สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 เมษายน 2567)-------ฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า อันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารในประเทศไทย ที่เป็นธนาคารลูกของธนาคารจีน ไม่น่าจะได้รับผลกระทบในทันทีจากการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารรัฐขนาดใหญ่ 6 แห่งของจีน เป็น "แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ" ซึ่งรวมไปถึง Bank of China ('A'/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ) และ Industrial and Commercial Bank of China Limited ('A'/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ)

ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AAA(tha)'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ โดยอันดับเครดิตของธนาคารทั้ง 2 แห่งพิจารณาจากความคาดหวังของฟิทช์ว่าผู้ถือหุ้นจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคาร โดยอันดับเครดิตสากลระยะยาวของธนาคารแม่ของ BOCT และ ICBCT ปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงกว่าอันดับเครดิตสากลของประเทศไทย (BBB+/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) อยู่ 2 อันดับ ซึ่งนั้นหมายว่าความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ของธนาคารลูกในประเทศไทยยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศไทย ฟิทช์คาดว่าธนาคารลูกทั้งสองแห่งจะยังคงได้รับการสนับสนุนจากธนาคารแม่ในกรณีที่มีความจำเป็น แม้ว่าธนาคารแม่ของทั้ง BOCT และ ICBCT จะรับประโยชน์จากการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน

สำหรับธนาคารลูกของธนาคารต่างประเทศรายอื่นในประเทศไทย ซึ่งธนาคารแม่มีอันดับเครดิตสากลอยู่ในระดับที่สูงกว่าอันดับเครดิตสากลของประเทศไทย และฟิทช์มีมุมมองของโอกาสในการให้การสนับสนุนแก่ธนาคารลูกในระดับที่ใกล้เคียงกันนั้น ก็ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศที่ 'AAA(tha)' ด้วยเช่นกัน

สำหรับปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคตของธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) สามารถดูได้จาก 'Fitch Affirms Bank of China (Thai) at 'AAA(tha)'; Outlook Stable' และ ' Fitch Affirms ICBC Thai at 'AAA(tha)'; Outlook Stable' ตามลำดับ