DELTA : 1H24F ท้าทายเนื่องจากความต้องการยังคงอ่อนแอ

1H24F ที่ไม่น่าตื่นเต้น; การเติบโตของยอดขายชะลอตัวตาม GPM ที่หดตัว QoQ
แม้ว่าการเติบโตของกำไร YoY จะยังคงทรงตัวใน 1Q24F แต่เราคาดว่าจะเห็นการชะลอตัว QoQ เนื่องจากยอดขายที่ซบเซา และ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ลดลง ด้วยสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทำให้ปริมาณสินค้าคงคลังในกลุ่มรถยนต์อยู่ในระดับสูง (การแข่งขันด้านราคาที่เข้มข้น) และการชะลอตัวของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก โดยผลการดำเนินงานใน 1H24F น่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย อันที่จริงเราเห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นที่จำกัดสำหรับ DELTA ในระยะสั้น ดังนั้น จึงคงคำแนะนำ “ถือ” ไว้

คาดกำไรสุทธิ 1Q24F อยู่ที่ 4.59 พันล้านบาท -2% QoQ จาก GPM ที่ลดลง
ยอดขายสำหรับ 1Q คาดว่าจะเติบโต 14% YoY และ 4% QoQ ในรูปของดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1,070 ล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการรับรู้รายได้ที่มากขึ้นในกลุ่มพลังงานไฟฟ้า (เนื่องจากบางโครงการล่าช้าจาก 4Q23 ไปที่ 1Q24) ในขณะเดียวกัน ยอดขายในกลุ่ม Data center และกลุ่มพัดลมน่าจะทรงตัว QoQ และ GPM น่าจะลดลงเหลือ 23.8% จาก 24.5% ใน 4Q23 เนื่องจากส่วนประสมของผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอลง (การชะลอตัวของ Data center) เราคาดว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) และศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) จะเพิ่มขึ้น YoY สอดคล้องกับยอดขายและความพยายามของ DELTA ในการกระจายค่าใช้จ่ายทางเทคนิคตลอดทั้งปี แต่ลดลง QoQ เนื่องจากผลกระทบของฐานที่สูง

คงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับ DELTA โดยให้มูลค่าที่เหมาะสมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 66.00 บาท
เราให้ค่ากับ DELTA ด้วยวิธีการประเมินแบบสัมพัทธ์ โดยใช้ P/E 39.5 เท่า (+0.25 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากค่าเฉลี่ยในอดีต) ทำให้ได้มูลค่าที่เหมาะสมที่ 66.00 บาท ด้วยการคาดการณ์ที่ P/E ในปี 2024 และ 2025 อยู่ที่ระดับสูงมาก 46.3 เท่าและ 42.4 เท่าตามลำดับ เมื่อเทียบกับ 20 เท่าของคู่แข่ง อย่างไรก็ตาม เรากำหนดคำแนะนำให้ "ถือ" สำหรับ DELTA โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 66.00 บาท ซึ่งมีความเสี่ยงหลักรวมถึงการเร่งขยายกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ความต้องการดาต้าเซนเตอร์ชะลอตัว และแผนการขยายธุรกิจในอินเดีย