คงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดปี 2024F กำไรปกติเติบโตต่อเนื่องจากเรือที่เพิ่มขึ้น

กำไรปกติในปี 2023 ของ PRM ทำจุดสูงสุดใหม่ใกล้เคียงกับที่เราคาดไว้ เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ PRM จาก 1) คาด Core profit ใน 1Q24F ดีขึ้น QoQ จากธุรกิจ Offshore มีเรือลำใหม่เริ่มให้บริการ, 2) คาด Core profit จะเติบโตทำ New high ต่อเนื่องในปี 2024F จากเรือกองเคมีลำใหม่เดินเต็มทั้งปีและเรือธุรกิจ Offshore ที่เพิ่มขึ้น, 3) การประกาศทำ Share buyback วงเงินไม่เกิน 800 ล้านบาทและจำนวนหุ้นซื้อคืนไม่เกิน 100 ล้านหุ้นแสดงให้เห็นถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทและความเชื่อมั่นของผู้บริหารต่อตัวบริษัท, และ 4) ราคาหุ้นต่ำมากโดยราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PER ปี 2024F แค่ 8.2x เท่านั้น

กำไรปกติ 4Q23 ดีขึ้น QoQ ส่งผลให้กำไรปกติในปี 2023 ทำจุดสูงสุดใหม่

PRM ประกาศกำไรสุทธิของ 4Q23 อยู่ที่ 748 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY 128% QoQ แต่ในจำนวนนี้เป็นกำไรจากการขายเรือ 312 ล้านบาทและ FX Gain 13 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% QoQ (แต่ลด 27% YoY) ใกล้กับที่เราคาดไว้ โดยสาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้น QoQ มาจาก 1) ธุรกิจเรือขนส่งในประเทศที่เข้าสู่ช่วง high season ในปลายปี รวมกับการเพิ่มกองเรือเคมีขนาด 11,000 DWT 1 ลำที่เริ่มให้บริการกับ Petronas ในเดือนพ.ย., 2) ธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ เรือ Aframax ที่เข้าอู่แห้งเพื่อซ่อมบำรุงใน 3Q23 กลับมาให้บริการกับ BCP ในช่วงปลายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา, และ 3) ธุรกิจ FSU เรือที่นำไปดัดแปลงติดอุปกรณ์เพิ่มใน 3Q23 กลับมาให้บริการในช่วงปลายเดือนพ.ย. ส่วนกำไรปี 2023 กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,125 ล้านบาท แต่หากไม่รวมกำไรจากการขายเรือและ FX loss กำไรปกติจะอยู่ที่ 1.83 พันล้านบาท (+6% YoY) ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ของบริษัทโดยมีสาเหตุจากรายได้ที่เติบโตและมาร์จื้นที่สูงขึ้น

คาดกำไรปกติโตต่อเนื่องในปี 2024F สู่ระดับสูงสุดใหม่

แนวโน้มผลประกอบการปี 2024F ยังสดใส โดยเราคาดกำไรปกติจะเติบโต 9% สู่ระดับสูงสุดใหม่ที่ 1.99 พันล้านบาท โดยธุรกิจที่จะเป็นตัวผลักดันให้กำไรเติบโตคือ 1) ธุรกิจเรือขนส่งในประเทศอันเป็นผลมาจากเรือขนส่งปิโตรเคมีใหม่ 2 ลำเดินเต็มทั้งปี, และ 2) ธุรกิจ Offshore จะมีเรือเพิ่มขึ้น 1 AWB (เซ็นสัญญากับ PTTEP 2 ปี เริ่ม 15 ม.ค.2024) + 2 Crew Boat (ซึ่งเป็นเรือ Hybrid ทำให้สามารถตั้งราคาได้สูงกว่าเดิมมาก) ซึ่งลำแรกจะเริ่มให้บริการกับ Chevron ในเดือนก.พ.ที่จะถึงนี้ ส่วนอีกลำจะให้บริการได้ในเดือนเม.ย. ส่วนธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศและ FSU คาดผลการดำเนินงานทรงตัว YoY

คงคำแนะนำ “ซื้อ”โดยมีมูลค่าเหมาะสมที่ 8 บาท

เนื่องจากกำไรปกติเป็นไปตามคาด เราคงประมาณการกำไรสำหรับปี 2024-25F และมูลค่าที่เหมาะสมที่ 8 บาท ซึ่งอิงจาก PER 10 เท่า ปี 2024F (คิดจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของหุ้น) จากราคาหุ้นที่ไม่แพงและแนวโน้มที่ยังสดใสทำให้เรายังคงแนะนำซื้อ ปัจจัยเสี่ยงมาจากความผันผวนราคาพลังงานที่จะส่งผลต่อดีมานด์การใช้เรือและต้นทุน