Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

193

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม
Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ
อัปเดต Sentiment การลงทุนในภูมิภาคจาก Fund Flow
1 Sentiment การลงทุนจากการติดตาม fund flows ใน 5 ประเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนแอลงเล็กน้อย โดยมียอดขายสุทธิรวมกันมูลค่า 482 ล้านเหรียญ ซึ่งส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในตลาดหุ้นไต้หวันจากแรงขายสุทธิ 1,853 ล้านเหรียญ ในขณะที่ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ยังมีแรงซื้อที่โดดเด่นสุดในภูมิภาคมูลค่า 1,540 ล้านเหรียญ
ส่วน TIP Market มียอดขายสุทธิรวมกัน 169 ล้านเหรียญ แต่หลักๆแล้วเป็นแรงขายในอินโดนีเซียมูลค่า 125 ล้านเหรียญ ส่วนฟิลิปปินส์และไทยมียอดขายสุทธิเพียง 42 ล้านเหรียญ และ 3 ล้านเหรียญ ตามลำดับ

2 สำหรับแรงซื้อเด่นในภูมิภาคจากการจับสัญญาณด้วย Volume Index มีดังนี้ (1) Communication & Internet (2) Consumer Non-Cyclical (3) Financials และ (4) Semiconductor

Volume Index Outlook:
เซคเตอร์ไทยที่น่าจับตาในระยะสั้น (เฉพาะที่ cover ในรายงาน Flow Tracker) ได้แก่
กลุ่มที่ Volume Index พักตัวในสัปดาห์ที่แล้ว มาสู่ระดับใกล้ mid-point แต่มีโอกาสรีบาวด์ เนื่องจากแนวโน้มหลักยังเป็น uptrend ได้แก่ Energy & Utilities และ ICT

Market Timing Update (เฉพาะตลาดหุ้นไทย):
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยยังเคลื่อนไหวเป็น range-bound อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเปลี่ยนกรอบการเคลื่อนไหวจาก 1350-1400 จุดที่เทรดมาตลอดไตรมาส 1 ขึ้นเป็น 1400-1450 จุดในไตรมาส 2 จากสัญญาณดังต่อไปนี้
1 ดัชนี Short-term Bull-to-Bear ล่าสุดได้ปรับตัวลงสู่ระดับ 11% ซึ่งเป็นโซนที่มักเกิด mean reversion ตามมา
2 สัญญาณ market timing ในระยะกลาง มีแนวโน้มดีขึ้น พิจารณาได้จาก ดัชนี Medium-term Momentum ที่ค่อยๆฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ทำไว้ในเดือน มี.ค. รวมถึงการมีภาพ Medium-term Market Breadth ที่ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วง 4 เดือนก่อน จากระดับ 10% ในเดือน พ.ย. 2023 สู่ 39% ในปัจจุบัน

สรุปภาพตลาดวานนี้
วานนี้ SET Sideways หุ้นใหญ่ด้านบวก TRUE PTTGC IVL SCC SCGP BH BEM OSP BAY สลับกับฝั่งลบ PTT PTTEP TOP CRC CPAXT CPALL BCP MINT KTB (สังเกตุว่าคละกลุ่มทั้งสองฝั่ง) ขณะที่กลุ่มหุ้นกลาง-เล็ก สลับมาบวกแรงยังมีให้เห็น อย่าง SABUY JPARK YGG AH JCK เป็นต้น

แนวโน้มตลาดวันนี้
บวก-ลบ ตามปัจจัยเฉพาะตัว ช่วงตลาดไม่คึกคัก
วันนี้ประเมิน SET ยังแกว่งอยู่ในกรอบเดิม 1370-1395 แม้จะมีโอกาสที่ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่คาดยังไม่ได้กลับไปคึกคักมาก เพราะยังมีช่วงวันหยุดยาวก่อน-หลังสงกรานต์รออยู่ อีกทั้งตลาดยังอยู่ในโหมด Wait-and-See เรื่องหลักๆ อยู่ 3 ประเด็น คือ 1) ความชัดเจนนโยบายแจกเงินดิจิทัลราว 10 เม.ย. 2) ทิศทางของนโยบายดอกเบี้ย กนง. 10 เม.ย. และ 3) ประเด็นเกี่ยวกับความคืบหน้า การคุม Program trading / การขายชอร์ต ซึ่งวันที่ 9 เม.ย. จะเป็นวันแรกที่มีการเปิดเผยรายชื่อหุ้นที่ยังไม่ Covered Short จะได้เห็นหน้าตาชัดๆ ว่าหน้าหุ้นจะเป็นอย่างไร และควรคาดหวังมาตรการอะไรต่อไปจากนี้ เป็นต้น

