***ได้อานิสงค์บวกจากการปรับโครงสร้างต้นทุนก๊าซ***
กำไรสุทธิงวด 4Q23 เท่ากับ 478 ล้านบาท เติบโต +209%YoY แต่ลดลง -73%QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ การเติบโต YoY มาจากต้นทุนก๊าซโรงไฟฟ้า SPP ลดลง ส่วนการลด QoQ เป็นเพราะ 1) ค่า Ft ลดลงตามนโยบายลดค่าไฟฟ้าของรัฐบาล, 2) ปิดซ่อมบำรุงตามแผน, 3) ส่วนแบ่งกำไรจากบ.ร่วมลดลง -21%YoY, -55%QoQ เป็น 223 ล้านบาท

ต้นทุนก๊าซและถ่านหินงวด 4Q23 ลดลง โดยต้นทุนก๊าซลงมาที่ 335 บาท/mmbtu (-37%YoY, -1%QoQ) ส่วนต้นทุนถ่านหินลดเป็น 153 ดอลลาร์/ตัน (-64%YoY, -32%QoQ)

ประกาศจ่ายปันผล 0.44 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 ก.พ.24

แนวโน้มผลประกอบการทั้งปี 24F คาดว่ามาร์จิ้นจะดีขึ้น โดยคาดว่าผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า SPP จะได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซของรัฐบาล โดยจะทำให้ต้นทุนก๊าซที่ใช้ผลิตไฟฟ้าต่ำลง มาร์จิ้นดีขึ้นและมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้ง ค่า Ft งวดพ.ค.-ส.ค.มีโอกาสปรับขึ้นส่งผลให้ค่าไฟฟ้าขยับเป็น 4.20-4.25 บาท/หน่วย (จากงวดม.ค.-เม.ย.ที่ 4.18 บาท/หน่วย) นอกจากนั้นคาดว่าปริมาณผลิตก๊าซจากอ่าวไทยจะเพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากแหล่งเอราวัณ ซึ่งก๊าซอ่าวมีราคาถูกกว่าก๊าซจากแหล่งเมียนมาและนำเข้า LNG (ทั้งนี้ PTTEP มีแผนผลิตก๊าซในแหล่งเอราวัณเพิ่มจาก 377 เป็น 550 mmscfd) ด้าน GPSC มีสัดส่วนผลิตไฟฟ้า SPP คิดป็น 60% ของทั้งหมด

คาดกำไรสุทธิ 1Q24F เติบโต QoQ เป็นผลจาก 1) ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น QoQ, 2) ต้นทุนถูกลง โดยเฉพาะถ่านหิน, 3) ค่า Ft ขยับขึ้นจาก 0.39 บาท/หน่วยเป็น 0.45 บาท/หน่วย และ 4) ค่าใช้จ่ายดำเนินงานกลับสู่ระดับปกติ

คงคำแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 58 บาท (DCF, WACC 7.88%, TG 0%) เนื่องจาก 1) GPSC ได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างต้นทุนก๊าซมาก, 2) ราคา LNG และถ่านหินอยู่ในขาลง, 3) สัดส่วนธุรกิจสีเขียวกำลังเพิ่มขึ้น เช่น แบตเตอรี่ และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับแบตเตอรี่, 4) ผลดำเนินงานบ.ในเครือดีขึ้น เช่น Avaada และ CFXD และ 5) ธุรกิจเติบโตไปพร้อมกับกลุ่ม PTT เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับยานยนต์ EV

นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethb@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833