Kasikornbank (KBANK TB)
ต้นทุนสำรองสูงจากการเคลียร์งบดุล

ธนาคารเร่งเคลียร์งบดุล คงแนะนำ ถือ
เราคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 140 บาท (P/BV ปี 66 ที่ 0.6 เท่า, ROE 8.4%) แม้ว่าราคาหุ้นจะขึ้นน้อยกว่าคู่แข่งและดูไม่แพง แต่คุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอส่งผลให้ต้นทุนสินเชื่อยังคงอยู่ในระดับสูงในครึ่งปีหลัง 66 ต่อเนื่องไปปี 67 เราเชื่อว่า ROE ไม่น่าจะถึงเป้า 10-12% ใน 3-5 ปีเนื่องจากความสามารถในการทำกำไรและอัตราการจ่ายเงินปันผลต่ำ เราชอบ BBL (ราคา 165.5 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 200) และ KTB (ราคา 19.2 บาท ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 22 บาท) มากกว่า KBANK เนื่องจากแนวโน้มกำไรและคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีกว่า

สินเชื่อและค่าธรรมเนียมที่ชะลอตัวชดเชยด้วย NIM ที่เพิ่มขึ้น
นางมาริสา วัตถพาณิชย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ได้เข้าร่วมงาน Maybank Digital Banking & Fintech Day เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเรามีมุมมองเป็นกลางต่อการประชุม โดย ผบห. เผยว่าการเติบโตของสินเชื่อมีแนวโน้มที่จะจบต่ำกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ 5-7% เนื่องจากสินเชื่อ SME และสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันชะลอตัว ขณะที่การบริหาร NPL ก็เป็นไปอย่างช้าๆ ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งใน 2H66 แต่มีแนวโน้มหดตัว YoY ในปีนี้ มองในแง่บวก การปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นน่าจะช่วยหนุนส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ให้เพิ่มขึ้น HoH ต่อไปใน 2H66 โดยธนาคารมองว่าการแข่งขันด้านเงินฝากอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากสินเชื่อเติบโตช้าและระบบธนาคารยังมีสภาพคล่องที่ดี

คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นแบบช้าๆ ส่งผลต้นทุนสินเชื่อสูง
KBANK ประเมินต้นทุนสินเชื่อปี 66 น่าจะอยู่ที่ 200-210bps เนื่องจากกำลังเคลียร์งบดุลอยู่ ผนวกกับ NPL ของบริษัทขนาดใหญ่หนึ่งราย หากไม่รวม NPL ขององค์กรขนาดใหญ่รายนี้ ต้นทุนสินเชื่อมีแนวโน้มที่จะอยู่ภายในเป้าหมายที่ 175-200bps ในปีนี้ ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะลดลง YoY ในปี 67 และแตะระดับปกติที่ 140-160bps ในปี 68 ขณะที่ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการบรรเทาหนี้มีมากกว่าคาดจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อบัตรเครดิตบางประเภทที่อาจกลายเป็น NPLs เนื่องจากอัตราการชำระขั้นต่ำจะเพิ่มขึ้นเป็น 8% ในเดือน ม.ค.67 จาก 5% ในปี 66 เราคาดต้นทุนสินเชื่อจะอยู่ที่ 2.1%/1.9%/1.7% ในปี 66/67/68 เนื่องจากธนาคารจำเป็นต้องเพิ่มการตั้งสำรอง

ตั้งเป้า ROE โตในระดับเลขสองหลักใน 3-5 ปี
KBANK ตั้งเป้าเพิ่ม ROE จาก 8.65% ในครึ่งแรกของปี 66 เป็น 10% ภายใน 3-5 ปี โดยจะมุ่งเน้นที่ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการลดส่วนของผู้ถือหุ้นผ่านการบริหารเงินทุน โดยธนาคารมีแผนมุ่งเน้นสินเชื่อธุรกิจ/รายย่อย และระมัดระวังเพิ่มขึ้นในสินเชื่อ SME แนวโน้มระยะยาว สัดส่วนสินเชื่อน่าจะสมดุลโดยมีสัดส่วนเท่ากันระหว่างสามกลุ่ม ในด้านรายได้ค่าธรรมเนียม ธนาคารตั้งเป้าที่จะเพิ่มค่าธรรมเนียมจากการบริหารความมั่งคั่งและบัตรเครดิต โดยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาลูกค้า

Jesada Techahusdin, CFA
jesada.t@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1395