Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

186

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
อัพเดต Sentiment การลงทุนในภูมิภาคจาก Fund Flow
Highlight:
Sentiment การลงทุนจากการติดตาม fund flows ใน 5 ประเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้น โดยมียอดซื้อสุทธิรวมกันมูลค่า 769 ล้านเหรียญ เร่งตัวขึ้นจากยอดซื้อสุทธิ 437 ล้านเหรียญ แต่ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเพียงสองตลาด คือ เกาหลีใต้ 1,006 ล้านเหรียญ และไทย 217 ล้านเหรียญ นอกนั้นเป็น net sale (ยกเว้นอินโดนีเซียที่หยุดยาวเนื่องในวันอิดิลฟิตริ) ทำให้ TIP Market มียอดซื้อสุทธิ 187 ล้านเหรียญ พลิกกลับจาก net sale 542 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า
สำหรับแรงซื้อเด่นในภูมิภาคจากการจับสัญญาณด้วย Volume Index มีดังนี้ (1) Commerce (2) Oil & Gas (3) Chemical (4) Distribution และ (5) Semiconductor

Volume Index Outlook:
เซคเตอร์ไทยที่น่าจับตาในระยะสั้น (เฉพาะที่ cover ในรายงาน Flow Tracker) ได้แก่
 กลุ่มที่ Volume Index อยู่ในระดับใกล้ mid-point และมีโอกาสฟื้นตัวในสัปดาห์ถัดไป ได้แก่ Energy & Utilities และ Commerce
 กลุ่มที่ Volume Index พักตัวมาแล้ว 3 สัปดาห์และมีแนวโน้มฟื้นตัวจากระดับสูงกว่า mid-point ได้แก่ Transportation
 กลุ่มที่ Volume Index มีโอกาสฟื้นตัวจากระดับต่ำกว่า mid-point ได้แก่ ICT

Market Timing Update (เฉพาะตลาดหุ้นไทย):
สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวแรงโดยปรับขึ้นไปทดสอบ 1411 จุด ก่อนที่จะเผชิญกับแรงขายเมื่อวานนี้จากสองสาเหตุ คือ (1) ความกังวลเรื่องความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน และ (2) XD ของหุ้น big cap หลายบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธนาคาร
อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะฟื้นตัวราวปลายเดือน เม.ย. หลังจากที่นักลงทุนได้ซึมซับข่าวในตะวันออกกลางไปแล้วระยะหนึ่ง รวมถึงสัญญาณของ market timing indicator ที่ดีขึ้นดังต่อไปนี้
1 ดัชนี Short-term Bull-to-Bear ฟื้นตัวแรงในสัปดาห์ที่แล้วจากกรอบล่าง 11% สู่ 68% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปีนี้และเป็นสัญญาณของ trend turnaround signal
2 ดัชนี Short-term Momentum Strength ก็ฟื้นตัวจากโซนติดลบเข้าสู่โซนบวกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ.
3 ความผันผวนของตลาดแม้ว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นตามการ pullback ในระยะสั้น แต่ระดับของการเคลื่อนไหวก็ยังอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีค่อนข้างมาก
4 Medium-term Bull-to-Bear ฟื้นตัวจาก 8% ซึ่งเป็นระดับ oversold สู่ 24% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณ turnaround สอดคล้องกับ Composite Short-term Indicator

สรุปภาพตลาดวานนี้
ดัชนีหุ้นไทยดิ่งแรง รับแรงขายช่วงที่เราหยุดยาว หุ้นดิ่ง CRC CPALL (กังวลภัยสงครามกระทบการบริโภค) TIDLOR SAWAD MTC GULF BGRIM GPSC DELTA KCE HANA (กระทบจากต้นทุนพลังงาน และ ดอกเบี้ย) ส่วนหุ้นธนาคาร ดิ่งลงแรง เกินปันผล SCB KTB

