อตลาดหุ้นเวียดนามวันนี้ มีโอกาสเป็นภาพของการ Buy on fact โดยคำแนะนำเรายังวางกลยุทธ์ให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนามเป็น Slightly Overweight มองเป็นจังหวะทยอยสะสม ตลาดหุ้นเวียดนาม แนะนำลงทุนในกองทุนผ่าน KCS Ifund แนะนำกองทุน PRINCIPALVNEQ-A (VN Equity)

•(*/-) Tech war : Bloomberg รายงานเมื่อวาน รัฐบาลสหรัฐ กำลังพิจารณาขึ้นบัญชีดำบริษัท Semiconductor จีนหลายแห่งที่เชื่อมโยงกับบริษัท Huawei Technologies Co. โดยบริษัทผู้ผลิตชิปที่อาจถูกขึ้นบัญชีดำ อาทิ Qingdao Si'En, SwaySure ฯลฯ KCS ประเมินเป็นปัจจัยหนุนกระแสการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบ คือ กลุ่มประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทย มองบวกต่อหุ้นกลุ่มนิคม ในระยะกลาง- ยาว อาทิ AMATA, WHA เน้น WH

• (*) To monitor : 21 มี.ค. ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐ ก.พ. คาด -2.0%m-m

• (*) US Bond & Dollar : แนวโน้มปรับลงต่อหลังประชุม Fed อายุ 10 ปีปรับลง -4 bps และปิดที่ 4.26% เช่นเดียวกับ 2 ปี ปรับลง -8 bps อยู่ที่ 4.60% ขณะที่ Dollar Index พลิกอ่อนค่าแรงลงมา 103.0+/- จุด

•(*/-) Oil : น้ำมันดิบ Brent -1.64%d-d ปิดที่ US$ 85.95/barrel และ West Texas -1.76%d-d ปิดที่ US$ 81.27/barrel ถูก Take profit หลังจากสัปดาห์นี้ปรับขึ้นมาเป็นขาขึ้น แม้จะมีจะมีข่าวบวกจากฝั่ง Supply ที่ลดลง หลัง EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ สัปดาห์ล่าสุด ลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าตลาดคาดจะลด 9 แสนบาร์เรลโดยรวมเป็นจิตวิทยาลบต่อหุ้นพลังงาน อาทิ PTT, PTTEP, TOP

•(*/+)Bitcoin : ราคา Bitcoin ฟื้นตัว +5.22%d-d ปิดที่ 67,078.54 USD แรงหนุนราคา Bitcoin ช่วงที่เหลือของเดือน มี.ค. คือ ประเด็น Bitcoin Halving (ความยากในการขุด Bitcoin จะเพิ่มขึ้น หรือรางวัลในการขุด Bitcoin จะลดลง) จะเกิดขึ้นในเดือน เม.ย.24 เป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นที่เชื่อมโยง Cryptocurrency อาทิ JTS, BROOK, ZIGA, TTA ยังคงคำแนะนำตามเดิมคือ Trading หุ้นในกลุ่มนี้

 

What happened in Thailand ?

• (*) SET: SET Index ปิดลบตามต่างประเทศ -0.67% ปิดที่ 1373.18 จุด เรามองเป็นการขายลดความเสี่ยงก่อนทราบผลการประชุม Fed เช้ามืดพรุ่งนี้ กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, GULF) ตามราคาน้ำมันที่เริ่มพักตัว หลังปรับขึ้นมาต่อเนื่อง ส่วน GULF กดดันจากราคาก๊าซธรรมชาติ WTD ปรับขึ้น 3 – 8% กลุ่มค้าปลีก (CPAXT, CPALL) จิตวิทยาลบกรณี Tops Daily ประกาศตีตลาดมินิมาร์ท ลงทุนต่ำ+การันตีรายได้ กลุ่มหนุน คือ กลุ่มขนส่ง (AOT) และหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (MINT) ฟื้นตัวได้ตามเราแนะนำ แม้นักท่องเที่ยวต่างชาติสัปดาห์นี้อ่อนลง แต่นักท่องเที่ยวจีนยังแข็งแกร่ง ผสาน รายงานเศรษฐกิจยุโรปดีกว่าคาดต่อเนื่อง

• (*/-) Flow : เงินทุนต่างชาติไหลออก ขายหุ้น -554 ล้านเหรียญฯ แต่เป็นรายการ Big Lot หุ้น AWC-F มูลค่า 1.79 หมื่นล้านบาท (-498 ล้านเหรียญฯ) หากไม่รวมเป็นการขาย -56 ล้านเหรียญฯ ขายพันธบัตร -99.2 ล้านเหรียญฯ TFEX สถานะ Net Short -9,977 สัญญา เงินบาทแข็งค่า 35.9 +/-บาท

• (*) Commerce: CRC ประกาศแผนรุกตลาด Mini Mart เตรียมนำเสนอการขายแฟรนไชส์ Top Daily ลงทุนแค่ล้านเดียว การันตีรายได้ 6 หมื่นบาทต่อเดือน คืนทุนไวใน 2 ปี พร้อมสินเชื่อ SME D Bank กดดันหุ้นหลักในกลุ่มค้าปลีกวานนี้ แต่ทางกลยุทธ์ เรามองเป็นโอกาสเข้สะสม โดยเชื่อว่าผลกระทบจริงจะจำกัดกว่าราคาหุ้นที่ปรับลงมา เนื่องจากผู้เล่นเดิมที่อยู่ในตลาดมีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในด้านขนาดธุรกิจ ความเข้มแข็งบริษัทแม่ โดยเฉพาะ CPAXT ที่มีแนวโน้มกระทบน้อย โดยธุรกิจขนาดใกล้กัน Lotus's Go Fresh มีสัดส่วนรายได้ราว 5% ของ CPAXT ขณะที่ธุรกิจระยะสั้นยังเป็นภาพฟื้นตัวแข็งแกร่ง SSSG มี.ค. เบื้องต้นสูง 4-6%y-y แนะนำทยอยสะสม CPAXT

