โฟกัสการเพิ่มประสิทธิภาพในช่วงอุปสงค์ชะลอตัว
• กำไรสุทธิ 4Q23 ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 15% โดยกำไรสุทธิลดลง 5%YoY และ 8%QoQ เป็น 478 ล้านบาท จากความต้องการซื้อในตลาดโลกอ่อนแอ ทำให้รายได้ลดลง 11%YoY, 5%QoQ รวมถึงอัตราภาษีจ่ายที่สูงขึ้นด้วย ด้าน GPM ขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 22% ใน 4Q23 จาก 21.1% ใน 4Q22
• คาดอุปสงค์จะเริ่มฟื้นตัวได้ใน 2H24F ผู้บริหารคาดรายได้ปีนี้โต 4-7% หลังเปิดธุรกิจใหม่และมีลูกค้าใหม่เข้ามาคาดอัตรากาไรขั้นต้น (GPM) เพิ่มเป็นอย่างน้อย 24%+ จาก 20.8% ในปี 23
• การสร้างโรงงานที่นิคมฯโรจนะเลื่อนไปเป็นปี 2026 (จากเดิมจะเปิด 2025) เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอ
• ปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 24F-25F ลง 5%/10% สะท้อนรายได้ที่ต่ำว่าคาดการณ์เดิม
• คงคำแนะนำซื้อ แต่ปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 45 บาท (เดิม 53 บาท) อิงกับ P/E ปีนี้ที่ 25 เท่า (Mean 5 ปี -0.5 SD) ทั้งนี้มองว่าผลประกอบการผ่านจุดที่แย่มาแล้วในปี 23 คาดว่ากำไรสุทธิปี 24F-25F จะกลับไปเติบโตได้ 23% และ 8% ตามลำดับ คาดการณ์ DY ปี 24F25F ไว้ที่ 3% และ 4%
นักวิเคราะห์ : จันทร์เพ็ญ ศิริธนารัตนกุล : chanpens@th.dbs.com : Tel. 02 857 7824