แนวโน้มตลาดวันนี้ พายุพัดมาแล้ว จะผ่านไป...
วิตกภัยสงครามกับสถานการณ์ตะวันออกกลางล่าสุด บวกกับ ตลาดคาดทิศทางดอกเบี้ยเฟดน่าจะตรึงไว้นานกว่าที่คิด เปรียบเสมือนพายุฤดูร้อนพัดถล่มตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ และเราคาดว่าพายุกำลัง จะพัดผ่านไปในอีกไม่กี่อึดใจ...
ระยะสั้น สถานการณ์ดังกล่าวทำให้เราต้อง กลับคำแนะนำ หันมาเพิ่มความระมัดระวัง และชะลอการเร่งโหลดหุ้น...แต่รอบนี้จะไม่ลงรุนแรงจากการ Call margin เพราะวอลุ่มจากการเล่นหุ้นด้วย มาร์จิ้นหดหายไปอย่างมีนัยยะ
เราเชื่อว่าเมื่อพายุพัดผ่านไป ตลาดหุ้นไทยจะรีบาวด์จากโซน 1,360 จุด ได้อีกครั้ง “สรุปหุ้นไทย เล่นไปเล่นมา กลับมาที่ก้นแนวรับเดิม โซน 1,350 จุด บวกลบ และเด้งยังไม่พ้นโซน 1,400 จุด ไปได้ไกล”
โดยวันนี้คาดหุ้นไทย มีโอกาสเริ่มรีบาวด์ได้ แต่ยังต้องระวังหุ้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจาก ดอกเบี้ย และภัยสงคราม เช่น อิเล็กทรอนิกส์ (ต้นทุนโลหะ พุ่ง), ธุรกิจห้าง สินค้าบริโภค เกี่ยวโยงยุโรปเช่นภาคการท่องเที่ยว (น้ำมันแพง สินค้าแพง ค่าตั๋วเครื่องบินแพง จากการคว่ำบาตรอิหร่าน และกำลังซื้อหด), ธุรกิจที่พึ่งพิงพลังงานในการผลิต (โรงไฟฟ้า, เครื่องบิน), สินเชื่อฯ (ดอกเบี้ยแพงไม่ยอมลงง่ายๆ) เป็นต้น
ส่วนหุ้นเด่นที่ยังคงแข็งกว่าตลาดคาด หุ้นเชื่อมโยงน้ำมัน, โรงกลั่น (เครื่องบินต้องบินอ้อม ยิ่งบริโภคเชื้อเพลิง)

กลยุทธ์การลงทุน
ระมัดระวัง ไม่ต้องรีบโหลดหุ้นที่ได้รับผลกระทบดังที่กล่าวมา ส่วนนักเก็งกำไรแนะเบนเข็มไปหากลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET ร่วง!ชดเชยวันหยุดยาว ภายหลังหุ้นโลกเจอแรงกดดันจากการสู้รบระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน จับตาสถานการณ์จะขยายเป็นวงกว้างหรือไม่! หากยังอยู่ในขอบเขตไม่รุนแรง คาดว่าตลาดหุ้นโลกจะเริ่มฟื้นตัว ( เอเชียเริ่มมีหลายตลาด รีบาวด์ขึ้น) จุดสังเกต กระแสเงินลงทุนไหลเข้าสู่สินทรัพยย์ปลอดภัยเช่น ดอลลาร์ เป็นหลัก แต่ค่าเงินบาทกลับไม่อ่อนค่าลงไปมากนัก นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศมีความชัดเจนหลายเรื่อง เช่น Digital wallet /พ.ร.บ.ร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี/ มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ รวมทั้งทิศทางดอกเบี้ยภายหลังกนง.คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.5% สรุป: ดัชนีโซนรับ 1,350-1360 จุด สู้ไหว..ลุ้นรีบาวด์


What to watch
ติดตามพัฒนาการ ภาวะภัยสงครามในตะวันออกกลาง ลุ้นว่าจะนิ่งขึ้นหรือไม่หากชาติพันธมิตรอิสราเอล ช่วยเกลี้ยกล่อมไม่ให้อิสราเอล ตอบโต้อิหร่าน
การปรับ ครม.ในประเทศ
การเดินหน้าคว่ำบาตร อิหร่าน ของชาติพันธมิตรสหรัฐ
ศาล รธน.ขยายเวลาให้พรรคก้าวไกลยื่นชี้แจงปมยุบพรรคออกไปถึง 3 พ.ค.
อุตสาหกรรมการบินของซาอุ ประสบวาตภัยและอุทกภัย
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดดอกบี้ยเร็วๆนี้ หากไม่มีเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย

