Kasikornbank (KBANK TB)
คาดสินเชื่อเติบโตช้า ปันผลเพิ่มขึ้น

คาดสินเชื่อเติบโตช้า ขณะที่อัตราการจ่ายเงินปันผลสูงขึ้นในปี 67
คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย 150 บาท (P/BV ปี 67 ที่ 0.6 เท่า, ROE 8.4%) เรามองเป็นโอกาสในการซื้อเนื่องจาก (1) เราคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะดีขึ้นในปี 67 และ (2) หุ้น KBANK เคลื่อนไหวต่ำกว่าดัชนี SETBANK อยู่ 7% ในปี 66 ทั้งนี้ KBANK ยังคงเป็นหุ้นแนะนำในกลุ่มธนาคารของเรา โดยเราประเมินว่าธนาคารจะชะลอการเติบโตของสินเชื่อและมุ่งเน้นคุณภาพสินเชื่อที่ดีเพื่อลดต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit Cost) ในปี 67 นอกจากนี้ เรามองว่ามีอัพไซด์จากอัตราการจ่ายเงินปันผลเนื่องจากอัตราส่วนเงินกองทุนที่สูงและการเติบโตของสินเชื่อที่ต่ำ ความเสี่ยงหลักคือคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอลง

กำไรและคุณภาพสินทรัพย์ไตรมาส 4/66 ต่ำกว่าคาด
กำไรสุทธิไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 9.4 พัน ลบ.เพิ่มขึ้น 194% YoY จากฐานต่ำ แต่ลดลง 17% QoQ จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX ) ที่สูงขึ้น โดยผลประกอบการต่ำกว่าตลาดคาด 9% ขณะที่กำไรปี 66 เพิ่มขึ้น 19% YoY เป็น 4.24 หมื่น ลบ. KBANK ตั้งสำรองไว้ที่ 1.36 หมื่น ลบ. หรือคิดเป็น credit cost 220bp ส่งผลให้ปี 66 อยู่ที่ 208bp เทียบกับ 211bp ในปี 65 ขณะที่อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 11bp QoQ เป็น 3.78% สินเชื่อเพิ่มขึ้น 2% QoQ และทรงตัว YoY ส่วน NIM เพิ่มขึ้น 7bps QoQ เป็น 3.88% ใน 4Q66 รายได้ค่าธรรมเนียมปี 66 ยังคงอ่อนแอเนื่องจากค่าธรรมเนียมนายหน้าและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อลดลง ทว่า OPEX เพิ่มขึ้น 16% YoY จากค่าใช้จ่ายด้านไอทีและค่าใช้จ่ายโบนัสเพียงครั้งเดียว หากไม่รวมรายการนี้ ต้นทุนต่อรายได้ปกติจะลดลง 1ppt เป็น 47% ในไตรมาส 4/66

คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า
ผู้บริหารเผยว่าสินเชื่อและ NPL ในระยะที่ 2 ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม SMEs และลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ โดยในบรรดากลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ CFO มีความกังวลในภาคการก่อสร้าง เหล็ก และห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ ผบห. เผยอีกว่าตอนนี้ธนาคารได้กันสำรองไว้บางส่วนและจัดประเภทลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ในภาคก่อสร้างเป็นสินเชื่อระยะที่ 2 ขณะที่สินเชื่อปรับโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จเพิ่มขึ้น 12% QoQ เป็น 1.86 แสน ลบ. หรือ 7.4% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 4/66 เทียบกับ 6.8% ในไตรมาส 3/66 เนื่องจากลูกค้า SME และลูกค้ารายย่อยบางรายยังต้องการการสนับสนุนจากธนาคารมากขึ้น ทั้งนี้ ธนาคารได้ขายและตัดหนี้ NPL จำนวน 9.9 พัน ลบ.ในไตรมาส 4/66 ทำให้ยอดขาย NPL เพิ่มขึ้นและตัดหนี้สูญเป็น 9.25 หมื่น ลบ.ในปี 66 เทียบกับ 1.31 แสน ลบ. ในปี 65

เตรียมประกาศเป้าหมายทางการเงินสำหรับปี 67 ในวันที่ 26 ม.ค
KBANK จะประกาศเป้าหมายทางการเงินสำหรับปี 67 พร้อมประชุมกับ CEO ในวันที่ 26 ม.ค. การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในระยะสั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเงินที่สำคัญ ในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา CFO ย้ำว่าต้นทุนด้านเครดิตจะลดลง YoY ในปี 67 จาก 2.08% ในปี 66 สมมติฐาน credit cost ของเราไม่เปลี่ยนแปลงที่ 1.9%/1.7% ในปี 67/68 ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจประกันภัยน่าจะดีขึ้น YoY เนื่องจากรายได้จากการลงทุนที่สูงขึ้นและค่าใช้จ่ายประกันภัยที่ลดลงในปี 67

Jesada Techahusdin, CFA
jesada.t@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1395