Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

339

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 23 ม.ค.67 ปิด -13.38 จุด อยู่ที่ 1,356.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 48,669 ลบ.ต่างชาติขาย 2,032 ลบ.สถาบันซื้อ 200 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 506 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิอยู่ที่ 361 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น JMT,TTB,TRUE,CPALL,KCE และมียอดขายสุทธิ AOT,PTTEP,MINT,TISCO,ADVANC มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 5,959 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ JAPAN13,OSP-R,WORK โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 2,932 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Short สุทธิรวม 102,348 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 2,894 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.25%, S&P500 +0.29%, Nasdaq +0.43% ถูกแรงขายจาก 3M -11% และ J&J -1.6% จากคาดการณ์กำไรปี 67 ชะลอตัว ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีปรับขึ้น หลัง Netflix +1.3% นักลงทุนรอรายงานงบของ Intel, IBM ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.28% จากแรงขายกลุ่มสาธารณูปโภค -0.8%, อสังหา ฯ -1.3% และเฮลธ์ แคร์ -0.9% หลังรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน ม.ค. ลดลงอยู่ที่ -16.1 & ธ.ค. -15.0         

 Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA ปรับลดลงจากคาดกำไรปีนี้ของ 3M , J&J อาจต่ำกว่าประมาณการณ์เดิม บ่งชี้ภาคการผลิต & บริโภคของสหรัฐเริ่มได้รับผลกระทบด้านลบจากภาวะดอกเบี้ยสูง แต่ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี หลัง Netflix +8.3% หลังปิดตลาด จากคาดการ์รายได้ปีนี้จะเติบโตระดับ Double Digit หลังจำนวนสมาชิก ธ.ค. เพิ่มขึ้นอยู่ 13.1 ล.ราย ดีกว่าคาดที่ 8.97 ล.ราย นักลงทุนรอรายงานกำไรของ Intel, IBM โดยภาพรวม LSEG คาดกำไร Q4/67 บจ. ใน S&P500 จะขยายตัว +4.5% YoY ประเด็นสำคัญวันพรุ่งนี้ติดตาม US GDP Q4/66 คาด +2.0% & Q3/66 +4.9% QoQ และวันศุกร์ US PCE ธ.ค. คาดทรงตัวอยู่ที่ 2.6% YoY ก่อนการประชุมเฟดวันที่ 31 ม.ค. นี้ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลง จากแรงขายกลุ่มอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น สาธารณูปโภค, อสังหา ระหว่างผลการประชุม ECB ในช่วงค่ำวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดคาด ECB จะลดดอกเบี้ยปีนี้ 1.3% และคาดจะเริ่มลดดอกเบี้ยได้ในช่วง มิ.ย. นี้ ฝั่งเอเชียวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.53% , ฮั่งเส็ง +2.63% รับข่าวรัฐบาลจีนเตรียมออก ม.พยุงตลาดหุ้นด้วยวงเงิน 2.78 แสน ล.ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อหุ้นในตลาดจีนผ่านโครงการ Hong Kong Exchange Link และจะตั้งกองทุนในประเทศมูลค่า 3 แสน ล.หยวนเพื่อลงทุนผ่านทางบริษัท ไชน่า ซีเคียวริตีส์ ไฟแนนท์ ขณะที่การประชุม BOJ วานนี้มีมติคงดอกเบี้ยที่ -0.10% และ ม.YCC ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนสภาพคล่องในตลาดหุ้นญี่ปุ่น สำหรับดัชนี SET วานนี้ -0.98% ปริมาณการซื้อขาย 4.86 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 2.0 พัน ลบ. พอร์ตโบรกขาย 506 ลบ. รายย่อยซื้อ 2.3 พัน ลบ. โดยกลุ่มไฟแนนท์ -1.8% จากแรงขายในกลุ่ม JMT จากความกังวลต่อคุณภาพลูกหนี้ อาจส่งผลให้ยอดติดตามเก็บหนี้ทำได้ยากขึ้น ขณะที่กลุ่มค้าปลีก, อาหาร และขนส่งปรับลดลง หลังมีประเด็นข่าว สศค.คาดการณ์ GDP ไทยปี 66 จะเติบโตเพียง 1.8% และปี 67 คาด +2.8% ซึ่งต่ำกว่าประมาณการณ์ ธปท.ที่ 3.2% ส่วนรายงานงบ Q4/66 ของ SCGP มีกำไร 1,218 ลบ. ใกล้เคียงกับ Consensus โดย +171% YoY แต่ -8% QoQ นักลงทุนรองบ Q4/66 ของ SCC ซึ่ง Consensus คาดกำไรราว 1.43 พัน ลบ. ประเด็นการเมืองบ่ายวันนี้ติดตาม ศาล รธน.วินิจฉัยประเด็นการถือครองหุ้น ITV ของพิธา       

Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET มีโอกาสปรับตัวลงสู่ระดับ 1,340 – 1,350 โดยมีแนวต้าน 1,360 -1,370 ถูกกดดันจากเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดฟื้นตัวช้า แนะนำพักเงินในกลุ่มปลอดภัย & ปันผล เช่น INTUCH, BH, BDMS, TCAP, QH / เก็งกำไรหุ้นมีโมเมนตัมบวก เช่น SJWD,SABINA
  • SPA* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 14.90 บาท) บริษัทรายงานกำไรงวด 9M66 ที่ 192 ล้านบาท พลิกเป็นกำไรจากปีก่อน มีปัจจัยหนุนจากสถานการณ์โควิด 19 ที่คลี่คลายลง สอดคล้องกับการท่องเที่ยวไทยที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังรัฐออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงปลาย 3Q66 และมีโมเมนตัมหนุนผลประกอบการดีต่อเนื่องใน 4Q66-1Q67 ซึ่งได้แรงหนุนมาตรการฟรีวีซาชาวจีนและ high season ท่องเที่ยว สำหรับธุรกิจปัจจุบันมีสาขาทั้งหมดทั้งหมด 69 สาขา พนักงานนวดมากกว่า 1,200 คน แนวโน้ม GPM ดีขึ้นจากการประหยัดต่อขนาด ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 66-67 ที่ 275 ล้านบาท (พลิกกำไร) และ 333 ล้านบาท (+21%YoY) ตามลำดับ
  • AU* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 13.20 บาท) กำไรสุทธิงวด 9M66 อยู่ที่ 131 ลบ.,+59%YoY ฟื้นตัวได้ดีจากพฤติกรรมประชาชนที่กลับมาเป็นปกติ PostCovid-19 ขณะที่ 4Q66 ยังจะมีแรงหนุนตามฤดูกาล ส่วนการดำเนินงานช่วงถัดไป คาดปัจจัยขับเคลื่อนจะมาจาก 1.การขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง คาดปี67 เปิด After You อีก 12 สาขาในไทย และเปิดสาขาแรกในกัมพูชาการเสริมแบรนด์/สินค้าใหม่ๆ เช่น  “ลูกก๊อ” เน้นสินค้าจากผลไม้ไทย ปัจจุบันมีราว6-7 สาขา ปี67 สาขาจะเพิ่มอีกเท่าตัว / “มิกก้า” ที่เน้นเฟรนไชน์คาดจะขยายอีก 70 สาขา จาก 100 สาขา  ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี66 และ 67  ที่ 182 ลบ.(+54%YoY) และ 223 ลบ.(+23%YoY)  

 

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI มี.ค. -$0.39 อยู่ที่ $74.37/บาร์เรล Brent มี.ค. -$0.51 อยู่ที่ $79.55/บาร์เรล หลังรัฐนอร์ทดาโคตาแหล่งผลิตน้ำมันสหรัฐอันดับ 3 สามารถเปิดการผลิตอีกครั้ง ขณะที่ API รายงานสต็อคน้ำมันเบนซินสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น +7.2 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold ก.พ.+$3.60 อยู่ที่ $2,025.80 /ออนซ์ นักลงทุนรอรายงาน US GDP Q4/66 และ US PCE ธ.ค. เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐ

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ
-102.76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   ขายหุ้นไทย -56.89 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโด ฯ -38.29 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นฟิลิปปินส์ -7.48 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านีอ่อนค่าอยู่ที่ 35.73 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.14 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -45 จุด อยู่ที่ 1,473

(+) BitCoin เช้านี้ +0.34% อยู่ที่ 39,974 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

31 ม.ค.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4  ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์

สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม   

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,ดัชนี

ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

24 ม.ค.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ม.ค.) 

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ม.ค.) 

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

25 ม.ค.     EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป 

                EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ม.ค.)

US ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (เดือนต่อเดือน) (ธ.ค.)

US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 4) 

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

US ยอดขายบ้านใหม่ (ธ.ค.)

26 ม.ค.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index (ธ.ค.)

                 

 

Theme Strategy

Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตัวรับความหวังเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น ลุ้น Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย 

(1)กลุ่มการอุปโภคบริโภค  ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT, HMPRO, ILM, CPN, CRC, MC, KAMART, CBG, ICHI, RBF 

(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัวจากฐานต่ำปี66  AAI, ITC, TU, COCOCO, SAPPE, DELTA, KCE, EPG, NYT, SJWD 

(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT, CENTEL, ERW, SPA, SISB, WPH 

(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC, TIDLOR 

(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ เริ่มลดลง BGRIM, GPSC 

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA, SUSCO

 

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio January 2024: MENA*, TU*, ITC*, RBF*, CBG*

 

 

 

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หุ้นขึ้นยาก By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองตลาดหุ้นไทย ดูท่า แลทาง น่าจะขึ้นยาก หุ้นขึ้นยาก ถ้าใช้เวลานาน คงไม่พ้นทางลง....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้