Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : KBANK ปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ” ราคาเป้าหมายลดลงเป็น 140 บาท

533

 

Kasikornbank (KBANK TB)
คุณภาพสินทรัพย์ฟื้นตัวช้ากว่าคาด

*คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอ ใช้เวลาเคลียร์งบดุลนานขึ้น
เราปรับลดคำแนะนำ KBANK จาก "ซื้อ" เป็น “ถือ” โดยมีราคาเป้าหมายลดลงเป็น 140 บาท (P/BV ปี 66 ที่ 0.6 เท่า, ROE 8.4%) หลังปรับลดประมาณการกำไรเพื่อสะท้อน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (opex) และต้นทุนสินเชื่อ (credit cost) ที่สูงขึ้น แม้ว่าราคาหุ้นจะยังขึ้นน้อยกว่าคู่แข่งและ valuation ถือว่าไม่แพง แต่ปัญหาด้านคุณภาพสินทรัพย์นั้นแย่กว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้การเคลียร์งบดุลยืดเยื้อออกไป ดังนั้น ต้นทุนสินเชื่อจะยังคงสูงในครึ่งหลังของปี 2566 และปี 2567 เราชอบ BBL (CP 164.5 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 200 บาท) และ KTB (CP 20.2, ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 22.0 บาท) มากกว่า เนื่องจากแนวโน้มกำไรและคุณภาพสินทรัพย์ดีกว่า ทั้งยังมี NPL coverage สูงด้วย

 

*ต้นทุนสินเชื่อยังคงสูงในปี 2566-2567
เรามีมุมมองเชิงลบจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดย CFO ระบุว่าต้นทุนสินเชื่อน่าจะอยู่ในระดับสูงที่ 200-210bps ในปี 2566 และลดลงสู่ระดับปกติที่ 140-160bps ในปี 2568 ซึ่งนานกว่าที่คาดไว้แต่เดิมถึง 1 ปี โดยมีสาเหตุมาจาก (1) NPL ในพอร์ตสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันเพิ่มขึ้นจากอัตราการชำระขั้นต่ำที่สูงขึ้นและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัว (2) ตั้งสำรองเพิ่มขึ้นหลังสินเชื่อที่ให้แก่ STARK กลายเป็น NPL ดังนั้น กว่าจะเคลียร์งบดุลได้ก็น่าจะเป็น 1H67 เทียบกับเป้าก่อนหน้าที่สิ้นปี 2566

 

*มี NIM ตัวเดียวที่ยังดี
เรามองว่า NIM ที่เพิ่มขึ้นจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและการแข่งขันด้านเงินฝากที่ต่ำเป็นปัจจัยบวกเดียวที่จะหนุนการเติบโตของกำไรในปีนี้ ส่วนรายการอื่นๆ ยังคงอ่อนแอเนื่องจากสินเชื่อเติบโตต่ำ (อนุมัติสินเชื่อเข้มงวดขึ้นและการขายและตัดจำหน่าย NPL) OPEX สูงขึ้น (จากมาตรการลดค่าครองชีพ) และรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิหดตัว (ค่าธรรมเนียมจากตลาดทุนลดลง) เราประเมินว่าผลการดำเนินงานใน 2H66 จะใกล้เคียงกับ 1H66


*หั่นกำไรปี 66-67 จาก opex และต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 66-67 ลง 3-6% เพื่อสะท้อนต้นทุนสินเชื่อและ opex ที่สูงขึ้น เราเพิ่มประมาณการ NIM ขึ้น 9bps (จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น) และเพิ่มคาดการณ์ต้นทุนสินเชื่อเป็น 2.1%/1.9% จาก 2.0%/1.8% ในปี 66/67 เพื่อสะท้อนเป้าหมายใหม่ของธนาคารจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่อ่อนแอและ NPL จากสินเชื่อ STARK นอกจากนี้ เรายังคาดว่า opex จะเพิ่มขึ้น สะท้อนค่าใช้จ่ายพนักงานแบบจ่ายครั้งเดียวจากมาตรการลดค่าครองชีพในปีนี้

Jesada Techahusdin, CFA
jesada.t@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1395

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

หุ้นขึ้นยาก By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองตลาดหุ้นไทย ดูท่า แลทาง น่าจะขึ้นยาก หุ้นขึ้นยาก ถ้าใช้เวลานาน คงไม่พ้นทางลง....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้