Today’s NEWS FEED

สัมภาษณ์/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ: DTAC ขอโตแบบlow-single digit รักษาปันผลไม่น้อยกว่า 80%

3,594

   รายงานพิเศษ: DTAC ขอโตแบบlow-single digit รักษาปันผลไม่น้อยกว่า 80%





                   ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีที่ท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย รวมถึงบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) DTAC ได้เตรียมพร้อมสำหรับการหมดอายุของสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จากปัจจัยดังกล่าวทำให้การแข่งขันในตลาดมีความรุนแรงขึ้น  แต่โค้งสุดท้ายปี2557  ดีแทคเริ่มฟื้นตัวจากสองไตรมาสก่อนและกลับมามีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น กว่า 228,000 เลขหมาย ส่วนปี2558 ภาพแข่งขันในตลาดบริการโทรคมนาคมไร้สายยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องจากปี 2557  และวางแผนเตรียมพร้อมกับแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในตลาด ระบุปีนี้รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายเติบโตในระดับเลข หลักเดียวช่วงต่ำ (low-single digit) ส่วนEBITDA margin อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2557 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการแข่งขันโดยเฉพาะในด้านเครื่องโทรศัพท์ และจะใช้เงินลงทุน ไม่น้อยกว่า 14,000 ล้านบาทด้วยการขยายโครงข่ายแบบใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วม......ทิ้ง ท้ายด้วย โปรยยาหอมถึงนลท. รักษาคำมั่นมีนโยบายปันผลที่จะจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 80% ของกำไรสุทธิของบริษัท และตั้งใจที่จะจ่ายทุกไตรมาส


***ภาพรวมปี 2557***

    ปี 2557 ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยและดีแทค โดยหลังจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทร คมนาคมย่านคลื่นความถี่ 2.1GHz เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2555 และเปิดให้บริการ 3G เต็มรูปในปี 2556 แล้วนั้น ต่อมาในปี 2557 ผู้ให้บริการต่างพยายามเติบโตจากบริการอินเตอร์ เน็ตเคลื่อนที่ซึ่งมีความต้องการใช้งานสูง รวมทั้งรับรู้ค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลงจากการให้บริการภายใต้ ระบบใบอนุญาต และเตรียมพร้อมสำหรับการหมดอายุของสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จากปัจจัยดังกล่าวทำให้การแข่งขันในตลาดมีความรุนแรงขึ้น โดยผู้ให้บริการต่างกระตุ้นผู้บริโภคให้เปลี่ยนมาใช้โครงข่ายคลื่นความถี่ 2.1GHz ภายใต้ระบบใบอนุญาตและเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับการ ใช้งานเทคโนโลยี 3G ทั้งนี้จากการแข่งขันที่รุนแรงดังกล่าวประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่ชะลอตัว ได้ส่งผลให้อุตสาหกรรมการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตได้ต่ำกว่าที่ คาดการณ์ไว้
    ดีแทคปรับตัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการเพิ่มสถานีฐานอีก 6.5 พันสถานีด้วยเทคโนโลยี 3G และ 4G ทั้งในเขตกรุงเทพและปริมณฑลรวมทั้งอีก 30 เมืองใหญ่ภายในไตรมาส 1/2558 ต่อเนื่องหลังจากดีแทคขยายโครงข่าย 3G บนคลื่น 2.1GHz ได้ครอบคลุมเท่ากับโครงข่าย 2G ที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2557 ดีแทคได้เปิดสถานีฐานใหม่ดังกล่าวทั้งเทคโนโลยี 3G และ 4G รวมแล้วกว่า 2.7 พันสถานีจากแผนทั้งหมด 6.5 พันสถานีและคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ทั้งหมดตามแผนภาย ดีแทคยังได้นำเสนอแพ็คเกจที่เน้นการใช้บริการข้อมูลซึ่งช่วยให้การเปลี่ยน รูปแบบการบริโภคของลูกค้าจากเดิมที่ใช้บริการเสียงไปสู่การใช้บริการข้อมูล เป็นไปอย่างสมบูรณ์มากขึ้น และยังเป็นแนวทางให้กับอุตสาหกรรมในการใช้ประโยชน์จากโครงข่ายที่ลงทุนได้ดี ยิ่งขึ้นสอดคล้องตามการเติบโตของการใช้บริการข้อมูล
    นอกจากนี้ ดีแทคได้เริ่มใช้รูปแบบการดำเนินธุรกิจโดยแบ่งเป็นพื้นที่เพื่อตอบสนองความ ต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในแต่ละพื้นที่ให้มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น จากการดำเนินการดังกล่าว ส่งผลให้ในไตรมาส 4/2557 ดีแทคกลับมามีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นสุทธิจากไตรมาส 3/2557 กว่า 228,000 เลขหมาย ทำให้ฐานลูกค้าทั้งหมดของดีแทค ณ สิ้นปี 2557 อยู่ที่ 28 ล้านเลขหมายและมีจำนวนผู้ใช้บริการบนคลื่น 2.1GHz เพิ่มขึ้นเป็น 20.2 ล้านเลขหมายหรือคิดเป็น 72% ของฐานลูกค้าทั้งหมด และมีจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเป็น 48% จากระดับเดิมที่ 32.7% เมื่อปีที่แล้ว


