• THG : ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
• ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ 10% ในปี 2024 พร้อมอัตรากำไรของ EBITDA ที่ 25%
• ผลประกอบการในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ มีความหลากหลาย สำหรับ THG ; จำนวนผู้ป่วยใน (IPD) ลดลงในเดือนมีนาคม เนื่องจากมีผู้ป่วยกุมารเวชศาสตร์ลดลง ในขณะที่ธุรกิจในเมียนมามีการเติบโตแบบต่อเนื่องเดือนต่อเดือน
• อัพเดทโรงพยาบาลธนบุรี เสริมรัฐ : THG กำลังจัดตั้งสถานที่เพิ่มเติมสำหรับการบริหารจัดการด้านหัวใจในรูปแบบการร่วมลงทุนภาครัฐและเอกชน (PPP) ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งจะเปิดดำเนินการในช่วงต้น 2Q24 โดยผู้บริหารคาดว่าจะมีรายได้ 100-150 ล้านบาทในช่วงเริ่มต้น และ 200 ล้านบาทต่อปีเมื่อเข้าสู่ช่วงที่โครงการมีความสมบูรณ์ ทั้งนี้ผู้บริหารมีแผนจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลภายในสิ้นปี เพื่อแยกธุรกิจธนบุรีเสริมรัฐ (บริหารจัดการด้านหัวใจ) เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
• การขยายธุรกิจไปต่างประเทศ : BeWell Wellness Clinic คาดว่าจะเปิดดำเนินการในโฮจิมินห์ในช่วง 2Q24 โดย THG มีแผนขยายธุรกิจในเวียดนามอย่างค่อยเป็นค่อยไป และศึกษาตลาดไปด้วย
• ผลิตภัณฑ์ Jin Wellbeing ไม่เป็นไปตามเป้า : ใน 1Q24 THG มียอดขาย Jin Wellbeing เพียง 2 หน่วย และอีก 1 หน่วยรอยืนยัน ซึ่งยังต่ำกว่าเป้าหมายรายไตรมาสที่ 9 หน่วย อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารได้ปรับเปลี่ยนทีมบริหารงาน และยังคงมองหาพาร์ทเนอร์เพื่อพัฒนาพื้นที่ด้านหลังที่พักอาศัย และเพื่อปรับปรุงระบบนิเวศ
• การลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมน่าจะลดลงในปี 2024 : ผู้บริหารลงทุนด้านการสร้างแบรนด์ (เปลี่ยนชื่อทุกแบรนด์เป็น ธนบุรี) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมในปี 2023 เพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตของกลุ่ม THG ผู้บริหารแจ้งว่าในปี 2024 การลงทุนในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและความยั่งยืนจะลดลงจากปีก่อน หลังมีการลงทุนหลักในปี 2023 แล้ว
• THG ยังคงมีลูกหนี้ค่ารักษาพยาบาลโควิด-19 ประมาณ 300 ล้านบาท หลังได้ตั้งสำรองไว้ 452 ล้านบาทใน 4Q23 และบริษัทฯ ได้ส่งหนังสือขอให้พิจารณาการชดเชยเงินค้างชำระดังกล่าวจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยรวม ผู้บริหารเชื่อว่าการตั้งสำรองดังกล่าวจะเพียงพอ และไม่น่าจะมีความเสี่ยงในการรับชำระส่วนที่เหลือ
• ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ THG โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 60.00 บาท