Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ : กลุ่ม HEALTHCARE คงคำแนะนำ “ซื้อ” PR9, BDMS และ BH

203


HEALTHCARE : จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าใน 1Q24 ควรติดตามสถานการณ์โรคในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น

 

ฤดูกาลไข้หวัดที่ยาวนานจะช่วยหนุนจำนวนผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในของโรงพยาบาลเอกชน
เราคาดว่าจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดที่เพิ่มสูงขึ้นจะช่วยหนุนจำนวนผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในใน 1Q24 สำหรับบริษัทในกลุ่มธุรกิจการแพทย์ของเรา ตามข้อมูลจากกรมควบคุมโรค จำนวนผู้ป่วยไข้หวัดในประเทศไทยใน 1Q24 เพิ่มขึ้นเป็น 118,180 ราย สูงกว่า 3 เท่าจากประมาณ 40,000 รายใน 1Q23 สำหรับแนวโน้มใน 2Q24 แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยรายสัปดาห์จะลดลงหลังจากเริ่มปิดเทอมในต้นเดือนมีนาคม (กลุ่มเด็กเป็นกลุ่มผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่ใหญ่ที่สุด) แต่ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 70% YoY ดังนั้น โรงพยาบาลในกลุ่มบริษัทที่เราติดตามน่าจะยังคงมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นใน 2Q24 ด้วย

เชื้อแบคทีเรียกินเนื้อและการระบาดของไข้หวัดนกอาจทำให้ปริมาณผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เรามองว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เนื่องจากใกล้ถึงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวไทย กำลังประสบกับการระบาดของโรคหายากแต่ร้ายแรงที่เรียกว่า "กลุ่มอาการช็อกพิษจากเชื้อสเตรปโตค็อกกัส" หรือแบคทีเรียกินเนื้อ โดยมีผู้ป่วยแล้วกว่า 556 รายในปีนี้ ซึ่งมากกว่าครึ่งของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมดในปี 2023 แม้โรคนี้จะไม่ติดต่อง่ายเท่าโควิด-19 แต่มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 30% แม้ยังไม่พบผู้ป่วยรายใดในประเทศไทยในปีนี้ แต่เราคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีคนไทยจำนวนมากเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงวันหยุดสงกรานต์ (6-16 เมษายน) นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีวันหยุดยาวอีกช่วงหนึ่งคือ "Golden Week" ในช่วงปลายเดือนเมษายน ซึ่งน่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นให้เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยด้วย

นอกจากนี้ ในสหรัฐฯ ได้มีการรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดนก (H5N1) ในมนุษย์รายที่สองแล้ว หลังจากที่เกิดการระบาดในฝูงโคนมใน 6 รัฐ เชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายจากการสัมผัสใกล้ชิดระหว่างมนุษย์และสัตว์ที่ติดเชื้อ แต่การแพร่จากคนสู่คนนั้นพบได้น้อยมาก อย่างไรก็ตาม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ปัจจุบันประเมินว่ามีความเสี่ยงต่อประชาชนทั่วไปในระดับต่ำ แต่จะยังคงเฝ้าระวังสัญญาณที่อาจส่งผลให้ความเสี่ยงด้านสาธารณสุขสูงขึ้น เช่น การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอย่างมาก หรือการแพร่เชื้อจากคนสู่คน

หากโรค STSS หรือไข้หวัดนก H5N1 แพร่กระจายมาสู่ประเทศไทย โรงพยาบาลในท้องถิ่นน่าจะต้องเผชิญกับจำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ PR9, BDMS และ BH โดยมูลค่าที่เหมาะสมเท่ากับ 23.00, 37.00 และ 285.00 บาท

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

Microsoft ลงทุนไทย By: แม่มดน้อย

ภาพรวมหุ้นไทยในภาคเช้าที่ผ่านมา แกว่งตัวซิกแซกขึ้น สงสัยตอบรับข่าวดี Microsoft ลงทุนไทย....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้