****ปี 2557 ดีแทคมี EBITDA อยู่ที่เท่าไหร่****
    ในปี 2557 ดีแทคมี EBITDA อยู่ที่ 31,069 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนโดยเกิดจากการลดลงของค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้เป็น หลัก ในขณะที่ EBITDA margin อยู่ที่ 34.3%เพิ่มขึ้นจากระดับ 31.7% ในปีที่แล้ว แต่มีระดับต่ำกว่าประมาณการปี 2557 ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 35-37% โดยส่วนใหญ่เกิดจากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์ได้มากกว่าที่คาดภายหลังจาก เปิดขายไอโฟน 6 ในไตรมาส 4/2557 ซึ่งอัตรากำไรจากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์ต ่ากว่าการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างไรก็ตาม ดีแทคมีรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนโดยมีสาเหตุจากการแข่งขันในตลาดที่เพิ่มขึ้นและเศรษฐกิจ ภายในประเทศที่ชะลอตัว ในขณะที่มีรายได้จากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์และชุดเลขหมายเพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่มีอัตรากำไรจากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์อยู่ในระดับติดลบเพื่อเพิ่ม จำนวนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนและรักษาฐานลูกค้าเดิม ดีแทคมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน อันเป็นผลจาก EBITDA ที่เพิ่มขึ้นรวมทั้งมีค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลง และการปรับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี ในขณะที่มีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากการขยายโครงข่าย โดยในปี 2557 ดีแทคใช้เงินลงทุนไป 14,000 ล้านบาทซึ่งสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้
          EBITDA อยู่ที่ 31,069 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเกิดจากการลดลงของค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ แม้จะมีรายได้ลดลงก็ตาม ในขณะที่ EBITDA margin อยู่ที่ 34.3% เพิ่มขึ้นจากระดับ 31.7% เมื่อปีที่แล้วโดยเกิดจากค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลงในขณะที่มี อัตรากำไรจากการขายเครื่องโทรศัพท์ติดลบและค่าใช้จ่ายในการขายและการตลาด เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี EBITDA margin ดังกล่าวต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 35-37% โดยส่วนใหญ่เกิดจากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์ได้มากกว่าที่คาดภายหลังจาก เปิดขายไอโฟน 6 ในไตรมาส 4/2557 ทั้งนี้อัตรากำไรจากการขายเครื่องจะต่ำกว่าธุรกิจการให้บริการโทรศัพท์ เคลื่อนที่จึงทำให้ระดับ EBITDA margin โดยรวมลดลง ทั้งนี้หากไม่รวมการจำหน่ายโทรศัพท์และชุดเลขหมายแล้ว EBITDA margin จะเพิ่มขึ้นมาที่ ระดับ 42.3% จากเดิมที่ 36.7% ในปีที่แล้ว



