Today’s NEWS FEED

News Feed

BGC โชว์ยอดขาย Q2/66 ที่ 3,511 ล้านบาท เติบโต 4% เตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาล พร้อมเดินเครื่องเตาหลอมแก้วโรงงานอยุธยาหลังปรับปรุงประสิทธิภาพแล้วเสร็จ คาดราคาวัตถุดิบและพลังงานลดลงในครึ่งปีหลัง หนุนอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น

412

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (10 สิงหาคม 2566)-----บมจ.บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส หรือ BGC โชว์ผลงานไตรมาส 2/2566 กวาดรายได้จากการขาย 3,511 ล้านบาท เติบโต 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รับยอดขายบรรจุภัณฑ์แก้ว แพคเกจจิ้งกระดาษและฟิล์มเพิ่มขึ้นหลังท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัว และเริ่มรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัทไพร์ม แพ็คเกจจิ้ง จำกัด ส่วนราคาวัตถุดิบบางรายการและราคาพลังงานเริ่มลดลง คาดครึ่งปีหลังทยอยลดลงต่อเนื่องหนุนอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงเริ่มเดินเครื่องจักรผลิตเชิงพาณิชย์เตาหลอมแก้วที่ 1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเพิ่มประสิทธิภาพแล้วเสร็จและยังสามารถปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติไปใช้พลังงานไฟฟ้าในเครื่องจักรบางส่วนอีกด้วย 

 

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วและแพคเกจจิ้งรายใหญ่ในไทยและภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 (เมษายน-มิถุนายน) มีรายได้จากการขาย 3,511 ล้านบาท เติบโต 4%

จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้วางกลยุทธ์ผลักดันการเติบโตส่งผลให้ยอดขายจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วในกลุ่มโซดาและน้ำดื่ม (Soda & Water) เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาพรวมของการท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัว และกลุ่มธุรกิจแพคเกจจิ้งที่มียอดขายเพิ่มขึ้นจากแพคเกจจิ้งกระดาษและฟิล์ม รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จากการเข้าถือหุ้นในบริษัท ไพร์ม แพ็คเกจจิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนและม้วนฟิล์มประมาณ 103 ล้านบาทในไตรมาส ที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจแพคเกจจิ้งมียอดขายสูงสุด นับตั้งแต่ขยายการลงทุนปี 2564 ด้วยวิธีควบรวมธุรกิจ อย่างไรก็ตามแม้ราคาวัตถุดิบและพลังงานเริ่มปรับลดลง แต่ยังอยู่ในระดับสูง

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงมีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 71 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน  

 

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด เดือนแรก (มกราคม-มิถุนายน) ของปีนี้ มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 7,325 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 7,355 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 146 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลให้มีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น รวมถึงในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีรายได้พิเศษจากการปรับโครงสร้างธุรกิจพลังงาน  

 

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ จึงมีมติจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.06 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 41.67 ล้านบาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 สิงหาคม 2566 และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ กันยายน 2566  

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGC กล่าวว่า แนวโน้มต้นทุนการผลิตในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะปรับลดลงจากช่วงครึ่งปีแรกอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นพลังงานหลักในการผลิตบรรจุภัณฑ์แก้ว ราคาโซดาแอช (โซเดียมคาร์บอเนต) ที่เป็นวัตถุดิบหลัก รวมถึงอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (Ft) ในไตรมาส ที่ผ่านมาเริ่มลดลงและมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง  ประกอบกับบริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตควบคู่กับการลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง จะเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นครึ่งปีหลังมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้วางแผนบริหารความเสี่ยงด้านต้นทุน เช่น การเจรจาราคาวัตถุดิบกับคู่ค้า การปรับสูตรการผลิตเพื่อลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วยโดยไม่กระทบคุณภาพผลิตภัณฑ์ การปรับใช้พลังงานทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักร 

 

ขณะเดียวกัน บริษัทฯ พร้อมเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์เตาหลอมแก้วที่ โรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังจากได้ลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและขยายกำลังการผลิตเป็น 400 ตันต่อวัน จากเดิม 320 ตันต่อวัน รวมถึงปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงเป็นพลังงานไฟฟ้าในเครื่องจักรบางส่วน จากเดิมที่ใช้ก๊าซธรรมชาติแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถการผลิตและการดำเนินธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายด้าน ESG ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ วางแผนปรับปรุงประสิทธิภาพเตาหลอมแก้วของโรงงานจังหวัดขอนแก่นเป็นลำดับต่อไป 

 

"แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังคือมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายเพื่อรับโอกาสจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวและเข้าสู่ฤดูกาลขายของบรรจุภัณฑ์แก้ว รวมถึงเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นจากต้นทุนที่ลดลง และการผลิตที่ดียิ่งขึ้น อีกทั้ง ธุรกิจใหม่ ๆ จากการควบรวมกิจการ เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพและโอกาสเติบโตของบริษัทที่ดียิ่งขึ้น และคาดหวังว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก" นายศิลปรัตน์ กล่าว 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ยังไหว By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม มอง ตลาดหุ้นไทย ยังคงไหว ระหว่างรอ ซึ่งช่วงนี้ บริษัทจดทะเบียน ก็ทยอยแจ้งงบไตรมาสแรกปีนี้ออกมาแล้ว ขณะที่...

HotNews: MTC กำไร Q1/67 โต 29.8% ดีกว่าโบรกฯคาด ทั้งปีคาดพุ่ง 22%

MTC ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ไมโครไฟแนนซ์มาตรฐานระดับโลก เน้นจุดแข็งความยั่งยืน.....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้