หุ้นแนนำวันนี้
PSLความกังวล สงคราม กระทบการปิดช่องแคบฯและเส้นทางเดินเรือต้องวิ่งอ้อม หนุนค่าระวางฯ ระยะสั้น (S 7.8 R 8.5/9 SL 7.5)


รายงานพื้นฐานวันนี้

Home Construction Retail
ยอดขายสาขาเดิมยังไม่ฟื้นตัว
เรายังไม่เห็นการฟื้นตัวของยอดขายสาขาเดิมทั้ง DOHOME และ GLOBAL ใน 1Q24 จากงบประมาณภาครัฐที่ล่าช้า และอุปสงค์ที่อ่อนแอในต่างจังหวัด เราประเมินกำไรหลักของ DOHOME ที่ 235 ล้านบาท ลดลง 9% YoY แต่เพิ่มขึ้น 63% QoQ ตามปัจจัยด้านฤดูกาล โดยคาดยอดขายสาขาเดิมปรับตัวลดลง 12% ในด้านของ GLOBAL ประเมินกำไรที่ 717 ล้านบาท ลดลง 19% YoY แต่เพิ่มขึ้น 28% QoQ คาดยอดขายสาขาเดิมปรับตัวลดลง 5.5% เรามองว่าคาดจะเห็นการฟื้นตัวได้ใน 2H24 อย่างไรก็ตามสำหรับ DOHOME จะได้อานิสงส์จากฐานต่ำในปี 2023 และคาดอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวได้
Fundamental View: เราชอบ DOHOME มากกว่าและยังคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร


TISCO (IDEA)
ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
คาดไม่น่าเห็นการเติบโตใน 2024-25
เราปรับลดคำแนะนำเป็นขาย (เดิม ถือ) และปรับลดราคาเป้าหมายลงมาที่ 90 บาท จาก 3 เหตุผล ได้แก่
1) TISCO มีความระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียน จากความกังวลเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า นอกจากนี้ ทิศทาง credit cost คาดจะเป็นขาขึ้นในปีนี้และปีหน้า ขณะที่ NIM จะเป็นขาลงไปอีก 2 ไตรมาส เป็นอย่างน้อย ทำให้เราประเมินว่าจะไม่เห็นการเติบโตของกำไรในปีนี้
2) เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2024 ลง 7% จาก NIM ที่ลดลง และ credit cost สูงขึ้น โดยภายหลังปรับประมาณการ กำไรปี 2024 ของเรา ต่ำกว่า Bloomberg consensus ราว 4% ทำให้เรามองว่ามีความเสี่ยงที่ตลาดจะปรับลดประมาณการลงมาได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ และ
3) เรามองว่าเป็นจังหวะที่ดีในการขายทำกำไรก่อนขึ้น XD ในสัปดาห์หน้า ปัจจุบัน TISCO มี PER ที่ 12 เท่า แต่เราคาดว่าจะไม่เห็นการเติบโตของกำไรไปอีก 2 ปี
Fundamental View: กลุ่มธนาคาร เราเลือก KTB และ KBANK เป็น top picks เพราะ มี Valuation ถูกกว่าและเรามองว่าความเสี่ยง downside ด้าน credit cost ค่อนข้างต่ำ

 

Quantitative Strategy
ดัชนี Composite Short-term รีบาวด์ได้อย่างแข็งแกร่งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นสัญญาณของการฟื้นตัว
สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวแรงโดยปรับขึ้นไปทดสอบ 1411 จุด ก่อนที่จะเผชิญกับแรงขายเมื่อวานนี้จากสองสาเหตุ คือ (1) ความกังวลเรื่องความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน และ (2) XD ของหุ้น big cap หลายบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธนาคาร อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสที่จะฟื้นตัวราวปลายเดือน เม.ย. หลังจากที่นักลงทุนได้ซึมซับข่าวในตะวันออกกลางไปแล้วระยะหนึ่ง รวมถึงสัญญาณของ market timing indicator ที่ดีขึ้นดังต่อไปนี้ 1) ดัชนี Short-term Bull-to-Bear ฟื้นตัวแรงในสัปดาห์ที่แล้วจากกรอบล่าง 11% สู่ 68% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปีนี้และเป็นสัญญาณของ trend turnaround signal 2) ดัชนี Short-term Momentum Strength ก็ฟื้นตัวจากโซนติดลบเข้าสู่โซนบวกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 3) ความผันผวนของตลาดแม้ว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นตามการ pullback ในระยะสั้น แต่ระดับของการเคลื่อนไหวก็ยังอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีค่อนข้างมาก 4) Medium-term Bull-to-Bear ฟื้นตัวจาก 8% ซึ่งเป็นระดับ oversold สู่ 24% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณ turnaround สอดคล้องกับ Composite Short-term Indicator