****ปี 2557 ดีแทคมีกำไรสุทธิอยู่ที่เท่าไหร่****

         กำไรสุทธิ อยู่ที่ 10,729 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนโดยเกิดจาก EBITDA ที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลงและการปรับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัด บัญชี ในขณะที่มีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ าหน่ายที่สูงขึ้น
         กระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน (คำนวณจาก EBITDA หักด้วยเงินลงทุน) อยู่ที่ 17,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนโดยเกิดจาก EBITDA ที่เพิ่มขึ้นและเงินลงทุนที่ลดลง ในปี 2557 ดีแทคใช้เงินลงทุน 14,000 ล้านบาทลดลง 2.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน
   


***รายการพิเศษที่สำคัญในปี 2557***
    1.การบันทึกกลับรายการด้อยค่าสินทรัพย์ในงบการเงินเฉพาะกิจการ
    ในไตรมาส 4/2557 ดีแทคได้ทบทวนการประเมินการด้อยค่าของต้นทุนเครื่องมือและอุปกรณ์รอตัดบัญชี และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งใช้ในการให้บริการตามสัญญาให้ดำเนินการให้ บริการวิทยุคมนาคมระบบเซลลูล่าร์ของบริษัทฯ (สัญญาสัมปทาน) และพบว่ามูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนจากการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ดังกล่าว เพิ่มขึ้นจากปี 2556 จำนวน 1,004 ล้านบาท บริษัทจึงได้กลับรายการขาดทุนจากการด้อยค่าที่เคยรับรู้ดังกล่าวจ านวน 1,004 ล้านบาทในงบการเงินเฉพาะกิจการ ทั้งนี้รายการดังกล่าวไม่กระทบต่อกระแสเงินสดและไม่กระทบต่องบการเงินรวม
    2.การบันทึกกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีที่เดิมไม่บันทึก
    ในไตรมาส 4/2557 ดีแทคทำการบันทึกกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีที่เดิมไม่บันทึก ทำให้ในไตรมาส 4/2557 ดีแทคมีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ลดลง 132 ล้านบาทในงบการเงินรวม และลดลง 2,147 ล้านบาทในงบการเงินเฉพาะกิจการ
   

***สรุปผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2557****
    ในไตรมาส 4/2557 ดีแทคเริ่มฟื้นตัวจากสองไตรมาสก่อนและกลับมามีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น กว่า 228,000 เลขหมายโดยมาจากจำนวนผู้ใช้บริการระบบเติมเงินที่เพิ่มขึ้นกว่า 125,000 เลขหมายและจากจำนวนผู้ใช้บริการระบบรายเดือนที่เพิ่มขึ้นกว่า 102,000 เลขหมาย โดยการเพิ่มขึ้นของลูกค้าระบบเติมเงินเกิดจากกิจกรรมทางการตลาดโดยเฉพาะใน ต่างจังหวัด ส่วนการเพิ่มขึ้นของลูกค้าระบบรายเดือนซึ่งมีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่องมาจาก การขายไอโฟน 6 และการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์พร้อมแพ็คเกจ ทั้งนี้ ฐานลูกค้าของดีแทคทั้งหมดอยู่ที่ 28 ล้านเลขหมายทรงตัวจากระดับในปี 2556 โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการบนโครงข่ายคลื่นความถี่ 2.1GHz อยู่ที่ 20.2 ล้านเลขหมายคิดเป็น 72% ของฐานลูกค้าทั้งหมดซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 12 ล้านเลขหมายเมื่อปี 2556 ทั้งนี้ ความก้าวหน้าที่ส าคัญอันหนึ่งในไตรมาส 4/2557 คือดีแทคเริ่มใช้รูปแบบการดำเนินธุรกิจโดยแบ่งเป็นพื้นที่ ซึ่งเพิ่มความคล่องตัวให้กับทีมงานในพื้นที่ในการตอบสนองความต้องการของ ลูกค้าได้มีประสิทธิผลดีขึ้น
    รายได้เฉลี่ยต่อเลขหมาย (ไม่รวม IC) ในปี 2557 อยู่ที่ 202 บาทต่อเดือน ลดลง 4.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการแข่งขันในตลาดและการใช้งานบริการเสียงที่ลดลง ในขณะที่จำนวนนาทีเฉลี่ยต่อเลขหมาย (ไม่รวม IC) ในปี 2557 อยู่ที่ 194 นาที ลดลง 12% เมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากลูกค้าเปลี่ยนไปใช้บริการข้อมูลแทนบริการเสียง
    ดีแทคดำเนินกลยุทธ์ Internet for All ผ่านกิจกรรมการตลาดต่างๆ เช่น การนำเสนอสมาร์ทโฟนพร้อมแพ็คเกจใช้งานที่น่าสนใจ นำเสนอสมาร์ทโฟนราคาถูก รวมทั้งแพ็คเกจที่เน้นการใช้อินเตอร์เน็ตอย่าง Love Buffet เพื่อช่วยให้การเปลี่ยนรูปแบบการบริโภคของลูกค้าจากเดิมที่ใช้บริการเสียงไป สู่การใช้บริการข้อมูลเป็นไปอย่างสมบูรณ์ขึ้น จากกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้สัดส่วนผู้ใช้สมาร์ทโฟนต่อผู้ใช้บริการรวมเพิ่มขึ้น เป็น 48% จากเดิม 32.7% ในปี 2556 และจ านวนผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นเป็น 14.1 ล้านเลขหมาย
   

