สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (23 กุมภาพันธ์ 2567)-- ทาคูนิ กรุ๊ป กางไทม์ไลน์ยุทธศาสตร์ธุรกิจปี 2567 เดินหน้าลุยต่อยอดผลิตและจัดจำหน่ายรถไฟฟ้าพร้อมปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ เพื่อให้บริการครบวงจร ผุดโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไตรมาส 2 และเปิดรับเฟรนไชส์สถานีชาร์จในไตรมาส 3 ปีนี้ เล็งจับมือพันธมิตรทำธุรกิจเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ากระตุ้นกำลังซื้อ  ยืนเป้ายอดขายรถมอเตอร์ไซค์ EV ปีนี้ขั้นต่ำ  4,000 คัน ขณะที่บริษัทในกลุ่ม TAKUNI ที่ทำธุรกิจวางระบบและก่อสร้างระบบท่อแก๊สและน้ำมัน มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง  หนุนรายได้รวมปีนี้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 15%

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ประธานกรรมการ บริษัททาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  หรือ TAKUNI เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทมีเป้าหมายเดินหน้าต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้า เพื่อให้การบริการผลิตและจัดจำหน่ายรถไฟฟ้าครบวงจรมากขึ้น โดยมีแผนที่จะทำโรงงานผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้ารถมอเตอร์ไซค์เอง  ซึ่งโรงงานดังกล่าว คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 2 โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ   100 ล้านบาท

“การลงทุนเพื่อผลิตแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเอง จะทำให้เราสามารถบริหารจัดการเรื่องต้นทุนการขายรถได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากต้นทุนของรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าราว 40% เป็นต้นทุนเรื่องแบตเตอรี่ หากเราผลิตเองภายในประเทศ จะเป็นการเพิ่มมูลค่าทางอุตสาหกรรมการผลิต( Local Content) ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ ช่วยส่งเสริมการขยายตัวและการตลาดของบริษัท  รวมทั้งบริหารจัดการด้านคาร์บอนเครดิต นอกจากนี้เรายังได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีจากความร่วมมือเขตการค้าเสรีอาเซียน( AFTA) ทำให้เราบริหารจัดการราคาขายได้ ” นายชาติชาย กล่าว

นายชาติชาย กล่าวอีกว่า แผนงานต่อมาก็คือการเพิ่มสถานีชาร์จ เนื่องจากสถานีชาร์จเป็นสิ่งจำเป็นที่จะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อรถไฟฟ้า หากไม่มีสถานีชาร์จหรือมีสถานีชาร์จน้อย คนก็ไม่มั่นใจที่จะซื้อรถไฟฟ้า แต่การเพิ่มสถานีชาร์จ บริษัทจะไม่ลงทุนเอง แต่จะเปิดรับเฟรนไชส์ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนไม่มากต่อสถานีลงทุนไม่เกิน 3 แสนบาท โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้

นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า  โดยมีแนวคิดที่จะร่วมมือกับพันธมิตรที่ทำธุรกิจเช่าซื้อและมีความเชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว เนื่องจากการทำธุรกิจเช่าซื้อจะช่วยเพิ่มยอดขายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้ดียิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันยังไม่มีบริษัทใดที่ขายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ให้บริการเช่าซื้อด้วย  ทั้งนี้คาดว่าภายในไตรมาส 4 ของปีนี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

“แผนงานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทำโรงงานผลิตแบตฯ การสร้างมูลค่าด้านสิทธิประโยชน์และผลิตภัณฑ์ทั้งภายในและต่างประเทศ การเปิดรับเฟรนไชส์เพื่อให้บริการสถานีชาร์จเพิ่มและการทำธุรกิจเช่าซื้อ ที่เราวางไว้ในปีนี้ จะช่วยต่อยอดการทำธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น และทำให้เราเติบโตอย่างยั่งยืนและมีความมั่นคงยิ่งขึ้น “นายชาติชาย กล่าว

ด้านดร.กฤตพงศ์  อรชัยพันธ์ลาภ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัททาคูนิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า ยอดขายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในปีนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 4,000 คัน ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดประมาณ  10% ของยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีราว  32,000-36,000 คัน  ทั้งนี้ยังไม่รวมยอดการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และการค้าระหว่างองค์กร รูปแบบ B2B ( Business to  Business)

ทั้งนี้แผนธุรกิจโดยรวมของบริษัทยังคงมุ่งเน้นไปสู่ธุรกิจพลังงานสะอาด เนื่องจาก ถือเป็นเมกะเทรนด์ของโลกที่กำลังมาแรง และเป็นนโยบายหลักที่รัฐบาลให้การสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจรถไฟฟ้า โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับธุรกิจใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ขณะที่ธุรกิจปัจจุบันซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และเติบโตได้ดี ทั้งธุรกิจทดสอบความปลอดภัย ก็ยังคงเดินหน้าขยายตัวต่อเนื่องควบคู่กันไป รวมถึงการมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจเพิ่มเติม

นอกจากนี้บริษัทในกลุ่ม TAKUNI  ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์  ซึ่งดำเนินธุรกิจวางระบบและก่อสร้างระบบท่อแก๊สและน้ำมัน พร้อมแท้งค์ฟาร์ม มีแนวโน้มที่จะขยายตัวและเพิ่มศักยภาพในกลุ่มพันธมิตรทางธุรกิจให้มีการเติบโตต่อเนื่อง