HotNews : D คาดปี 62 ฟันรายได้ 1 พันลบ.

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (6 มีนาคม 2562) D ตั้งเป้ารายได้ปี 62 แตะ 1 พันลบ. จากปีก่อน 652.21  ลบ. หลังรับรู้รายได้จากเด็นตัล วิชั่น - รพ.ใหม่ หนุน  ระบุชะลอแผนขายหุ้น PP ที่เหลือ 20 ล้านหุ้น ให้นลท.สถาบัน หลังภาวะตลาดไม่เอื้อ - ราคาหุ้นร่วง

นายประทีป วาณิชย์ก่อกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและบัญชี บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ในปี 2562 มีแนวโน้มเติบโตแตะระดับ 1,000 ล้านบาท จากปี 2561 ที่บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 652.21 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯจะมีการรับรู้รายได้จากบริษัท เด็นตัล วิชั่น จำกัด (DV) ซึ่งดำเนินธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ทางด้านทันตกรรม

โดยจะเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ทางด้านทันตกรรมในประเทศไทยที่บริษัทฯได้มีการเข้าไปซื้อกิจการเมื่อปีก่อน ซึ่งบริษัทฯจะรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาสที่2/2562 เป็นต้นไป ประกอบกับ บริษัทฯจะมีการรับรู้รายได้จากโรงพยาบาลทันตกรรม (BIDH) ที่คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ตั้งแต่กลางปี 2562 เป็นต้นไป

"ในปีนี้เราตั้งเป้ารายได้จะแตะประมาณ 1 พันล้านบาท จากปีก่อนเราทำได้ 600 กว่าล้านบาท ซึ่งถือว่าเกิดคาด แต่กำไรของเราลดลง เพราะว่าเรามีต้นทุนการเงินที่สูง โดยเฉพาะดอกเบี้ยที่มีการปรับตัวสูงขึ้น และมีค่าใช้จ่ายจากการทำดีล สำหรับเด็นตัล วิชั่น เป็นล้าน แต่ในปีนี้เรามองว่าจะเป็นปีที่ดีของเรา จะเห็นได้ชัดตั้งแต่หลังไตรมาส1เป็นต้นไป โดยเราจะมีรายได้จาก เด็นตัล วิชั่น เข้ามา แล้วยังมีโรงพยาบาลใหม่ที่จะเปิดอีก ในช่วงกลางปีนี้ ก็จะเข้ามาช่วยหนุนรายได้ของเราให้ตามเป้าหมายได้ " นายประทีป กล่าว

ทั้งนี้ในปีนี้ บริษัทฯเตรียมที่จะเปิดสาขาคลินิกทันตกรรมเพิ่มอีก 1 แห่ง ในจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงกลางปีนี้ จากปัจจุบันบริษัทฯมีศูนย์ทันตกรรมและคลินิกทันตกรรมทั้งหมด 16 สาขา ซึ่งจะส่งผลให้ในปีนี้บริษัทฯจะมีศูนย์ทันตกรรมและคลินิกทันตกรรมทั้งหมด 17 สาขาทั่วประเทศ

สำหรับการเพิ่มทุนของบริษัทฯ โดยการขายหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 20 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ที่บริษัทฯได้มีการขออนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯจะมีการจัดสรรให้กับนักลงทุนสถาบันนั้น ซึ่งเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯจะนำเงินที่ได้ไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมให้กับสถาบันการเงิน ชำระคืนภาระหนี้อื่นที่อาจมีขึ้นในอนาคต ปัจจุบันต้องชะลอแผนการขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวออกไปก่อน เนื่องจากราคาหุ้นของบริษัทฯมีการปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ประกอบกับภาวะตลาดที่ยังไม่เอื้ออำนวย โดยภาวะตลาดหุ้นมีการปรับตัวลดลงในระยะนี้เช่นกัน

นายประทีป กล่าวพิ่มเติมถึงกรณีราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงว่า เป็นกลไกของตลาด ที่อาจจะเป็นการเทขายหุ้นของผู้ถือหุ้นออกมา จากการที่บริษัทฯมีผลกำไรที่ลดลงเมื่อปี2561 ทำให้นักลงทุนรอไม่ไหวจึงได้มีการเทขายหุ้นออกมา แต่ในปีนี้ผลประกอบการของบริษัทฯจะเป็นปีที่ดีขึ้น เพราะบริษัทฯได้มีการทำดีลทุกอย่างจบและจะมีการทยอยรับรู้รายได้เข้ามาแล้ว

อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังมีวงเกินกู้ที่ได้จากธนาคารพาณิชย์ ที่ขอไว้ประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯจะมีการบริหารจัดการโดยทยอยใช้วงเงินดังกล่าว เพื่อไม่ให้ภาระดอกเบี้ยของบริษัทฯสูงเกินไป วึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ไม่เกิน 1.5 เท่า