****สรุปผลประกอบการด้านการเงิน*****

    ในปี 2557 ดีแทคมีรายได้รวมเท่ากับ 90,415 ล้านบาทลดลง 4.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากมีรายได้จากการให้บริการที่ลดลงและการปรับลด อัตราค่าเชื่อมต่อโครงข่ายเมื่อเดือนกรกฎาคม 2556 โดยรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายอยู่ที่ 68,275 ล้านบาท ลดลง 2.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนจากการแข่งขันในตลาดและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยปัจจัยหลักในการเติบโตมาจากรายได้จากการให้บริการอินเตอร์เน็ตเคลื่อนที่ ในขณะที่รายได้จากการให้บริการเสียงและบริการข้ามแดนอัตโนมัติลดลง รายได้จากการจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์และชุดเลขหมายเพิ่มขึ้น 9.7% เทียบกับปีก่อนโดยเกิดจากการขายไอโฟน ความนิยมสมาร์ทโฟนและกิจกรรมการตลาดที่ช่วยเพิ่มฐานผู้ใช้โทรศัพท์ 3G และรักษาฐานลูกค้าเดิม
       รายได้จากการให้บริการเสียง อยู่ที่ 35,215 ล้านบาท ลดลง 16% เมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากผู้บริโภคเปลี่ยนไปใช้บริการข้อมูลแทนบริการ เสียงและจากเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว
        รายได้จากบริการข้อมูล (เดิมเรียกบริการเสริม) อยู่ที่ 27,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีก่อนโดยมาจากการขยายโครงข่าย 3G จ านวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น ความนิยมใช้สังคมออนไลน์และชมภาพเคลื่อนไหวผ่านอินเตอร์เน็ต และแพ็คเกจใช้งานที่เน้นการใช้บริการข้อมูล ทั้งนี้รายได้จากบริการข้อมูลคิดเป็น 40.7% ของรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย เพิ่มขึ้นจากระดับ 32.2% เมื่อปีก่อน โดยรายได้จากบริการข้อมูลส่วนใหญ่เติบโตจากรายได้บริการอินเตอร์เน็ตเคลื่อน ที่ซึ่งเพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อน
    รายได้จากบริการข้ามแดนอัตโนมัติ (IR) อยู่ที่ 1,466 ล้านบาท ลดลง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนโดยสาเหตุหลักมาจากจำนวนชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้า ประเทศไทยลดลงเนื่องจากสถานการณ์การเมือง ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/2557 รายได้จากบริการข้ามแดนอัตโนมัติเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากปัจจัยเชิงฤดูกาลและแพ็คเกจใช้อินเตอร์เน็ตในต่างประเทศที่เปิดตัวใหม่


