บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 9 พันล้านบาท, เตรียมออก Energy drink เป้าหมาย 300 ล้านบาท

บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 9,000 ล้านบาท เติบโต 12%YoY คาดอัตราการใช้กำลังการผลิต utilization rate 80% มากกว่าปีที่ผ่านมา 71% คาดอัตรามาร์จิ้นลดลงเล็กน้อยหรือใกล้เคียงปีที่ผ่านมา จากการจ้างภายนอกผลิตประมาณ 500 ล้านบาทจากเป้าหมายรายได้ปีนี้ซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นต่ำกว่าสินค้าผลิตเอง และบริษัทอาจจะมีการบันทึกกำไรจากการขายที่ดินขายที่ดินเปล่าเนื้อที่ 72 ไร่ ในอยุธยา ซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้กับบริษัท ฮอน ชิน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ ICHI ซื้อวัตถุดิบกับบริษัทดังกล่าว มูลค่าขายรวม 360 ล้านบาท โดยหากการขายที่ดินสำเร็จคาดจะรับรู้กำไรหลัก 2 หลักใน 2Q24F นี้

บริษัทเตรียมแผนออกสินค้าใหม่ energy drink (Ton Power) วางจำหน่ายต้นเดือน มี.ค.24เป็นการจ้าง OEM ภายนอกผลิตเนื่องจากเป็นเครื่องดื่มขวดแก้ว จำหน่ายราคา 10 บาท ตั้งเป้ารายได้ 300 ล้านบาท รวมในเป้ารายได้ของ non-tea ปีนี้ที่คาด 1,040 ล้านบาทแล้ว จากปึที่ผ่านมา 706 ล้านบาท และกำลังศึกษาสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก สำหรับธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้า (OEM business) ตั้งเป้าหมายรายได้ 130 ล้านบาท เท่ากับปีที่ผ่านมา และตั้งเป้ารายได้ส่งออก เพิ่มขึ้น 4% จากภาพรวมเศรษฐกิจใน CLMV ยังชะลอตัว

บริษัทร่วมทุนอินโดนีเซียคาดจะกลับมารับรู้กำไร หลังจาก 4Q23 ที่บันทึกขาดทุน เนื่องจากบริษัทมีการตั้งการด้อยค่าของวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูปที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวน 37 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทมีการปรับกลยุทธ์การขายด้านราคาและพัฒนาสินค้าชาไทยในอินโดนีเซียคาดยอดขาย 1,800 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 1,600 ล้านบาท และคาดจะรับรู้กำไรจากการร่วมทุนถือหุ้น 50% อยู่ที่ 37 ล้านบาทในปี 2024F นี้

งบลงทุนปีนี้ จากการลงทุนไลน์ผลิตใหม่ 460 ล้านบาท ที่คาดจะเริ่มดำเนินงาน 4Q24F ช่วยเพิ่มกำลังการผลิต13% หรือ 200 ล้านขวด/ปี รวมเป็น 1,700 ล้านขวด/ปี สำหรับการลงทุนปรับปรุงขวด packaging (100% recyclable bottle) ลดปริมาณพลาสติกในการผลิตขวด เงินลงทุนหลักสิบล้านบาท จะเริ่มไลน์ผลิตแรกในเดือน เม.ย. คาดสัดส่วนลดตัวทุนในส่วนนี้ได้เล็กน้อยจากการเพิ่งเริ่มทดลองปรับปรุงไลน์ผลิต ในขณะที่ต้นทุนน้ำตาลเริ่มมีการเพิ่มขึ้นในเดือน มค. บริษัทมีการล็อคราคาน้ำตาลไว้แล้ว 6 เดือน

ปรับประมาณการลง คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 12% (CAGR2Y)

แนวโน้มกำไร 1Q24F คาดเพิ่มขึ้น YoY และทรงตัว QoQ จากคาดรายได้ใกล้เคียงกับ 4Q23 ที่ระดับ 2,100 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น +15%YoY และคาดอัตรามาร์จิ้นใกล้เคียงกับ 4Q23 ที่ 23.5% เราปรับประมาณการปี 2024-25F ลงจากคาดเดิมปีละ 5% คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,211 ล้านบาท (+10% YoY) และ 1,380 ล้านบาท (+14% YoY) ตามลำดับ จากการปรับรายได้ส่งออกและอัตรามาร์จิ้นที่ทำไว้สูงเกินไป และปรับคาดการณ์ธุรกิจ non-tea เพิ่มขึ้นจากคาดเดิม 10% บวกกับเครื่องดื่มพลังงานคาดแบบอนุรักษ์นิยมอยู่ที่ 200 ล้านบาท และปีถัดคาดไปเพิ่มขึ้น 10% คาดอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากคาดเดิมมาอยู่ที่ 23% และ 23.5% ตามลำดับ เนื่องจากการจ้างภายนอกผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาด 300-400 ล้านบาท เป็น 500 ล้านบาท จากกำลังการผลิตไม่เพียงพอและการจ้างผลิตสินค้า energy drink ซึ่งคาดจะมีอัตรามาร์จิ้นต่ำกว่าการผลิตสินค้าเอง คาดสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปี 2024F อยู่ที่ 16.9% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 16.8% ส่งผลให้คาดอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 13.5% และ14% ตามลำดับ

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 21.00 บาท

คาดผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากเครื่องดื่มเน้นกลุ่ม healthy trend เพื่อสุขภาพ และยังมีสินค้าใหม่เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นปัจจุบันให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงคาดปี 2024F ที่ 5.3% มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มอยู่ที่ 4.0% ในขณะที่ PER24F ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 17.9X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มอยู่ที่ 21.4X ราคาเป้าหมายใหม่จากการปรับประมาณการอยู่ที่ 21.00 บาท จาก 22.00 บาท อ้างอิง PER forward +1STD ของ ICHI เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 22.5X ความเสี่ยง : การแข่งขันเครื่องดื่มสูง, ภาพรวมเศรษฐกิจ