•    TTB : ผลประกอบการและประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
TTB บันทึกกำไรสุทธิใน 1Q24 จำนวน 5.33 พันล้านบาท (+10% QoQ/+24%YoY) ซึ่งดีกว่าประมาณการของเราและ Bloomberg consensus ประมาณ 9% และ 4% ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่มาจากการใช้ Tax Shield

มุมมองของเราหลังการประชุม : คงมุมมองเชิงบวก ผู้บริหารยืนยันมุมมองของเราว่า Tax Shield จะถูกนำมาใช้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้งบดุล ซึ่งเป็นการสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้นโดยเปิดโอกาสในการจ่ายเงินปันผลที่มากขึ้นโดยไม่กระทบต่อความสามารถในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม  แนวโน้มนี้น่าจะดำเนินต่อไปอีกหลายปี ซึ่งช่วยให้ TTB อยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการรับมือกับความเสี่ยงด้านลบ

ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)
•    ผู้บริหารเชื่อว่าต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากใน 1Q24 น่าจะชะลอตัวลงต่อไป เนื่องจากบางส่วนของเงินฝากประจำได้ครบกำหนดในระหว่างไตรมาส ดังนั้น NIM น่าจะดีขึ้น แต่ยังคงหดตัวต่อไปเนื่องจากกระบวนการปรับราคาใหม่ในฐานเงินฝาก

•    เกี่ยวกับผลตอบแทนจากสินเชื่อธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ผู้บริหารตั้งข้อสงสัยว่าทำไมอัตราดอกเบี้ยสำหรับรถยนต์ใหม่จึงยังคงต่ำ แม้จะมีแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในตลาดการเงิน ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่ไม่น่าดึงดูดเป็นเหตุผลที่ธนาคารชะลอการให้สินเชื่อใหม่ในกลุ่มนี้

คุณภาพสินทรัพย์
•    ผู้บริหารสังเกตว่า คุณภาพสินทรัพย์โดยรวมยังคงอ่อนแอใน 1Q แม้ว่าจะดีขึ้นบ้างในธนาคาร ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการที่เข้มงวดที่ได้ดำเนินการในปีที่ผ่านมา

•    ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองจำนวน 5.1 พันล้านบาท มาจากการตั้งค่าเผื่อ Management Overlay 0.6 พันล้านบาท หากไม่รวมค่าดังกล่าว credit cost คือ 137 bps ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย 125-135 bps

•    ผู้บริหารอธิบายว่า ธนาคารยังคงตั้งค่าเผื่อ Management Overlay (0.6 พันล้านบาทใน 1Q24) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้งบดุลซึ่งจะสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น (ผ่านการจ่ายเงินปันผลที่อาจสูงขึ้น) การนำมาตรการคุ้มครองภาษีมาใช้ในจำนวนที่มากกว่าค่าใช้จ่ายภาษีก็เพื่อวัตถุประสงค์นี้ด้วย  

•    TTB ไม่มีการให้สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบธุรกิจรถยนต์มากนัก ดังนั้น จึงไม่ควรได้รับผลกระทบจากภาวะอ่อนแอของภาคธุรกิจนี้

ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ TTB โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 2.50 บาท

Market Insight
     E- mail :tiscoresearch@tisco.co.th