       

***การเเข่งขันในปี 2558****
    สำหรับปี 2558 ดีแทคคาดว่าการแข่งขันในตลาดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรูปของข้อเสนอเครื่องโทรศัพท์พร้อมแพ็คเกจและเครื่องโทรศัพท์ 3G/4G ที่มีราคาถูก
     ทั้งนี้ ดีแทคคาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายจะเติบโตใน ระดับเลขหลักเดียวช่วงต่ำ (low-single digit) โดยมีปัจจัยจากเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวและการเติบโตของบริการอินเตอร์ เน็ตเคลื่อนที่ ทั้งนี้ แม้ค่าธรรมเนียมและส่วนแบ่งรายได้จะยังคงมีแนวโน้มลดลงจากการเปลี่ยนผ่านจาก ระบบสัมปทานไปสู่ระบบใบอนุญาต EBITDA margin คาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2557 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการแข่งขันในตลาดโดยเฉพาะในด้านเครื่องโทรศัพท์ ดีแทคประมาณการเงินลงทุนส าหรับปี 2558 ไว้ไม่ต่ำกว่า 14,000 ล้านบาทบนรูปแบบการขยายโครงข่ายด้วยการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมหรือเช่าใช้ กับผู้ให้บริการรายอื่นเพื่อให้การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งอุตสาหกรรม ผู้บริโภคและประเทศไทย ทั้งนี้ ดีแทคพร้อมปรับเพิ่มประมาณการเงินลงทุนเพื่อรักษาความเป็นผู้ให้บริการ อินเตอร์เน็ตชั้นนำในประเทศไทยหากไม่มีความคืบหน้าในด้านการใช้โครงสร้างโทร คมนาคมร่วมหรือเช่าใช้ดังกล่าว ทั้งนี้ เงินลงทุนส่วนใหญ่จะใช้สำหรับเพิ่มความสามารถในการให้บริการด้านข้อมูลทั้ง การขยายโครงข่าย 4G บนคลื่นความถี่ 2.1GHz ในพื้นที่ตัวเมืองและเพิ่มความต่อเนื่องของโครงข่าย 3G ให้มีคุณภาพและความมั่นคงดียิ่งขึ้น
    ปี 2558 ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวจากสถานการณ์ทางการเมืองและความ เชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ดีขึ้น ขณะที่การแข่งขันในตลาดบริการโทรคมนาคมไร้สายยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องจาก ปี 2557 โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟน เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้จากบริการข้อมูล โดยใช้งานโครงข่ายบนคลื่นความถี่ย่าน 2.1GHz ที่ลงทุนใหม่มากยิ่งขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการหมดอายุของสัญญาสัมปทาน การแข่งขันในตลาดมีแนวโน้มที่จะเน้นการนำเสนอเครื่องโทรศัพท์พร้อมแพ็คเกจ การใช้งาน รวมทั้งนำเสนอโทรศัพท์ที่รองรับเทคโนโลยี 3G และ 4G ในราคาถูก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้สมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับ เทคโนโลยี 3G และ 4G มากยิ่งขึ้น