ส่วนปัจจัยกระตุ้นรายกลุ่มในระยะสั้น มองว่าจะมาจาก 1) Indicator ชี้นำปัจจัยพื้นฐาน เช่น TH10Y ปรับตัวลงต่อเนื่อง บวกต่อกลุ่ม Rate-Sensitive, ราคาน้ำมันขาขึ้น-การประชุม OPEC บวกต่อกลุ่มน้ำมัน-โรงกลั่น และ 2) ข่าวบวกต่อ Sentiment การเล่นหุ้นรายกลุ่ม เช่น การเข้าผ่าน พ.ร.บ. งบประมาณ บวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ งานวางระบบ และเชื่อมโยงเศรษฐกิจฐานราก และกิจกรรม Event พิเศษ อย่างสงกรานต์ บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว, ฟุตบอลยูโร 24 (มิย.-กค.) และโอลิมปิค 24 (กค.-สค.) บวกต่อกลุ่มเครื่องดื่ม-อาหาร เป็นต้น

ส่วนประเด็นบวกในระยะถัดไป แนะนำติดตาม 1) Economic Reborn หรือเห็นปัจจัยมหภาคหนุนความเชื่อมั่นกลับ เช่น กลุ่มเชื่อมโยงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน (ฝั่งการผลิตดีขึ้น) ญี่ปุ่น (ฝั่งอุปสงค์เพิ่ม) และ 2) กระแสเศรษฐกิจโลกใหม่ เช่น AI, ไบโอเทคโนโลยี และแรงส่งหุ้น Growth Stock กลับมา ก่อนเข้าช่วงลดดอกเบี้ยฯ

กลยุทธ์การลงทุน
เลือกเล่นหุ้นตาม ธีมลงทุน Earnings play / หุ้นปันผล / ธีมการลงทุนจากปัจจัยหนุนการปรับเพิ่มประมาณการณ์กำไร

วิเคราะห์ทางเทคนิค
SET ขึ้นทดสอบกรอบสามเหลี่ยมใหญ่…จับตาโซนต้าน 1,390 จุด (เส้นกด) รอจังหวะทะลุขึ้น ขณะที่โครงสร้างระยะกลางเรายังคงให้น้ำหนักในแบบ sideway & triple bottom ซึ่งชี้ว่าดัชนีมีโอกาสผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โซนรับ 1,350 จุด สู้ได้! สรุป:เงื่อนไขหาก SET ปรับตัวขึ้นสวยๆ สูงกว่าโซนต้านได้ จะบ่งชี้สัญญาณกลับตัวขาขึ้นรอบใหม่! Note: ปัจจัยในบ้านเราติดตามเรื่องร่างพรบ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี คาดจะมีเม็ดเงินอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจสูงถึง 3.4 ล้านล้านบาท ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดพลิกกลับเป็น + ลุ้น fund flow ไหลเข้า...นอกจากนี้ยังมีแผนแก้เกมส์ KTB & กลุ่มปิโตรเคมี “ ขึ้นสามเหลี่ยม...รอเบรค” รายละเอียดในหน้าถัดไปและฝากติดตามบทวิเคราะห์ “World Asset Class” วันนี้นำเสนอหัวข้อ “ค่าเงินบาท...ทดสอบจุดวัดใจ!”

 


What to watch
ตัวเลขดัชนี ISM (PMI) สหรัฐ วานนี้ อยู่ที่ 50.3 เกินค่ากลาง (เป็นด้านขยายตัว) และเพิ่มขึ้นจาก 47.8 ในเดือน ก.พ. และสูงกว่าตลาดคาดที่ 48.4 // ทำให้วันนี้ US10Y กลับมาดีดตัวขึ้นอีกครั้ง จากการเก็งเศรษฐกิจสหรัฐ แข็งแกร่ง
วันศุกร์ ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร
การประชุม OPEC (ประชุมย่อย) วันที่ 3 เม.ย. คาดยังคงยืนยันเป้าหมายลดกำลังการผลิตต่อไปจนสิ้นปี 2024
คลังส่งซิก เมืองการบินตอบโจทน์ Entertainment Complex (ที่มา: ข่าวหุ้น) มองเป็น Sentiment หนุนต่อ BA-BTS-STEC
ตัวเลขยอดขายในงานมอเตอร์โชว์ 7 วันแรก 1.9 หมื่นคัน (รอบนี้ยังไม่รวมบางแบรนด์) เทียบ 1.27 หมื่นคันของ 7 วันแรกปีที่แล้ว โดยแบรนด์ EV เดิมมีแนวโน้มลดลง แทนด้วยแบรนด์ใหม่ แต่พบที่น่าสนใจ Toyota บวกเด่น 56% YoY และ Mitsubishi ก็ดูดีขึ้น เรามองบวกต่อ SAT แต่ตลาดโดยรวมยังมีแรงกดดัน
ข่าว Credit rating: CPF ถูก TRIS ลดอันดับเครดิตองค์กรจาก A+/Negative เป็น A/Stable เพี่อสะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่อ่อนลง (ผลอาจทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยสูงขึ้น) // ตรงข้าม TU ด้าน Japan Credit Rating (JCR) ได้อัพเกรดเครดิตเรทติ้งองค์กร เป็นจาก A-/Stable เป็น A/Positive จากความเสี่ยง Red Lobster ลดลง และกำไรมีเสถียรภาพขึ้น
3 เมย. โปรดเกล้า กม.พรบ.ปี 67 เริ่มใช้งบประมาณได้
การประชุม กนง. 10 เมย. นี้ ตลาดลุ้นสัญญาณทิศทางดอกเบี้ย
ความชัดเจนนโยบายแจกเงินหมื่นของรัฐบาลไทย 10 เมย.นี้
วันที่ 9 เมย.นี้ ตลท. จะเริ่มเพิ่มรายงาน รายชื่อหุ้นยืม ชอร์ตเซล ที่ยังไม่ได้ซื้อคืน

