กำไรสุทธิ 4Q23 เพิ่มขึ้น YoY และ QoQ จากธุรกิจทีวีและการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น

ONEE ประกาศกำไรสุทธิ 4Q23 อยู่ที่ 179 ล้านบาท (+24%YoY, +18%QoQ) โดยกำไรที่เติบโตมาจากธุรกิจทีวีและการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้นเป็นหลัก และกำไรปี 2023 อยู่ที่ 505 ล้านบาท (-32%YoY) โดยรายได้ 4Q23 จาก 1) รายได้ธุรกิจทีวีเพิ่มขึ้น YoY แต่ทรงตัว QoQ จากช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. ดีขึ้นแต่เดือน ธ.ค. ที่ลดลง 2) รายได้ขายลิขสิทธิ์คอนเทนท์เพิ่มขึ้น YoY จากจำนวนคอนเทนต์ที่เพิ่มขึ้นและการปรับราคาขายเพิ่มขึ้น 30-35% จากวิธีการขายแบบ dynamic มากขึ้น และทรงตัว QoQ ตามจากจำนวนคอนเทนต์ที่ใกล้เคียงกัน 3) รายได้วิทยุเพิ่มขึ้นและรายได้กลุ่มงานอีเว้นท์และบริหารศิลปินเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ เนื่องจากใน 4Q23 มีงานอีเว้นท์ทั้งหมด 44 งาน แต่เป็นอีเว้นท์ใหญ่ 1 งาน ได้แก่ “GMM Starlympic” เทียบกับ 3Q23 ที่มีงาน 39 งาน แต่เป็นอีเว้นท์ใหญ่ 2 งานได้แก่ คอนเสิร์ต “GeminiFourth” และคอนเสิร์ต “The Golden Song” ซึ่งทำรายได้มากกว่า คาดอัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนรายได้ทีวีและงานอีเว้นท์ และต้นทุนที่ลดลงจากการ Co-production กับพาร์เนอร์ต่างประเทศรวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพ คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปีและมีค่าใช้จ่ายในการทำการตลาด OTT Platform และการบริหารศิลปินที่เพิ่มขึ้น และมีการตั้งค่าเผื่อด้อยค่าลูกหนี้ของ GMMTV เพิ่มขึ้นประมาณ 20 ล้านบาท ตามมาตรฐานบัญชี

คงประมาณการเดิมคาดผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง

แนวโน้มกำไร 1Q24F เราคาดจะลดลง QoQ จากเป็นช่วง low season การใช้จ่ายสื่อโฆษณา และงานอีเว้นท์ที่คาด 25 งาน ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา แต่ต่ำกว่า 4Q23 ที่มีจำนวน 44 งาน เราคงประมาณการเดิมคาดกำไรสุทธิปี 2024-25F เพิ่มขึ้น 14% และ 15% ตามลำดับ คาดรายได้โฆษณาผ่านทีวีเพิ่มขึ้นปีละ 2% จากการทำคอนเทนต์ใหม่ๆ ขยายสื่อโฆษณาทีวี และการขายคอนเทนต์ไปต่างประเทศรวมถึงการขายลิขสิทธิ์ OTT platform และรายได้การบริหารศิลปินและงานอีเว้นท์ที่จะตามมามีจำนวนเพิ่มขึ้นคาดปีละ 10% สำหรับปีนี้จะมีซีรีย์เรื่อง “เขียนรักด้วยยางลบ My Love Mix-UP” แสดงโดย “เจมีไนน์-โฟร์ท” ต่อยอดจากซีรีย์ดัง “My School President” ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้ต่อยอดคอนเสิร์ตและงานบริหารศิลปินเหมือนในปี 2023 คาดอัตรามาร์จิ้นปี 2024F ใกล้เคียงเดิม และปี 2025F เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากต้นทุนการผลิตคอนเทนท์และงานบริหารศิลปินที่เพิ่มขึ้น

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 6.00 บาท อ้างอิงวิธี DCF (WACC 8%,T-growth 0.5%) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER24F อยู่ที่ 17.7X, คาด Dividend Yield 24F อยู่ที่ 2.3% ความเสี่ยง : ภาพรวมเศรษฐกิจส่งผลต่อการใช้จ่ายสื่อโฆษณา