Company Update
GPSC คำแนะนำซื้อ
ราคาปิด 50.50 บาท ราคาพื้นฐาน 58 บาท
คาดกำไรหลักจะดีขึ้นใน 2Q24F

* กำไรสุทธิเป็นไปตามตลาดคาด กำไรสุทธิงวด 1Q24เท่ากับ 864 ล้านบาท ลดลง -23% y/y แต่ฟื้นตัว +81% q/qเป็นไปตาม Bloomberg consensus โดยการเพิ่ม q/q เป็นผลจากต้นทุนก๊าซของโรงไฟฟ้า SPP ลดลง ส่วนการลดy/y เนื่องด้วยค่า Ft ลดลง, ขาดทุน FX และมีส่วนแบ่งผลขาดทุนจากบ.ร่วม 12 ล้านบาท (โรงไฟฟ้าไซยะบุรีผลิตไฟฟ้าได้น้อยลง และมีขาดทุนที่ยังไม่รับรู้จากโครงการ CFXD) สำหรับ Core EBITDA งวด 1Q24อยู่ที่ 4.59 พันล้านบาท (+5% y/y, +49% q/q)

# ธุรกิจโรงไฟฟ้า IPP - ผลประกอบการลดลง y/y และ q/q ทั้งนี้แม้ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,503GWh (+79%y/y, +732% q/q) จากโรงไฟฟ้า GHECO-One กลับมาผลิต แต่อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 19% (จาก 27% ใน1Q23และ 54% ใน 4Q23) เนื่องจากอัตราการส่งไฟของโรงไฟฟ้าศรีราชาลดลง และความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าGHECO-One ต่ำลง

# ธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP - ผลประกอบการดีขึ้นทั้ง y/y และ q/q จากปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่มเป็น 3,392GWh (+1%y/y, +6% q/q) เพราะอุปสงค์จากกฟผ,และลูกค้าอุตสาหกรรมสูงขึ้น ราคาไอน้ำและไฟฟ้าลดลง 22-25% y/y แต่เพิ่ม+7% q/q อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 22% ใน 1Q24(จาก 7% ใน 1Q23และ 18% ใน 4Q23) ทั้งนี้ต้นทุนก๊าซและถ่านหินในไตรมาสนี้ลดลง -28% y/y, -63% y/yและ +8% q/q, -7% q/q ตามลำดับ

# โรงไฟฟ้า VSPP และอื่นๆ – ผลประกอบการทรงตัว y/y แต่ดีขึ้น q/q โดยปริมาณผลิตและขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น+20% y/y, +25% q/q ส่วนก าไรขั้นต้นอ่อนลง -5% y/yแต่ดีขึ้น +44% q/q จากต้นทุนก๊าซและค่าใช้จ่ายดำเนินงานลดลง

*มาร์จิ้นมีแนวโน้มดีขึ้นในปี24F โดยโรงไฟฟ้า SPP จะได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ ทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำลง มาร์จิ้นดีขึ้นหรืออย่างน้อยทรงตัวในระยะต่อไป นอกจากนั้นราคานำเข้า LNG คาดว่าจะลดลง q/qเพราะอุปทานในเอเชียเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากอินเดียและญี่ปุ่น รวมถึงการผลิตก๊าซในอ่าวไทยเพิ่มขึ้น โดยหลักมาจากแหล่งเอราวัณของ PTTEP ซึ่งราคาต่ำกว่าก๊าซจากเมียนมาและการนำเข้า LNG

* คาดกำไรปกติ 2Q24F เพิ่มขึน้ q/q ทั้งจากความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มในช่วงฤดูร้อน, ต้นทุนลดลง โดยเฉพาะถ่านหิน, อัตราการใช้ไฟสูงสุดของปีนี้ทำสถิติสูงสุดในรอบ 8 ปี, รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า GLOW & IRPC-CP เต็มไตรมาสและส่วนแบ่งกำไรจากบ.ร่วมดีขึ้น (โรงไฟฟ้าไซยะบุรีผลิตได้เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูฝน)

*คงคำแนะนำซือ้้อ ให้ราคาพื้นฐาน 58 บาท (DCF) เนื่องจาก 1) ได้ประโยชน์จากการปรับโครงสร้างต้นทุนก๊าซของรัฐบาล, 2) ราคาLNG และถ่านหินอ่อนตัวลงต่อใน 2Q24F, 3) สัดส่วนธุรกิจสีเขียวเพิ่มขึ้น เช่น ธุรกิจแบตเตอรี่และที่เกี่ยวเนื่อง, 4) ส่วนแบ่งก าไรจากบ.ร่วมเพิ่มขึ้น เช่น Avaadaและ CFXD, 5) มีโอกาสเติบโตไปกับกลุ่ม PTT ในธุรกิจที่เกี่ยวกับ EV

นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethb@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833