หุ้นแนะนำวันนี้
STEC ข่าวลบวานนี้ หุ้นลงแค่ชั่วครู่แล้วเด้งกลับมาทันที แสดงถึงแรง Sell-on-fact จบ/มีการ Covered Short กลับ และแรงซื้อ Buy ahead the fact ดัก พ.ร.บ. งบประมาณใช้ทางการ นำไปสู่การเร่งเบิกจ่ายเงินจริง(S 9.8 R 12-12.5 SL 9.5)

THANI ย้ำหุ้น Rate Sensitive ตัวกลาง-เล็กกลุ่ม เล่นดักก่อนทิศทางดอกเบี้ยขาลง 2-3 เดือน จะให้ผลตอบแทนมากกว่าเฉลี่ยกลุ่มการเงินและ SET (Alpha return) ทั้งนี้ หากวันนี้ย่อเพราะ Bond Yields สหรัฐฯ เด้ง เป็นโอกาสซื้อเก็งกำไรอีกรอบ(S 2.2-2.3 R 2.6 SL 2.0)

รายงานพื้นฐานวันนี้

Commodities
กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีเด่นสุดในกลุ่ม
ในสัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันดิบดูไบ ลดลงเล็กน้อย $0.18 WoW เป็น $85.76/บาร์เรล จากสต็อคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น (ลบต่อ PTTEP เล็กน้อย)
ค่าการกลั่น (อิงสิงคโปร์) ย่อตัว $0.67 WoW เป็น $5.57/บาร์เรล แต่ Gasoline ปรับตัวขึ้น และกำมะถันสูง แต่ดีเซลและน้ำมันเครื่องบินลดลง (กระทบ TOP มากสุด)
ส่วนต่างราคา (Spread) ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น หลักๆ เป็นแรงกดดันจากต้นทุนลดเป็นหลัก (โดยรวมบวกต่อ PTTGC มากสุด)
ราคาถ่านหินเพิ่มขึ้น 1% WoW เป็น $127.54/ตัน (บวกต่อ BANPU เล็กน้อย)
ค่าระวางเรือเทกอง (BDI) ลดลง 16% WoW เป็น 1,945 จุด จากทุกกลุ่ม (ลบต่อ PSL และ TTA)
ส่วนค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ (World Container Index) ลดลงต่อ 3% WoW เป็น 2,929 จุด (ลบต่อ RCL)
Fundamental View: เชิงพื้นฐานเราชอบ PTTEP มากสุดสำหรับพลังงานต้นน้ำ, TOP มากสุดในกลุ่มโรงกลั่น และเห็นโอกาสเก็งกำไร SPRC

Bank Sector
กลุ่มการเงิน
แนวโน้มกำไรฟื้นตัว QOQ
เราคาดกำไรสุทธิกลุ่มธนาคาร 1Q24 เท่ากับ 5.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% YoY (NIM สูงขึ้น) และ 20% QoQ (การตั้งสำรองหนี้ฯ และค่าใช้ดำเนินงานลดลง) โดยเราคาดธนาคารที่จะรายงานกำไรเติบโตได้ดี YoY นำโดย TTB, KTB, BBL และ KBANK ขณะที่คาดธนาคารที่จะรายงานกำไรสุทธิ 1Q24 ลดลง YoY นำโดย KKP และ SCB ส่วน TISCO คาดจะรายงานกำไรค่อนข้างทรงตัว YoY
เราคาดกำไรสุทธิ 2Q24 ของกลุ่มธนาคารจะอยู่ที่ราว 5 หมื่นล้านบาท ลดลง 5% YoY (ค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้นและกำไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนลดลง) และ 3% QoQ (NIM อ่อนตัวลง) โดยเราคาดธนาคารที่จะรายงานกำไรลดลง YoY นำโดย KKP, SCB และ TISCO
Fundamental View: Top picks ของกลุ่มธนาคาร เราเลือก KTB และ KBANK