***DTAC เตรียมความพร้อมอย่างไรในภาวะที่ตลาดเปลี่ยนแปลงไป****

    ดีแทคเตรียมพร้อมกับแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในตลาดและพร้อมตอบสนองความต้องการ ของลูกค้าที่หลากหลายด้วยการใช้รูปแบบการดำเนินธุรกิจแบ่งเป็นพื้นที่ซึ่ง เริ่มเมื่อไตรมาส 4/2557 ที่ผ่านมาซึ่งจะช่วยให้ดีแทคเข้าถึงความต้องการของลูกค้าและดำเนินแผนธุรกิจ ได้มีประสิทธิผลดียิ่งขึ้น รูปแบบการดำเนินธุรกิจดังกล่าวช่วยสนับสนุนกลยุทธ์ Internet For All ในการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วยการนำเสนอรูปแบบบริการและกิจกรรม การตลาดที่เหมาะกับลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ดีแทคจะเสริมสร้างการให้บริการอินเตอร์เน็ตให้ลูกค้าทั้งด้านการใช้งานและ ความพึงพอใจโดยมีเป้าหมายที่จะท าให้ลูกค้า “รักดีแทค” นอกจากนี้ ดีแทคต้องการให้บริการดิจิตอลกับลูกค้าได้ดีที่สุดโดยวัดจากประสบการณ์ในการ ใช้งานบริการยอดนิยม 20 บริการของลูกค้าด้วยการร่วมมือกับเจ้าของคอนเทนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และนำเสนอบริการดิจิตอลที่เหมาะกับลูกค้าในแต่ละกลุ่มพื้นที่ผ่านทางช่องทาง และพันธมิตรของดีแทค จากกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยให้ดีแทคเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตชั้นนำใน ประเทศไทย

***เป้าหมายรายได้จากการให้บริการ****


    ดีแทคคาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายเติบโตจากปี ก่อนในระดับเลขหลักเดียวช่วงต ่า (low-single digit) โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและการเติบโตของตลาดบริการ อินเตอร์เน็ตเคลื่อนที่ ในขณะที่คาดว่า EBITDA margin จะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี 2557 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการแข่งขันในตลาดโดยเฉพาะในด้านเครื่องโทรศัพท์

***ประมาณการเงินลงทุนปีนี้ไว้ที่เท่าไหร่***

    ดีแทคจะเสริมสร้างความเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตชั้นนำในตลาดอย่างต่อ เนื่อง โดยได้ประมาณการเงินลงทุนไว้ไม่ต่ำกว่า 14,000 ล้านบาทในปี 2558 ด้วยการขยายโครงข่ายในรูปแบบการใช้โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกัน ทั้งนี้ ดีแทคพร้อมปรับเพิ่มประมาณการเงินลงทุนเพื่อรักษาความเป็นผู้ให้บริการ อินเตอร์เน็ตชั้นนำในประเทศไทยหากไม่มีความคืบหน้าในการใช้โครงสร้างโทร คมนาคมร่วมหรือเช่าใช้ดังกล่าว เงินลงทุนส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการขยายโครงข่าย 4G บนคลื่นความถี่ 2.1GHz ในพื้นที่ตัวเมือง และเพิ่มความต่อเนื่องของโครงข่าย 3G ที่ครอบคลุมทั่วประเทศให้มีคุณภาพและความมั่นคงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จำนวนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยี 4G มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งจากราคาสมาร์ทโฟน 4G ที่ลดลงและมีความหลากหลายมากขึ้นพร้อมด้วยรูปแบบการจำหน่ายเครื่องพร้อมแพ็ค เกจ รวมทั้งมาจากความต้องการของผู้ที่เน้นใช้งานบริการข้อมูลเป็นหลัก โดยนอกจากการลงทุนขยายโครงข่ายดังกล่าวแล้ว ดีแทคเตรียมลงทุนในการนำเสนอบริการและโซลูชั่นให้ลูกค้าเพิ่มเติม เช่น บริการที่เกี่ยวข้องทางการเงิน หรือ บริการส าหรับองค์กร เป็นต้น



   
****ทิ้งท้ายถึงนักลงทุน***
    ดีแทคมีนโยบายปันผลที่จะจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 80% ของกำไรสุทธิของบริษัท และตั้งใจที่จะจ่ายทุกไตรมาส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะทางการเงินและแผนการลงทุนในอนาคตของบริษัทฯ



----จบ-----

By:ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์


   

 

บทความล่าสุด

น้ำขึ้นให้รีบตัก By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดบวก หุ้นขึ้น วันนี้ น้ำขึ้นให้รีบตัก หรือเทขายกำไรไว้ก่อน ด้วยพรุ่งนี้ ตลาดเรา ...........

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้