สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (28 กุมภาพันธ์ 2567)------บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 28 ก.พ. 2567เปิดเผยว่า SET ยังไม่ผ่าน 1400 จุด และกลับมาอ่อนตัว ทำให้มีแนวโน้มสร้างรูปแบบการเคลื่อนไหว sideways ในกรอบระหว่าง 1380-1400 จุด ดังนั้น ล่าสุดลงมาใกล้บริเวณกรอบล่าง แนวรับ 1387 และ 1380 จุด ตามลำดับ เป็นจุดลุ้นฟื้นตัวกลับ ด้านแนวต้านอยู่กรอบบนเดิมบริเวณ 1400-1405 จุด


ประเด็นสำคัญ
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ ก.พ. โดย CB ลดลงสู่ 106.7 จาก 110.9 ใน ม.ค. ต่ำกว่าคาดที่ 115.0 หลังปรับขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน จากความกังวลตลาดแรงงานและปัจจัยการเมือง ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ม.ค. ลดลง 6.1% เป็นการปรับลงมากที่สุดนับตั้งแต่ เม.ย. 2563 และแย่กว่าตลาดคาด
• เจฟฟรีย์ ชมิด ปธ. Fed สาขาแคนซัสซิตี ระบุ Fed ยังให้ความสำคัญกับความเสี่ยงเงินเฟ้อที่ระดับสูงและไม่เร่งรีบที่จะปรับลด ดบ. เช่นเดียวกับมิเชล โบว์แมน ผู้ว่าการ Fed ระบุ Fed ไม่รีบที่จะลด ดบ. เมื่อพิจารณาจากความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ
• รัสเซียได้อนุมัติคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันเบนซินเป็นเวลา 6 เดือน โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อรักษาราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพท่ามกลางอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากผู้บริโภคและเกษตรกร รวมถึงจะเปิดทางให้มีการซ่อมบำรุงโรงกลั่น
• Apple ยกเลิกการดำเนินงานด้านรถยนต์ไฟฟ้า โดยย้ายพนักงานบางส่วนไปทำงานในโครงการด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)
• ก. พลังงานระบุจะพยายามคงค่าไฟฟ้างวดเดือน พ.ค.-ส.ค. นี้ไว้ในอัตราเดิม คือ หน่วยละ 4.18 บ. เท่ากับงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. ซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้ เพราะ PTTEP ยืนยันว่าจะสามารถขุดก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่ขาดหายไปจำนวนมากกลับคืนมาได้ตั้งแต่ เม.ย.นี้
• ตลท. คาด 2Q67 บังคับใช้มาตรการควบคุมชอร์ตเซลและโปรแกรมเทรดดิ้ง ใช้มาตรการ Auction-Circuit Breaker-Auto halt หารือ ก.ล.ต. แก้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์เอาผิดการทำ Naked short selling

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมองตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบ แต่มีโอกาสได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งและเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัว รวมถึงธุรกรรมการชอร์ตเซลที่คาดจะมีแนวโน้มกดดันบรรยากาศลงทุนน้อยลงและมีโอกาสลุ้น Fund Flow ไหลกลับ ขณะที่ในประเทศเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการทยอยประกาศผลประกอบการ 4Q66 ของ บจ. ไทย ซึ่งคาดยังมีแนวโน้มอ่อนแอ ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy”

แนวรับ-ต้าน
1387/1380 – 1400/1405

ล็อคเป้าลงทุน
Weekly Portfolio : ช่วงสั้น SET แกว่งตัวในกรอบ หลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายประกาศงบ 4Q66 ของ บจ.ไทย แต่ยังมีโอกาสลุ้น Fund Flow ไหลกลับหนุนบรรยากาศลงทุน กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลัก ดังนี้
1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาในไทยฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองมากนัก เลือก AOT MINT
2) หุ้นเก็งกำไรหาก SET ฟื้นตัวทะลุ 1400 จุด ซึ่งคาดจะมีแรงซื้อกลับจากทำ Cover Short และ Fund Flow ไหลกลับ ขณะที่พื้นฐานยังแข็งแกร่ง เลือก AOT KBANK KTB PTT
3) นักลงทุนระยะยาวแนะนำลงทุนสะสมแบบ DCA เนื่องจากมองเป็นจังหวะที่ดีที่สุด หลัง SET ปรับลงแรงจนความเสี่ยงลดลงไปมาก และราคาหุ้นอยู่ในระดับ Undervalue มาก โดยเลือก BBL BDMS BEM CPALL PTT และ SCC ซึ่งเป็นหุ้น SET100 ซึ่งเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม และมี ESG Ratings ระดับ AAA/AA, Valuation ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี และผลการดำเนินงานยังแข็งแกร่ง

Daily top picks
TOP 1Q67 คาดกำไรจะปรับตัวดีขึ้น QoQ จากการฟื้นตัวของ GRM โดยได้แรงหนุนจาก crack spread ที่สูงขึ้นของน้ำมันเบนซินและน้ำมันเตา อีกทั้งคาดมีผลขาดทุนสต๊อกระดับต่ำ ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PBV ที่ 0.7 เท่า (-1.4SD) สูงกว่าระดับ 0.5 เท่าในปีที่เกิดสถานการณ์โควิดเล็กน้อย

BDMS 1Q67 มองกำไรยังเติบโตแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ปี 2567 คาดกำไรปกติจะเติบโต 8% สู่ 1.5 หมื่นลบ. แรงหนุนจากรายได้ที่เติบโต 6% และ EBITDA margin ที่กว้างขึ้น อีกทั้ง Valuation ไม่แพง โดยเทรดที่ PER 67F ระดับ 29 เท่า ต่ำกว่าระดับ -2SD ของ PER เฉลี่ยในอดีต