• (*/+) Virtual Bank: กระแสกลุ่มต่างๆให้ความสนใจลงทุน Virtual Bank สอดคล้องกับตลาดคาดหวังไว้ นำโดยกลุ่ม GULF+OR+ADVANC วานนี้ โดยล่าสุดมีเข้ามาเพิ่มเติมในส่วนSCBX ที่เตรียมประกาศจับมือกับพันธมิตรจากจีน ขณะที่อีกราย คือ กลุ่ม CP มองเงื่อนไขที่ BOT กำหนดลงทุนระบบแยกจากธนาคารดั้งเดิม จะหนุนเม็ดเงินลงทุนดิจิตอลระยะกลาง (ปี 2025+) เพิ่มขึ้น เบื้องต้นประเมินเม็ดเงินทุกระบบรวมกันเฉลี่ยรายละ 5.0 พัน – 1 หมื่นล้านบาท บวก BE8, BBIK

• (*/+) Mass Transit: รฟท. เปิดเผยปริมาณผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง หลังเริ่มมีมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย พบว่า สายกรุงเทพอภิวัฒน์ – รังสิต ผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2.7 หมื่นคน เพิ่มจากก่อนมีมาตรการ 28% สายสีม่วง เตาปูน -คลองบางไผ่ ผู้ใช้บริการเฉลี่ยวันละ 6.5 หมื่นคน เพิ่มจากก่อนมีมาตรการ 14% เรามองเป็นบวกต่อ BEM ที่มีเส้นทางให้บริการใกล้ชิด 2 เส้นดังกล่าวมากสุด ในฐานะได้ผู้โดยสารเข้ามาใช้บริการต่อเพิ่มเติม

• (*/+) To Monitor: 20-21 มี.ค. ติดตามขั้นตอน ส.ส. พิจารณาร่างงบประมาณ 2024 วาระ2 และ 3 มองหนุนมีภาพแรงเก็งกำไรกลุ่มได้ประโยชน์ต่อเนื่อง อาทิ รับเหมาก่อสร้าง+ICT เน้น STEC, BE8 หุ้นในกลุ่มเหล็ก และค้าปลีกที่จำหน่ายเหล็ก อาทิ GLOBAL, DOHOME

 

Daily Strategy : CPAXT, GULF, BBIK

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "ฟื้นตัว" มอง SET มีโอกาสฟื้นตัวได้ หลังถูกขายลดความเสี่ยงก่อนประชุม Fed WTD -1% ขณะที่ผลประชุมออกมาตามคาด Dot Plot เรื่องหลักที่ตลาดให้น้ำหนักยังคงคาดจะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยลง 3 ครั้ง ขณะที่ GDP สหรัฐฯ แม้ปรับขึ้นสู่ 2.0% (เดิม 1.4%) แต่ยังเป็นภาพอ่อนลงจากปี 2023 ที่ +2.5% และ Valuation สหรัฐที่ตึงตัวแล้ว ภาพ Search For Yield มาถึงประเทศที่ Valuation ถูก และเริ่มฟื้นตัว อาทิ จีน ไทย โดยมีหุ้นนำ 1) กลุ่มได้ประโยชน์วงจรดอกเบี้ยขาลง โรงไฟฟ้า เน้น GPSC, GULF High Growth เน้ BE8, WARRIX หนี้สูง เน้น MINT, TRUE, CPALL เช่าซื้อ เน้น MTC, JMT 2) หุ้นอิงภาคบริการ เน้น AOT, MINT, CPALL, BJC 3) หุ้นอิงงบรัฐฯ เน้น BE8, STEC

 

หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกผ่านจุดต่ำสุด (IVL, PTTGC, HANA, SJWD, MENA, WICE)
หุ้นภาคบริการได้ประโยชน์มาตรการภาครัฐฯ บริโภค ท่องเที่ยว (CPALL, CPAXT, BJC, AOT, AAV, MINT, TKN)
กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยพลิกเป็นขาลงนับจากปี 2024 (GULF, GPSC, CPALL, TRUE, MINT, BBIK, BE8, PLANB)
กลุ่ม Dividend Plays (AP, MC, SC, SIRI)
กลุ่มได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ฤดูร้อน (ICHI, CPALL, CPAXT, AOT, AAV, MINT)
กลุ่มได้ประโยชน์ค่าระวางเรือ Container เริ่มปรับตัวลดลง (TU, GFPT, STA ,NER STGT, HANA)
หุ้นอิงกระแสจีนแถลงเป้าหมาย GDP > ตลาดคาด และลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (IVL, PTTGC, DOHOME, GLOBAL)

• MAR24 Best Picks: CPALL, BJC, IVL, ICHI, MINT, MTC, OSP

• 1Q24/2024 Stock Picks : GPSC, IVL, PTTGC, CPALL, AOT, AMATA, SCGP, SCC, MINT Mid-Small Cap Play : SJWD, DOHOME, BE8, SPA, PLANB

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หาฐาน By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นกระดานหุ้นไทย ทั้ง SET และ ราคาหุ้น กำลังหาฐาน หาจุดสมดุล เพื่อเล่นและเทรดในกรอบเล็กๆ....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้