PTTGC คำแนะนำถือ
ราคาปิด 35.25 บาท ราคาพื้นฐาน 33 บาท
ค่าการกลั่นค่อยๆดีขึ้น
-กำไรสุทธิ 4Q23 เท่ากับ 5.08 พันล้านบาท (+625%YoY, +256%QoQ) ดีกว่าที่เราและตลาดคาด หนุนโดยกำไรพิเศษ 7.7 พันล้านบาท แต่ผลดำเนินงานหลักยังอ่อนแอ จากมีขาดทุนสต็อก 2.4 พันล้านบาท ค่าการกลั่นลดลงโดย Market GRM อยู่ที่ 9.0 US$/bbl (-7%YoY, -29%QoQ) ส่วนนมาร์จิ้นอะโรเมติกส์เท่ากับ 180 US$/ตัน (+88%YoY, +10%QoQ)
- ประกาศจ่ายปันผล 0.75 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD 23 ก.พ.24
-แนวโน้ม 1Q24F ค่าการกลั่นลดลงสู่ระดับปกติ หลังหมดฤดูหนาว ค่าการกลั่นเดือนก.พ.ดีขึ้นเทียบ MoMโดยเฉพาะเบนซิน เพราะความต้องการใช้ในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นในช่วงเลือกตั้งในเดือนก.พ. และเทศกาล Eid-al-Fitr ในเดือนเม.ย.24 ปริมาณน ้ามันกลั่นในตะวันออกกลางลดลง, สต็อกน้ำมัน middle distillate(Jet & ดีเซล) ในสหรัฐลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี
- มีอุปทานอะโรเมติกส์, PE และ PP ใหม่เข้ามาเพิ่ม ทำให้คาดว่ามาร์จิ้น จะอ่อนแอลง อย่างไรก็ดีคาดอุปสงค์และอุปทาน PE จะทยอยเข้าสู่ระดับสมดุลภายในปี 24 หลังจากผู้ผลิตหลายรายชะลอหรือหยุดผลิตในช่วงที่มาร์จิ้นต่ำกว่า 400 US$/ตัน
- มีความเสี่ยงจากการปรับโครงสร้างพลังงานของรัฐบาล โดยกำลังหารือว่าจะใช้เป็นโครงสร้างราคาเดียว (Singlepool gas) หรือให้โรงไฟฟ้าใช้ก๊าซจากอ่าวไทยที่ราคาต่ำกว่าผลิตไฟฟ้าให้ภาคครัวเรือนก่อน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างแบบไหน ก็ทำให้ต้นทุนก๊าซของ PTTGC สูงขึ้นจากเดิม เราได้ทำการวิเคราะห์ผลกระทบ พบว่า การเพิ่มขึ้นของต้นทุนก๊าซทุกๆ 1 ดอลลาร์/mmbtuจะทำให้ต้นทุนเพิ่ม 5 พันล้านบาท และกำไรสุทธิลดลง 4% บนสมมติฐานปริมาณก๊าซที่800 mmscfd และแบ่งปันผลกำไร/ขาดทุนระหว่าง PTTGC กับ PTT คนละครึ่ง โดยอิงกับ Net back formula
-คงคำแนะนำถือ ให้ราคาพื้นฐาน 33 บาท อิงกับ P/BV ปี67 ที่0.5 เท่า (Mean 5 ปี – 2SD) ทั้งนี้ธุรกิจยังอยู่ในช่วงอุปสงค์ฟื้นช้า มีกำลังการผลิตใหม่เข้ามา และมีความเสี่ยงจากนโยบายพลังงานของรัฐบาล
นักวิเคราะห์ : ดุลเดช บิค : duladethb@th.dbs.com : Tel. 02 857 7833