Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.ทิสโก้ : SISB คงคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่ 50 บาท

209


เอสไอเอสบี
คาดกำไรเติบโตได้ต่อเนื่องจากขยายฐานใหม่


แนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากการขยายฐานใหม่

เรายังคงคำแนะนำ“ซื้อ” จากคาดผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายสาขาเดิมและการรับรู้รายได้สาขาใหม่เต็มปี ยังสามารถรองรับนักเรียนได้เพิ่มขึ้นจาก Utilization rate ยังต่ำ 62.5% เทียบกับการจดทะเบียนเต็มกำลังความสามารถในการรองรับนักเรียน บริษัทมีปรับการขยายสาขาเดิมเพิ่มขึ้นในปี 2024-25F เป็น 1,800 ที่นั่ง จากเดิมตั้งเป้าขยาย 1,500 ที่นั่ง จากสาขาประชาอุทิศที่ปรับเพิ่มขึ้น เราคาดกำไรสุทธิ 1Q24F และทั้งปี 2024F เพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่สูงสุดต่อเนื่อง เราปรับประมาณการเพิ่มขึ้นสะท้อนผลประกอบการจากฐานปี 2023 และแผนการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น คาดกำไรสุทธิปี 2024-25F เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 32% (CAGR 2Y)

ปรับแผนขยายสาขาเดิมปี 2024-25F เพิ่มขึ้นจาก 1,500 ที่นั่งเป็น 1,800 ที่นั่ง

บริษัทประกาศปรับแผนขยายสาขาเดิมเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสาขาประชาอุทิศที่ได้รับการตอบรับดี โดยในปี 2024F บริษัทมีการขยายสาขาเขียงใหม่เฟส 2 แล้ว 300 ที่นั่ง และวางแผนขยายสาขาธนบุรีเฟส 3.1 จำนวน 300 ที่นั่ง คาดจะเริ่มการศึกษาใหม่ ส.ค.24 สำหรับปี 2025F บริษัทวางแผนขยายสาขาประชาอุทิศเฟส 3 จำนวน 600 ที่นั่ง และสาขาธนบุรีเฟส 3.2 อีก 600 ที่นั่ง วางงบลงทุนในปี 2024F คาด 40 ล้านบาท ในการก่อสร้างอาคารและเช่าพื้นที่ สำหรับปี 2025F วางงบลงทุนจากการก่อสร้างอาคารไม่เกิน 500 ล้านบาท (ค่าเสื่อมรวมค่าเช่าที่ดินประมาณปีละ 20-24 ล้านบาท/ปี) โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดในมือ บริษัทตั้งเป้านักเรียนเพิ่มขึ้นปีละ 400 คนในปี 2024-26F จาก 6 สาขา โดยปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นราว 80 คน และคาดจะเพิ่มสูงสุดในช่วงไตรมาส 3 จากการเปิดการศึกษาใหม่ (ณ สิ้นปี 2023 มีจำนวนนักเรียน 4,197 คน คิดเป็น Utilization rate 83% ของพื้นที่ห้องที่เปิดแล้ว และคิดเป็น 62.5% เทียบกับการจดทะเบียนกับจำนวนความสามารถในการรองรับ, นักเรียนเข้าใหม่ 1,140 คน ส่วนใหญ่เป็นคนจีนที่สมัครเข้าเรียนสาขาประชาอุทิศและเชียงใหม่เป็นหลัก ปัจจุบันสัดส่วนจำนวนนักเรียนต่างชาติ 27% และคนไทย 73%)

ปรับประมาณการเพิ่มขึ้นคาดกำไรเติบโต 32% (CAGR2Y) จากอัตราทำกำไรที่เพิ่มขึ้น

เราคาดกำไรสุทธิ 1Q24F จะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นในขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นบุคลากรและครูมีอัตราเพิ่มขึ้นน้อยกว่ารายได้ และแนวโน้ม 2Q24F จะอ่อนตัวลง QoQ จากรายได้กิจกรรมที่ลดลง และจะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจากการเปิดเทอมใหม่ เราปรับประมาณการปี 2024-26F เพิ่มขึ้นจากคาดเดิม 4-6%โดยกำไรสุทธิปี 2024-25F อยู่ที่ 908 ล้านบาท (+39%YoY) และ 1,134 ล้านบาท (+25%YoY) ตามลำดับ คาดค่าเทอมเฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 7% จากการปรับค่าเทอมและโครงสร้างนักเรียนในระดับปฐมและมัธยมที่เพิ่มขึ้นที่มีค่าเทอมสูงกว่าจากการขึ้นระดับชั้นทุก 2 ปี คาดจำนวนนักเรียนปี 2024-25F เพิ่มขึ้น 405 คน และ 410 คน ตามลำดับ เราคาดผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกคือ 1) ผู้ปกครองปัจจุบันที่ใส่ใจต่อการศึกษาให้บุตรเรียนหลักสูตรภาษาอินเตอร์มากขึ้น 2) หลักสูตรสิงคโปร์ที่มีภาษาจีนเพิ่มขึ้นและได้รับความนิยมและผลการทดสอบคะแนนเป็นอันดับ 1 ของโลก 3) นโยบายของประเทศจีนที่ลดความสำคัญของภาษาอังกฤษส่งผลมาเรียนต่อประเทศไทยมากขึ้น 4) ยังมี upside จากการที่บริษัทมีแผนจะเปิดโรงเรียนโครงการ Halving Project ทีค่าเทอมรองลงมาจากโรงเรียน Inter premium คาดหวังดึงส่วนแบ่งนักเรียนจากกลุ่ม English Program ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 20% ของในประเทศ

เรายังคงคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 50 บาท

เราแนะนำ “ซื้อ” จากคาดผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากการเติบโตของโรงเรียนทุกสาขาที่มีทำเลดีและค่าเทอมอยู่ระดับกลางในกลุ่มโรงเรียน Inter Premium รวมถึงมีหลักสูตรสิงคโปร์ 3 ภาษา ที่มีภาษาจีนเพิ่มขึ้นตอบโจทย์ผู้ปกครอง ราคาเป้าหมายใหม่จากการปรับประมาณการอยู่ที่ 50 บาท จากเดิม 42.50 บาท อ้างอิงวิธี DCF (WACC 8%, T-growth 1.5%) ราคาเป้าหมายเทียบเท่า PEG24F 1.3X, บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ (net cash) ความเสี่ยง : 1) การแข่งขันของโรงเรียนนานาชาติ 2) การขาดแคลนบุคลากร

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้