Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : TTB เพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ เพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 2.0 บาท

244

 


TMBThanachart Bank (TTB TB)
สิทธิประโยชน์ทางภาษีหนุนกำไรและเงินปันผล เพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ

ROE และเงินปันผลมีศักยภาพในการเติบโตสูง
เราเพิ่มคำแนะนำจาก ถือ เป็น ซื้อ และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 2.0 บาท (P/BV ปี 67 ที่ 0.8 เท่า และ ROE 9.4%) จาก 1.75 บาท หลังเพิ่มประมาณการกำไรต่อหุ้นปี 67-68 ขึ้น 2-5% เพื่อสะท้อนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและ NIM ที่สูงขึ้น เราประเมิน ROE เพิ่มเป็น 9.5% ในปี 69 จาก 8.2% ในปี 66 เนื่องจาก (1) ธนาคารหันมามุ่งเน้นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงที่สูงขึ้น (2) การจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น (3) งบดุลที่แข็งแกร่งและรอบคอบ ทั้งนี้ TTB มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการบริหารคุณภาพสินทรัพย์และกำไรสุทธิเนื่องจากยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอยู่ เราจึงมั่นใจว่า TTB มีแนวโน้มกำไรและเงินปันผลเติบโตมากกว่าคู่แข่งในอีก 3 ปีข้างหน้า


ตั้งเป้าสินเชื่อและเงินฝากทรงตัวในปี 67
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารตั้งเป้าสินเชื่อและเงินฝากทรงตัวในปี 67 เนื่องจากธนาคารจะมุ่งเน้นไปที่คุณภาพสินทรัพย์ที่ดีและขยายสินเชื่อในส่วนของสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้ ผบห.คาดว่า NIM จะอยู่ที่ 3.10-3.25% ในปี 67 เทียบกับ 3.24% ในปี 66 ส่วน Non-nii น่าจะฟื้นตัวและเติบโตที่ 1-3% ขณะที่ Cost to Income น่าจะอยู่ที่ 44-46% ธนาคารตั้งเป้า credit cost ปกติ (ไม่รวมสำรองสิทธิประโยชน์ทางภาษี) ปีนี้ไว้ที่ 1.25-1.35% โดยรวมแล้ว เป้าหมายปี 67 สอดคล้องกับประมาณการของเรา ยกเว้น NIM ที่เราคาดว่าจะเพิ่มขึ้น YoY จากการเติบโตของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง

 

เพิ่มประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนสิทธิประโยชน์ทางภาษี
เราเพิ่มประมาณการกำไรปี 67-68 ขึ้น 2-5% เพื่อสะท้อนถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีและ NIM ที่สูงขึ้น จากประมาณการของเรา TTB สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ 1.55 หมื่นล้านบาทจนถึงไตรมาส 1/70 โดยเราเชื่อว่าธนาคารจะกันสำรองเพิ่มเติมเพื่อเสริม NPL coverage ให้แข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ เรายังคาดการณ์ credit cost รวมแบบอนุรักษ์นิยมที่ 1.4-1.5% (จาก 1.2% ก่อนหน้านี้) และ NPL Coverage จะสูงถึง 181% ในปี 69 เนื่องจากการตั้งสำรองเพิ่มเติมในปี 67-69 โดยรวมแล้ว เราคาดว่ากำไรจะเติบโต 11% และ 9% YoY สำหรับปีนี้และปีหน้า เนื่องจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีและ NIM ที่สูงขึ้น

 

ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อตั้งสำรองในไตรมาส 4/66
กำไรสุทธิไตรมาส 4/66 เพิ่มขึ้น 26% YoY และ 3% QoQ เป็น 4.9 พันล้านบาท โดยกำไรไตรมาส 4/66 เพิ่มขึ้น 30% YoY เป็น 1.85 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของ NII ที่แข็งแกร่งและการควบคุมต้นทุนที่ดี ทั้งนี้ ธนาคารได้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากผลขาดทุนเงินลงทุนในธนาคารธนชาต ธนาคารจึงไม่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในปี 66 ส่วนสินเชื่อลดลง 3% YoY เนื่องจากสินเชื่อธุรกิจและ SME หดตัว 10-12% ในขณะที่สินเชื่อรายย่อยที่ให้ผลตอบแทนสูงเพิ่มขึ้น 20% YoY ในปี 66 อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 13bps QoQ เป็น 3.09% ในขณะที่ NPL coverage เพิ่มขึ้นเป็น 155% ในไตรมาส 4/66 จาก 144% ในไตรมาส 3/66 หลังจากที่ธนาคารบันทึกเงินตั้งสำรอง 9.3 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66


Jesada Techahusdin, CFA
jesada.t@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1395

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้