คาดกำไร 1Q67โตเล็กน้อย YoY
เราประเมินว่า HMPRO จะมีกำไรสุทธิใน 1Q67 ที่ 1.6 พันล้านบาท (-3% QoQ,+1% YoY)แม้คาดจะมีรายได้จากการขายจะโตขึ้นเป็น 1.76 หมื่นล้านบาท (+4% QoQ) จากแรงหนุนของมาตรการ Easy E-reciept แต่กำไรมีแนวโน้มลดลง QoQ เป็นเพราะถูกกดดันจาก 1) รายได้ค่าเช่าพื้นที่คาดจะลดลง เมื่อเทียบกับ 4Q66 ที่มีการให้เช่าพื้นที่ได้เพิ่มช่วงการจัดงาน “Homepro Expo” และ 2) อัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น)ที่ต่ำลงจาก 28.3% ในไตรมาสก่อน เหลือ 26.7% เนื่องจากคาดว่าสินค้าที่ขายดีใน 1Q67 จะเป็นสินค้าที่ได้อานิสงค์จากมาตรการ Easy E-receipt ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่มีราคาสูง แต่มาร์จิ้นต่ำ อย่างเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิค

ทั้งนี้หากเทียบ 1Q66 คาดกำไรจะเติบโตได้เล็กน้อย YoY เพราะรายได้จากขายยังเพิ่มขึ้นได้ (+2% YoY) แม้คาดว่ายอดขายจากสาขาเดิม (Same Store SalesGrowth-SSSG) ยังชะลอลงราว 2% เนื่องจาก SSSG มีการเติบโตแค่ในเดือนก.พ. 67 เพียงเดือนเดียว ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายก่อนที่มาตรการ Easy E-receipt จะสิ้นสุดลง ขณะที่เดือน ม.ค. 67 และ มี.ค. 67 SSSG ยังติดลบ อย่างไรก็ตามยังมีการเติบโตจากสาขาใหม่ที่เปิดเพิ่มทั้ง 11 แห่ง ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2566 เข้ามาช่วยเสริม ช่วยผลักดันภาพรวมของยอดขายให้ยังโตได้ต่อ ซึ่งสามารถชดเชยมาร์จิ้นที่ต่ำลง รวมทั้งค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่สูงขึ้นได้

แนวโน้มกำไรใน 2Q67 ยังทรงตัว QoQ
เรามองว่ากำไรสุทธิของ HMPRO ในช่วงที่เหลือของปี 2567 จะยังไม่โดดเด่น โดยใน 2Q67 กำไรมีแนวโน้มจะทรงตัว QoQ ส่วนใน 3Q67 จะถูกกดดันจากผลของฤดูกาล และจะกลับมาเติบโตดีอีกครั้งใน 4Q67 จากปัจจัยดังนี้ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อกำไรแต่ละไตรมาส2Q67อยู่ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งยอดขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทเครื่องทำความเย็น เช่น แอร์ พัดลม ขายดี นอกจากนี้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ทางภาคเหนือ ที่ยังรุนแรงต่อเนื่องมาจากต้นปี คาดยัหนุนยอดขายสินค้าประเภทเครื่องฟอกอากาศค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ยังทรงตัว QoQ แต่ลดลง 15% YoY (ราคาค่าไฟเฉลี่ยคงอยู่ที่ 4.18 บาท สำหรับงวด เม.ย.67 - ก.ค.67)เดือน เม.ย. 67 เป็นเทศกาลสงกรานต์ และมีช่วงวันหยุดยาวติดต่อกัน อาจทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าออกไปก่อน รวมทั้งงานก่อสร้าง ซ่อมแซมต่างๆ ที่จะต้องสะดุดลง เพราะเป็นช่วงวันหยุดของแรงงานก่อสร้างเช่นกันอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะยังถูกกดดันต่อจาก 1Q67 เนื่องจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีมาร์จิ้นต่ำ3Q67คาดจะได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจที่จะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้น เพราะ 1) งวด 3Q67 จะเป็นไตรมาส

แรกที่ได้แรงกระตุ้นอย่างเต็มไตรมาสหลังภาครัฐมีการเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงกลาง 2Q67 และ 2) คาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลาย 2Q67
เป็นช่วงฤดูฝน ที่จะส่งผลให้การตกแต่ง ซ่อมแซมบ้าน อาจต้องชะลอไปบ้าง นอกจากนี้การออกไปซื้อสินค้ารวมทั้งการจัดส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่จะทำได้ยากลำบากกว่าช่วงฤดูอื่นๆ4Q67

เข้าสู่ช่วง High seasonของธุรกิจค้าปลีก เนื่องจากเป็นช่วงที่ผู้บริโภคมักจะมีการจับจ่ายสูงกว่าช่วงอื่นๆบริษัทมักจะมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดขนาดใหญ่ โดยเฉพาะงาน “โฮมโปร เอ็กซ์โป” เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงส่งท้ายปีโดยปกติแล้ว 4Q จะเป็นไตรมาสที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร/ยอดขาย สูงกว่าไตรมาสอื่นๆ เนื่องจากมักมีงบการตลาดสูง ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปี
ที่มา: สายงานวิจัย บล. เอเซีย พลัส

