Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: MTC กำไร Q1/67 โต 29.8% ดีกว่าโบรกฯคาด ทั้งปีคาดพุ่ง 22%

372

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (8 พฤษภาคม 2567)-------บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่ไมโครไฟแนนซ์มาตรฐานระดับโลก เน้นจุดแข็งความยั่งยืน สร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและความเท่าเทียมของลูกค้าในทุกมิติ โชว์งบไตรมาส 1/67 พอร์ตสินเชื่อพุ่งแตะ 147,587 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.4% กำไรสุทธิ 1,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.8% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่เอ็นพีแอลอยู่ที่ระดับ 3.03% ฟากผู้บริหาร "ปริทัศน์ เพชรอำไพ"มั่นใจแนวโน้มผลงานปี 67 โตแกร่ง พอร์ตสินเชื่อเติบโตได้ 15-20%

 

นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นไมโครไฟแนนซ์มาตรฐานระดับโลก เน้นจุดแข็งความยั่งยืนให้กับธุรกิจ สร้างความเท่าเทียมทางการเงินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พัฒนาการบริการลูกค้าให้เกิดความประทับใจในทุกมิติ โดยในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯมีรายได้รวม 6,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8% กำไรสุทธิ 1,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.8% และพอร์ตสินเชื่อเติบโต 17.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะที่ระดับ 147,587 ล้านบาท

 

"ปัจจัยหนุนสำคัญที่ช่วยผลักดันรายได้และกำไรในไตรมาส 1/2567 ยังคงมาจากแรงขับเคลื่อนของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และการขยายสาขาเพิ่ม ทำให้ยอดปล่อยกู้ขยายตัวมากขึ้น โดยบริษัทฯได้เปิดสาขาเพิ่ม 251 สาขา รวมเป็น 7,788 สาขา ในสิ้นเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งในปีนี้เรามีแผนเปิดเพิ่ม 600 สาขา เพื่อรองรับดีมานด์ลูกค้า"

 

สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในไตรมาส 1/2567 ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 3.03% ซึ่งมั่นใจว่าได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วตั้งแต่ปี 2566 หลังจากตัดหนี้สูญ และขายเอ็นพีแอล รวมไปถึงให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวังขึ้น

 

รองกรรมการผู้จัดการ MTC กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2567 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 15-20% เพื่อกระจายการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านสาขาที่คาดว่าจะมีอยู่กว่า 8,000 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าคุมสัดส่วนเอ็นพีแอลไม่เกิน 3.2% ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแผนการจัดหาเงินทุนผ่านการกู้ยืมจากสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ และการออกหุ้นกู้

 

ทั้งนี้ MTC ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการอยู่ในระดับ "ดีเลิศ" (5 ดาว) รวมถึงผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Rating) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในระดับ A และผลประเมิน MSCI Index ในระดับ AA สะท้อนการเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่มีความรับผิดชอบและเป็นธรรม มุ่งสร้างเสถียรภาพทางการเงิน เสริมความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจ เติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน

 

ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นยกระดับการบริการสินเชื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพในมาตรฐานระดับโลก (World-class Thai Microfinance) สอดรับความร่วมมือองค์การระหว่างประเทศหลายสถาบัน เช่น ความร่วมมือรัฐบาลญี่ปุ่น (JICA) และรัฐบาลเยอรมนี (KFW DEG) เพื่อระดมทรัพยากรทางการเงินเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เคารพในสิทธิ รักษาผลประโยชน์ และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด

 


ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า MTC รายงานกำไรสุทธิงวด 1Q24 เท่ากับ 1.39 พันล้านบาท (+30%YoY, ทรงตัว QoQ) ดีกว่า Bloomberg consensusและที่เราคาดไว้4%/5% จากตั้งสำรอง ECL ต่ำกว่าที่ประเมินไว้ซึ่งการเติบโต YoY มาจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น(จากการเติบโตของสินเชื่อ แม้ว่า NIM จะแคบลง) และรายได้ Fee เพิ่มขึ้น ส่วนการเพิ่ม QoQ โดยหลักมาจากตั้งสำรอง ECL ลดลง สำหรับกำไรก่อนสำรอง (PPOP) เติบโต 18%YoY จากรายได้ดอกเบี้ยและ Fee สูงขึ้น แต่อ่อนลง-3%QoQ เนื่องจาก C/I ratio เพิ่มขึ้น

 

คาดว่ากำไรสุทธิ 1Q24 จะต่า สุดในปีนี้(โดยปกติไตรมาส 1 จะเป็น low season ของการขยายสินเชื่อและ yieldเพราะจำนวนวันน้อยกว่าไตรมาสอื่น แต่เป็นช่วงที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูง เนื่องจากมีการจ่ายโบนัสและปรับขึ้นเงินเดือน)


สินเชื่อ 1Q24 เติบโต +17.4%YoY และ +3.0%QoQ เป็น 1.476 แสนล้านบาท โดยหลักมาจากการขยายตัวของสินเชื่อจำนำ ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อเติบโตจำกัดจากบริษัทระวังการปล่อยสินเชื่อโดยให้วางเงินดาวน์ 20-30%บริษัทเปิดเพิ่ม 251 สาขาใน 1Q24รวมเป็นทั้งหมด 7,788 สาขาในสิ้นมี.ค.24 (ทั้งปี 24 มีแผนเปิด 600 สาขา)


คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นโดย NPL ratio และcredit cost ผ่านจุดสูงสุดมาแล้วในปี 23 หลังจากตัดหนี้สูญ ขาย NPLและปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง NPL ratio สิ้น 1Q24อยู่ที่ 3.03% (ลดจาก 3.1% ในสิ้น 4Q23) ด้าน creditcost ลดเป็น 3.1% ใน 1Q24(จาก 3.6% ใน 4Q23) ส่วน coverage ratio อยู่ที่ 121% ในสิ้น 1Q24(เพิ่มจาก 116%ในสิ้น 4Q23)


คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 59 บาท อิงกับ P/BV ปีนี้ที่ 3.4 เท่า (Mean-1SD) เราคาดว่ากำไรสุทธิ2Q24Fจะโตได้ทั้ง YoY และ QoQ จาก yield ใน 2Q24F ดีขึ้นจากจำนวนวันมากขึ้น C/I ratio ลดลง ประสิทธิภาพดำเนินงานดีขึ้น สำหรับทั้งปี 24F-25F คาดการณ์กำไรสุทธิเติบโต 22% และ 26% ตามลำดับ

(นักวิเคราะห์ : ธนินี สถิรเรืองชัย : thaninees@th.dbs.com)

 

 

////จบ////

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้