UPA ทุ่มเงิน 820 ลบ.ลุยเหมืองขุดคริปโตฯในลาว
เดือน เม.ย.นี้ มาแน่ 4,000 เครื่องตามนัด

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (18 มีนาคม 2565)—บอร์ด UPA ไฟเขียวอนุมัติการเข้าลงทุนเพิ่ม100% ในสินทรัพย์ดิจิทัลและการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ใช้คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency Mining) ใน สปป.ลาว ผ่านบริษัทร่วมทุน UPA และ Asia Investment and Financial Services Sole Company Limited (AIFS) วงเงินมูลค่า 820 ล้านบาท "กวิน เฉลิมโรจน์ " ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุการเข้าลงทุนเพิ่มหวังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในธุรกิจ พร้อมลุยติดตั้งเพิ่ม อีก 4,000 เครื่อง ภายในเดือน เม.ย.นี้ ตามแผน แย้มได้สิทธ์ขยายกำลังการผลิตเพิ่มอีก 20 เมกะวัตต์ มั่นใจผลักดันผลงานปี 65 โตก้าวกระโดด

 

นายกวิน เฉลิมโรจน์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (UPA) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2565 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนเพิ่มวงเงิน 820 ล้านบาท ในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ใช้คริปโทเคอร์เรนซี หรือการขุดเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency Mining) ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประเภทโรงงานและเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี ("Plant Company")

โดยลงทุนผ่านบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ในประเทศสิงค์โปร์ในฐานะholding company ("Singapore Holding for Plant Company") โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้ลงทุนในสัดส่วน 100 %

 

ทั้งนี้ Plant Company จะเข้าทำสัญญาบริหารจัดการเหมือง (Crypto Mining Management Agreement) กับ

Operating Company หรือ Lao Crypto Mining Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตสำหรับการทำธุรกิจเหมืองคริปโทเคอร์เรนซี และเป็นบริษัทที่บริษัทฯ ลงทุน 50 % ผ่านบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นในประเทศสิงค์โปร์ในฐานะ holding companyและ AIF Digital Asset Holding Sole Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมกับ AIFGroup Sole Co., Ltd. ("AIF") ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม AIF Group ตามที่ได้รับอนุมัติไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ AIF ยังได้รับสิทธิในการใช้ใฟฟ้าเพื่อประกอบธุรกิจคริปโทเคอร์เรนซีอีกจำนวน 20 เมกกะวัตต์ อีกด้วย

 

นายกวินกล่าวว่า การเข้าลงทุนเพิ่ม เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนของการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ และจะทำให้บริษัทฯก้าวไปสู่การเป็นองค์กรที่มีสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มผลักดันอนาคตเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด อีกทั้งจะเป็นการต่อยอดจากธุรกิจพลังงาน

 

สำหรับเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากเงินเพิ่มทุนที่ได้จากกาจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) เงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศและต่างประเทศ และรายได้ที่เกิดจากการขุดเหรียญบางส่วนก่อนหน้านี้

 

"ผมอยากสื่อสารให้ทุกคนรับรู้ว่าการลงทุนหรือการเข้าถือหุ้นในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นเจตนาที่จะให้เห็นว่าเรามีความตั้งใจทำธุรกิจอย่างจริงจัง และเพื่อสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น โดยที่ผ่านมาได้ติดตั้งเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซีแล้วเสร็จจำนวน 400 เครื่อง พร้อมดำเนินการขุดคริปโทเคอร์เรนซี สามารถรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 1/65 และจะทยอยติดตั้งอีก 4,000 เครื่อง ภายในเดือนเม.ย. โดยจะสามารถรับรู้รายได้ทันทีในไตรมาส 2/65" นาย กวิน กล่าว

 

ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร UPA กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 306.56 ล้านบาท โดยคาดว่าธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเป็นธุรกิจที่มีความสามารถในการทำกำไรในระดับสูง และธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นรายได้หลักบริษัทในปีนี้

 

***BROOK ลงทุนในคริปโทสตาร์ทอัพระดับโลก 'Treehouse'****

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (18 มีนาคม 2565)—BROOK มองการณ์ไกลร่วมลงทุนตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์สตาร์ทอัพ 'Treehouse' ผู้นำด้านแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล DeFi ด้านผู้บริหาร 'วริศ บูลกุล' เล็งเห็นศักยภาพสตาร์ทอัพตั้งแต่เริ่มต้น เชื่อจะสามารถก้าวสู่ยูนิคอร์นได้ เพื่อบรรลุเป้าหมาย 'BROOK Mother of Unicorn' ล่าสุดเปิดระดมทุนรอบใหม่ ยักษ์ใหญ่โลกคริปโทฯกว่า 20 บริษัทเห็นโอกาสทอง ร่วมทุ่มเม็ดเงินอู้ฟู่กว่า 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐสนับสนุน หวังเป็นแพลตฟอร์มแห่งอนาคตตอบโจทย์ผู้ลงทุน