Quick Take

KCE
เคซีอี อีเลคโทรนิคส์
ราคาทองแดงปรับตัวขึ้นกดดันต้นทุน
ราคาทองแดงในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ $9,590.50/ตัน สูงสุดในรอบ 22 เดือน จากต้นปีถึงปัจจุบันราคาปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 11% และหากเทียบกับค่าเฉลี่ยราคาในปี 2023 ที่ $8483/ตัน ราคาปรับตัวขึ้นมา 10% ต้นทุนแผ่นทองแดงคิดเป็น 7% ของรายได้สำหรับ KCE โดยหากราคาทองแดงปรับตัวขึ้นราว 10% ในระดับปัจจุบัน (สมมติฐานค่าทำทรงตัว) คาดจะกระทบต่อ GM ราว 0.5% ซึ่งจากราคาทองแดงที่ปรับตัวขึ้นคาดจะเริ่มส่งผลใน 3Q24 (มีสต๊อคของเดิม)

ROCTEC
ร็อคเทค โกลบอล
เปลี่ยนธุรกิจเต็มตัว + โอกาสในคาสิโน
ROCTEC ได้มีการเปลี่ยนธุรกิจจากในอดีตที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจสื่อ มาเป็นธุรกิจด้าน IT Solution หลังจากการเข้าซื้อ Roctec Hongkong เข้ามา รายได้สำหรับธุรกิจ ICT Solutions 2/3 มาจาก Hongkong บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2024/25 ที่ 3.3 พันล้านบาท (เติบโต 23% YoY) และ โตต่อเนื่อง 20% YoY ใน 2025/26 แตะ 4 พันล้านบาท โดยมี Backlog รองรับ 4 พันล้านบาท สำหรับโอกาสในคาสิโนน่าจะสามารถดำเนินการได้ใน 3 ส่วนคือ 1) Network infrastructure, 2) Cyber security และ 3) IoT หากประเมินรายได้ตามเป้าหมายของบริษัท และอิง NM ที่ 8% ใกล้เคียงกับระดับปัจจุบัน คาดกำไรใกล้เคียง 300 ล้านบาท เติบโตจาก 220 ล้านบาทในปี 2023/24 เราไม่ได้มีการให้คำแนะนำสำหรับ ROCTEC

Thai Market Strategy
สถิติ SET index ในภาวะสงคราม/ขัดแย้ง
ความเสี่ยงสงครามกลับมารุนแรงขึ้น หลังอิหร่านตอบโต้อิสราเอล ในอดีต การปรับฐานของ SET ในภาวะสงครามแบ่งได้เป็น 3 แบบตามความรุนแรง/ความยืดเยื้อ 1) ถ้าไม่รุนแรง/ไม่ยื้อเยื้อ 2) ถ้ายืดเยื้อ/รุนแรงขึ้น 3) ถ้ารุนแรงมาก มีประเทศใหญ่ๆ เข้าร่วมสงครามเพิ่ม ระยะเวลาจน bottom : ในอดีต เฉลี่ยๆ ตลาดหุ้น bottom ภายใน 1-2 เดือนแล้วค่อยๆ ฟื้น (ถ้าไม่ recession**)


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

น้ำขึ้นให้รีบตัก By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดบวก หุ้นขึ้น วันนี้ น้ำขึ้นให้รีบตัก หรือเทขายกำไรไว้ก่อน ด้วยพรุ่งนี้ ตลาดเรา ...........

งบท่องเที่ยว By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ยังคงแกว่งตัว ในกรอบแคบๆ ส่วนการเก็งกำไรนั้น หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้