•    DELTA : กำไรหลักพลาดประมาณการเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ opex
กำไรหลักพลาดประมาณการเนื่องจาก OPEX ที่เพิ่มขึ้นและอัตราภาษีที่แท้จริง
DELTA รายงานกำไรสุทธิ 4.7 พันล้านบาท (+12% YoY, -13% QoQ) อย่างไรก็ตาม ยังไม่รวมกำไรพิเศษจำนวน 453 ล้านบาท (รวมค่าชดเชยสัญญาจำนวน 546 ล้านบาท ลดภาระผูกพัน และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 93 ล้านบาท) กำไรหลักอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท ต่ำกว่าคาดประมาณ 11% สาเหตุหลักมาจาก OPEX ที่สูงกว่าคาด และอัตราภาษีที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม  DELTA ประกาศว่าจะจ่ายเงินปันผล 0.45 บาท/หุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผล 30.5% (เทียบกับ 32.5% ในปี 2022A) เราคงคำแนะนำ “ขาย” สำหรับ DELTA เมื่อพิจารณาจากการประเมินมูลค่าที่มีราคาแพงของ DELTA ท่ามกลางสภาพแวดล้อมด้านอุปสงค์ที่ท้าทายมากขึ้นในปี 2024

ยอดขายชะลอตัว QoQ ตรงกันข้ามกับ OPEX
ยอดขายอยู่ที่ 3.78 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4 (+9% YoY, -7% QoQ) หรือ 1.03 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 5% การเติบโต YoY เกิดจากกลุ่มพลังงาน EV ในขณะที่การลดลง QoQ เกิดจากการชะลอตัวของอุปสงค์และผลกระทบจากการหยุดงานประท้วงของรถยนต์ในสหรัฐฯ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 24.5% (เทียบกับ 23.0% TISCOe) แม้ว่า OPEX จะเพิ่มขึ้น 30% YoY และ 16% QoQ เนื่องจากค่าบริการด้านเทคนิคจำนวน 1.38 พันล้านบาท (ของ DELTA ที่ไต้หว้น) ซึ่งชดเชยประโยชน์จาก GPM ที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ อัตราภาษีที่แท้จริงเพิ่มขึ้นเป็น 10.6% (เทียบกับ 6.5% ใน 4Q22 และ 3.2% ใน 3Q23) เนื่องจากสัดส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ BOI ที่ใหญ่ขึ้น และธุรกิจโซลูชันไม่ผ่านคุณสมบัติที่จะได้รับการยกเว้นในการเสียภาษี

คงคำแนะนำ “ขาย” สำหรับ DELTA ด้วยการปรับมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 66.00 บาท
เราคงคำแนะนำ “ขาย” โดยปรับมูลค่าที่เหมาะสมที่ 66.00 บาท (จากเดิม 67.25 บาท) โดยความเสี่ยงหลัก ได้แก่ เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเทียบกับ USD ความต้องการของเซิร์ฟเวอร์ที่ชะลอตัว และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

Market Insight
     E- mail :tiscoresearch@tisco.co.th