 

นายวริศ บูลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านการลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า Treehouse นับเป็นสตาร์ทอัพสัญชาติสิงคโปร์หน้าใหม่ที่เติบโตก้าวกระโดด จากผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล DeFi ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เนื่องจากแพลตฟอร์มสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจการลงทุน มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือ อีกทั้งช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างเห็นภาพชัดเจน โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวใช้งานง่าย สามารถใช้งานได้ผ่านสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ ที่สำคัญรองรับระบบ Binance Build and Build (BNB), Ethereum และพร้อมจะขยายสู่ Chain อื่นๆต่อไปในปีนี้ ซึ่งความครบเครื่องของสตาร์ทอัพ หนุนให้ BROOK เข้าร่วมลงทุนตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์สตาร์ทอัพ เนื่องจากเห็นศักยภาพการเติบโตในอนาคต ซึ่งจนถึงปัจจุบันเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดพร้อมเทียบชั้นสู่ Unicorn Scale

ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ Treehouse จึงได้เปิดการระดมทุนรอบใหม่ โดยมีบริษัทขนาดใหญ่ในโลกคริปโทเคอร์เรนซีกว่า 20 บริษัท อาทิ Binance. Bybit, MassMutual (บริษัทประกันยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ) สามารถระดมทุนได้เงินมูลค่าราว 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการเล็งเห็นศักยภาพของ Treehouse และเทคโนโลยีบล็อคเชน

ขณะที่เป้าหมายสำคัญของสตาร์ทอัพ Treehouse คือการมุ่งมั่นสู่ Unicorn ในโลกคริปโทฯ โดยเตรียมพัฒนาขยายขอบเขตบล็อคเชนและมาตรการของแพลตฟอร์มเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆตอบโจทย์ผู้ใช้รายย่อยและระดับองค์กร นอกจากนี้เตรียมปรับขนาดโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ใช้งานได้ราบรื่นและรวดเร็ว ขณะเดียวกันจะเร่งสร้างเป็นคอมมูนิตี้ที่มีข้อมูลที่ดี สร้างสรรค์ ผ่านเนื้อหาที่ได้รับการดูแลโดยนักวิจัยภายในองค์กร และเล็งจ้างบุคลากรที่มีความสามารถระดับโลกให้ครอบคลุมทุกสำนักงานทั่วโลกในการให้บริการผู้ใช้งาน

"..Treehouse เติบโตเร็วมากในความคิดผม สตาร์ทอัพนี้เพิ่งเริ่มก่อตั้งเมื่อพฤษภาคม 64 ที่ผ่านมา ปัจจุบันก้าวสู่บริษัทที่มีพนักงานร้อยกว่าคนแล้วในปี 65 เรียกได้ว่าเป็นสตาร์ทอัพน้องใหม่ที่มาแรงมากสำหรับการเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์ DeFi ซึ่งเป็นเรื่องของการลงทุนในโลกใหม่ เมื่อมีข้อมูลที่มากพอให้บริษัทได้นำมาวิเคราะห์ในเชิงลึก จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุน อีกทั้งยังรองรับในหลากหลายระบบ ทำให้มีโอกาสการเติบโตสูง ผมจึงมั่นใจว่านี่จะเป็นสตาร์ทอัพอีกหนึ่งบริษัทที่ไม่ควรมองข้ามและแน่นอนน่าจะถึงเป้าหมายการเป็น Unicorn ได้ในที่สุด " วริศ กล่าว

 

วริศ บูลกุล กล่าวต่อไปว่า เป้าหมายหลักปีนี้บริษัทพร้อมลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ เติบโตก้าวกระโดดเพื่อพร้อมก้าวสู่การ Unicorn ซึ่ง Treehouse คือหนึ่งในบริษัทที่ BROOK ประเมินว่ามีโอกาสสูงมากจากธุรกิจที่มีความโดดเด่น สอดรับเทรนด์โลกในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหลังจากนี้บริษัทจะเร่งศึกษาและพร้อมลงทุนในสตาร์ทอัพระดับโลกที่มีศักยภาพเพิ่มเติม เพื่อให้ BROOK บรรลุเป้าหมายในการเป็น Mother of Unicorn ตามที่ตั้งเป้าไว้

 

---จบ---