Quantitative Strategy
ดัชนี Composite Short-term เข้าใกล้โซนกลับตัว
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยยังเคลื่อนไหวเป็น range-bound อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเปลี่ยนกรอบการเคลื่อนไหวจาก 1350-1400 จุดที่เทรดมาตลอดไตรมาส 1 ขึ้นเป็น 1400-1450 จุดในไตรมาส 2 จากสัญญาณดังต่อไปนี้ 1) ดัชนี Short-term Bull-to-Bear ล่าสุดได้ปรับตัวลงสู่ระดับ 11% ซึ่งเป็นโซนที่มักเกิด mean reversion ตามมา 2) สัญญาณ market timing ในระยะกลาง มีแนวโน้มดีขึ้น พิจารณาได้จาก ดัชนี Medium-term Momentum ที่ค่อยๆฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดที่ทำไว้ในเดือน มี.ค. รวมถึงการมีภาพ Medium-term Market Breadth ที่ดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วง 4 เดือนก่อน จากระดับ 10% ในเดือน พ.ย. 2023 สู่ 39% ในปัจจุบัน


สรุปประเด็นจาก Quick take

AUTO
ออโต้
ยอดขาย 7 วันแรกของ Motor Show 2024
ยอดขายครึ่งทางของ Motor Show 2024
View From Fundamental: จากยอดขาย Toyota และ Mitsubishi ที่เติบโตได้ดีใน motor show ครั้งนี้ เราคาดว่าจะเป็นผลบวกต่อ SAT มากที่สุด อย่างไรก็ตามโดยรวม ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศยังคงโดนกดดันจากยอดรถอีวีที่นำเข้ามาขายในประเทศที่มากขึ้น

CPF
เจริญโภคภัณฑ์อาหาร
ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กร CPF เป็นระดับ “A” จาก “A+”
ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กร CPF เป็นระดับ “A” จาก “A+” และเปลี่ยนแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น “Stable” จาก “Negative” พร้อมทั้งลดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน ไม่มีประกันและไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัท และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน
View From Fundamental: ตามข้อกำหนดทางการเงินของตราสารหนี้ที่ระบุให้บริษัทต้องดำรง Net D/E ให้ต่ำกว่า 2.0 เท่า ขณะที่บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวที่ 1.5 เท่า ณ สิ้นปี 2023 เราจึงเชื่อว่าบริษัทจะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวได้ นอกจากนี้ เรายังคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะดีขึ้นในปี 2024 จากราคาวัตถุดิบที่ลดลงเป็นสำคัญอย่างไรก็ดี เราคาดว่า ต้นทุนทางการเงินของบริษัทจะสูงขึ้นในอนาคต และยังไม่อยู่ในประมาณการของเรา หากอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.1% สำหรับเงินกู้และหุ้นกู้ใหม่จำนวน 4.8 หมื่นล้านบาท เราคาดเบื้องต้นว่าจะกระทบกำไรปี 2024 ที่ 3%

TU
ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป
Japan Credit Rating อัพเกรดเครดิตเรทติ้งองค์กรเป็น A
Japan Credit Rating (JCR) ได้อัพเกรดเครดิตเรทติ้งองค์กร ไทยยูเนี่ยนเป็น A จาก A-และปรับแนวโน้มธุรกิจเป็น Stable จาก Positive
View From Fundamental: เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 17.80 บาท จากฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานที่ต่ำสุดของปีจะอยู่ใน 1Q24 และก้าวกระโดด YoY และ QoQ ใน 2Q24 มาจากการฟื้นตัวของยอดขาย Ambient seafood และ Pet Care และมี GM สูงขึ้น

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

น้ำขึ้นให้รีบตัก By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดบวก หุ้นขึ้น วันนี้ น้ำขึ้นให้รีบตัก หรือเทขายกำไรไว้ก่อน ด้วยพรุ่งนี้ ตลาดเรา ...........

งบท่องเที่ยว By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง วันนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ยังคงแกว่งตัว ในกรอบแคบๆ ส่วนการเก็งกำไรนั้น หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้