คงประมาณการกำไร คงคำแนะนำ“Neutral”
หากกำไรงวด 1Q67 ออกมาอย่างคาด จะมีสัดส่วนราว 24% ของคาดการณ์กำไรทั้งปี ทำให้เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิของปี 2567 – 2568 ของ HMPRO ไว้ตามเดิมที่ 6.7 พันล้านบาท (+4% YoY) และ 7.2 พันล้านบาท (+8% YoY)ตามลำดับ และยังคงราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 14.30 บาท (อิง PER ที่ 28.1เท่า,-1.0 SD จากค่าเฉลี่ย 7 ปีย้อนหลัง) รวมทั้งคงคำแนะนำ “Neutral” เนื่องจาก 1)แม้ภาพโดยรวมเริ่มดูดีขึ้น จากกำไรที่ยังโตได้ YoY และ SSSG ใน 1Q67 ที่ถือว่าดีกว่า -8.5% ใน 4Q66 แต่ก็ยังชะลอลง(-2%), 2), ระยะถัดไป ใน 2Q67 คาดสินค้าประเภทเครื่องทำความเย็น อย่าง แอร์ พัดลม จะขายดี แต่มีมาร์จิ้นต่ำ ยังเป็นปัจจัยกดดันกำไรต่อไป และ 3) ราคาหุ้นปัจจุบันยังปรับลดลงใกล้เคียงกับหุ้นอื่นๆในกลุ่มพาณิชย์ ซึ่งลดลงมาก 7% YTD

การดำเนินงานด้าน ESG ของ HMPRO
E – Environment: สนับสนุนการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ (ResponsibleConsumption) ผ่านการพัฒนาและการสนับสนุนกลุ่มสินค้า ECO Product โดยมีสินค้ากลุ่มเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สินค้ากลุ่มประหยัดพลังงาน สินค้ากลุ่มประหยัดน้ำ สินค้ากลุ่มรักษาป่าไม้ สินค้ากลุ่มลดก๊าซเรือนกระจกสินค้ากลุ่ม
สุขภาพและความปลอดภัย ซึ่งในปี2564 บริษัทฯ มีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้า

ECO Product ร้อยละ 43.2 และมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายสินค้า ECOProduct เป็นร้อยละ50 ภายในปี2568 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีการยกระดับกลุ่มสินค้า ECO Product คัดสรรเป็นกลุ่มสินค้า ECO CHOICE เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผ้บูริโภค รวมทั้งส่งเสริมการใช้สินค้าพลาสติกอย่างมีความรับผิดชอบ(Responsible Plastic Consumption)

S – Social บริษัทฯ สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ เพื่อจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเพื่ออำนวยความสะดวก บุคลากรทางการแพทย์ และอำนวยความสะดวกให้ผู้รับวัคซีนอย่างครบครันและทั่วถึง รวมถึงสร้างโรงพยาบาลสนาม จังหวัดนนทบุรีเพื่อรองรับผู้ป่วย ช่วยลดภาระ และช่วยงานบุคลากรทางการแพทย์อย่างมี
ประสิทธิภาพ พร้อมทั้งจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ ศูนย์กระจายสินค้า DCCenter โดยมีทีมแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลราชธานี ให้การดูแลรักษา
พนักงาน คู่ค้า รวมถึงผู้ป่วยจากชุมชนรอบข้าง เพื่อช่วยให้ประชาชนได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง

G – Governance: บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดียึดถือหลักธรรมาภิบาล มีจริยธรรมและโปร่งใส ให้ความสำคัญและส่งเสริม
พันธมิตรทางธุรกิจอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติมีกระบวนการคัดเลือกและการปฏิบัติต่อคู่ค้าเป็นไปอย่างเท่าเทียมกันและเป็นธรรม บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการมีคู่ค้าที่มีชื่อเสียงที่ดี มีการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีจริยธรรม(Ethical Sourcing) ความเป็นมืออาชีพ คำนึงถึงประเด็นสังคม

ESG Comment: เป้าหมายของบริษัทและการดำเนินการด้าน ESG ที่ผ่านมา ซึ่งทำได้ตามเป้าหมาย นอกจากส่งผลให้ HMPRO ได้ SET ESG rating ที่ AA แล้วยังช่วยให้มีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาผู้บริโภค และช่วยให้เกิดการประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆด้วย ซึ่งจะนำไปสู่กำไรที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต

ประเด็นความเสี่ยง
1) เศรษฐกิจที่ชะลอตัว เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง
2) การแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรม
3) การแย่งลูกค้ากันเองของสาขาที่เปิดบริเวณใกล้เคียงกัน

RESEARCH DIVISION
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
ปิยะธิดา สนธิสมบัติ
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 18160