กูรูฟิลลิปฯ แนะซื้อ D ราคาเป้าหมาย 12.10 บาท/หุ้น

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า การดำเนินงานปี 62 จะกลับมาโดดเด่น 46.6% y-y คาดการดำเนินงานปี 62 จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากการรวมธุรกิจ "DV" เข้ามาเต็มปี ในขณะธุรกิจดังกล่าวจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นนับแต่ได้อย.ใหม่ โดยยังทำให้การบริหารและจัดการต้นทุน และการควบคุม SG&A ต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้คาดจะเข้ามาช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบภายในกลุ่ม เช่น ต้นทุนวัสดุทันตกรรมและวัสดุสิ้นเปลือง ทำให้มีราคาถูกลงจาก Synergy ร่วมกัน รวมทั้งจะช่วยลดต้นทุนในรพ.ทันตกรรมใหม่ (เป็นแห่งแรกในประเทศไทย) โดยบริษัทคาดจะเริ่มเปิดให้บริการใน 2Q62 (ราวๆ เดือน พ.ค.) เฟสแรก ซึ่งจะประกอบไปด้วยหลักๆ ได้แก่ ห้องทันตกรรม จำนวน 19 ห้อง ห้องผ่าตัด และห้องเตรียมผ่าตัด ทำให้จะกดดันต่อผลประกอบการไม่มาก ในขณะบริษัทมีฐานลูกค้าจากคลินิกที่เปิดดำเนินการปัจจุบัน (16 แห่ง) อยู่แล้วบางส่วน อีกทั้งค่ารักษาเฉลี่ยต่อครั้งจะสูงกว่าคลินิกทั่วไปราว 10-15% ตามความยากและความซับซ้อนในการรักษาที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้รพ.ทันตกรรมจะสามารถคืนทุนได้เร็ว และเป็นไปได้ว่าจะรับรู้กำไรเข้ามาได้ตั้งแต่ในปีแรก อย่างไรก็ดีทางฝ่ายคาดหมายรายได้ปี 62 ในเบื้องต้นอยู่ที่ 836 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.4% y-y และกำไร 68 ล้านบาท สูงขึ้น 46.6% y-y

บริษัทซื้อและเริ่มรวมธุรกิจ "DV" เข้ามาตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 61 แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาเติบโตอย่างคาด อันเนื่องมาจากความล่าช้าในกระบวนการต่างๆ เช่น การขอ อย.ใหม่ จึงเป็นผลให้รายการขายบางประเภทโดยเฉพาะในกลุ่มที่มีมาร์จิ้นสูงๆ จะขาดช่วงการซื้อขาย แต่ว่าอย่างไรแล้วเมื่อปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มสินค้าหลักในธุรกิจดังกล่าวได้อย.ใหม่ครบแล้วทั้งหมด 100% ทำให้คาดการซื้อขายจะกลับเข้ามาใกล้เคียงภาวะปกติมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายและมาร์จิ้นจะปรับตัวดีขึ้น ทำให้เมื่อรวมกับกลุ่มแล้ว คาดจะทำให้การดำเนินงาน 4Q61เริ่มดีขึ้น แต่อาจจะยังเติบโตได้ไม่มากเท่าที่ควรจากยังเป็นช่วงแรกของการรวมธุรกิจ โดยการบริหารต้นทุน และการจัดการค่าใช้จ่ายนั้นยังไม่ได้ประสิทธิภาพมาก ในขณะเดียวกันบริษัทก็มีต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้นจากการซื้อที่ดินและก่อสร้างรพ.ทันตกรรมใหม่

แนะนำ "ซื้อ" ราคาพื้นฐานปี 2562 ที่ 12.10 บาท

คงมุมมองบวกต่อผลประกอบการ โดยเชื่อการดำเนินงานจะสามารถฟื้นตัวได้ตั้งแต่ 4Q61 เป็นต้นไป แต่อย่างไรก็ดีในวันที่ 19 - 21 ธ.ค. 61 นี้ บริษัท Dental Vision (Thailand) หรือ "DV" จะเข้าร่วมงานประชุมวิชาการครั้งที่ 107 หรือ TDA ซึ่งเป็นมหกรรมลดราคาครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี เทศกาลช้อปปิ้งส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของเหล่าทันตแพทย์ที่ใหญ่ที่สุด โดยคาดจะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขายและเติม Backlog ให้กับอุปกรณ์ทันตกรรมใน 1Q62 ให้มากยิ่งขึ้น ทางฝ่ายประเมินราคาพื้นฐานปี 62 อยู่ที่ 12.10 บาท ณ ระดับราคาหุ้นปัจจุบัน แนะนำ "ซื้อ"

D