สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(10 มกราคม 2567)------- นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) CMO เปิดเผยว่าตามที่บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ได้ออกสารสนเทศเลขที่ 0374-2023 เรื่อง แจ้งข้อมูลคดีความหรือข้อพิพาททางกฎหมายที่สำคัญ ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าของคดีความหรือข้อพิพาททางกฎหมายที่สำคัญของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ดังนี้
1. คดีฟ้องร้องกับ Advance Opportunities Fund (AO Fund) และ Advance Opportunities Fund 1 (AO Fund1) โดย AO Fund และ AO Fund 1 ได้ยื่นคำร้องต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการประเทศสิงคโปร์ อ้างว่าบริษัทฯ ผิดสัญญาการจ่ายชำระค่าธรรมเนียมในการออกหุ้นกู้แปลงสภาพ โดยให้บริษัทฯ จ่ายชำระค่าธรรมเนียมในการออกหุ้นกู้จำนวน7.5 ล้านบาท ซึ่งคิดจากค่าธรรมเนียมร้อยละ 5 ของจำนวนเงิน 150,000,000 บาท และให้จ่ายชำระคืนหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวน 50 ล้านบาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปีทั้งนี้บริษัทฯ ได้รับเงินจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพชุดที่ 1 จำนวน 50 ล้านบาท จากวงเงินทั้งหมดจำนวน 150 ล้านบาท ดังนั้นค่าธรรมเนียมร้อยละ 5 จึงควรเรียกชำระเพียง 2.5 ล้านบาท บริษัทฯ จึงได้แต่งตั้งทนายยื่นคำให้การคัดค้านต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการประเทศสิงคโปร์เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 โดยได้ยกข้อต่อสู้ในคำให้การว่าผู้ร้องไม่มีสิทธิเรียกค่าธรรมเนียมทั้งจำนวนจากบริษัทฯ
ความคืบหน้า
เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 สถาบันอนุญาโตตุลาการประเทศสิงคโปร์ได้มีคำตัดสินสรุปว่า บริษัทฯ จะต้องจ่ายเงินต้นของหุ้นกู้ จำนวน 50,000,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยค้างชำระ โดยแบ่งออกเป็นดังนี้
- บริษัทฯ จะต้องชำระคืนเงินต้นของหุ้นกู้ 20,000,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยค้างชำระ ร้อยละ 1.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ออกหุ้นกู้ ถึงวันที่ 11 เมษายน 2566 ที่บริษัทจะต้องชำระให้กับ AOF
- บริษัทฯ จะต้องชำระคืนเงินต้นของหุ้นกู้ 30,000,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยค้างชำระ ร้อยละ 1.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ออกหุ้นกู้ ถึงวันที่ 11 เมษายน 2566 ที่บริษัทจะต้องชำระให้กับ AOF I
- บริษัทฯ จะต้องชำระดอกเบี้ยผิดนัดชำระ ร้อยละ 5 ต่อปี จากมูลค่าเงินต้น 20,000,000 บาท โดยเริ่มคำนวณตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 ซึ่งถือเป็นวันผิดนัด จนถึงวันที่ AOF ได้รับเงิน 20,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดชำระจากบริษัทฯ
- บริษัทฯ จะต้องชำระดอกเบี้ยผิดนัดชำระ ร้อยละ 5 ต่อปี จากมูลค่าเงินต้น 30,000,000 บาท โดยเริ่มคำนวณตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 ซึ่งถือเป็นวันผิดนัด จนถึงวันที่ AOF ได้รับเงิน 30,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยผิดนัดชำระจากบริษัทฯ
- บริษัทฯ จะต้องชำระค่าธรรมเนียม (Administrative Fee) จำนวน 7,500,000 บาท ให้กับ ACP
- ในส่วนที่บริษัทฯ ฟ้องแย้งและเรียกร้องไปนั้น สถาบันอนุญาโตตุลาการมีคำตัดสินให้ยกคำขอทั้งหมด
ทั้งนี้ ที่ปรึกษากฎหมายภายนอกของบริษัท สำนักกฎหมายธรรมนิติ จำกัด ได้ให้ความเห็นที่เกี่ยวกับข้อกฎหมายในกรณีนี้ว่า “ในกรณีอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาดให้บริษัทฯ ต้องชำระเงินให้แก่กองทุน AOF และ AOF 1 แล้วกองทุน AOF และ AOF 1 จำต้องยื่นคำร้องขอให้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่างประเทศดังกล่าวต่อศาลไทยเพื่อมีคำพิพากษา จึงจะบังคับให้บริษัทฯ ต้องชำระเงินตามคำพิพากษา” ดังนั้นบริษัทฯ จึงยังไม่ต้องชำระคืนเงินตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการประเทศสิงค์โปร์ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567
2. คดีที่บริษัทคู่ค้าแห่งหนึ่งได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง โดยอ้างว่าบริษัทย่อยแห่งผิดสัญญาจ้างทำของ จำนวนเงิน 0.53 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี
ความคืบหน้า
ปัจจุบันผลของคดีฟ้องร้องดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุดและศาลนัดสืบพยานโจทก์และจำเลย ในวันที่ 9 สิงหาคม 2567 โดยบริษัทฯ จะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ทันทีเมื่อมีความคืบหน้าต่อไป
3. คดีที่บริษัทคู่ค้าแห่งหนึ่งได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง โดยอ้างว่าบริษัทย่อยแห่งหนึ่งผิดสัญญาจ้างบริการพื้นที่ เป็นจำนวนเงิน 2.07 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปี
ความคืบหน้า
ปัจจุบันผลของคดีฟ้องร้องดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุดและศาลนัดสืบพยาน ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 โดยบริษัทฯ จะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ทันทีเมื่อมีความคืบหน้าต่อไป
ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม บริษัทฯ จะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ทันทีเมื่อมีความคืบหน้าต่อไป