สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(12 ธันวาคม 2566)------นางกอบบุญ ศรีชัย เลขานุการบริษัท บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จํากัด (มหาชน) (CPF) เปิดเผยว่า ขอแจ้งให้ทราบว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อ วันที่ 12 ธันวาคม 2566 มีมติอนุมัติให้ CP Food Investment Limited (“CP Food”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CPF ขายเงิน ลงทุนในบริษัทที่ดําเนินธุรกิจไก่ครบวงจรในประเทศจีนจํานวน 4 บริษัท ให้กับบริษัทย่อยของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จํากัด (“CPG”) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ CPF

ทั้งนี้ รายการข้างต้นมีมูลค่ารายการรวม 432 ล้านเรนมินบี หรือ 2,152 ล้านบาท เท่ากับร้อยละ 1.35 ของ มูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของ CPF และบริษัทย่อย ตามงบการเงินรวมล่าสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 ที่ผู้สอบบัญชี ได้สอบทานแล้ว โดย CPF ไม่มีการเข้าทํารายการอื่นใดกับ CPG และผู้ที่เกี่ยวข้องของ CPG ในระหว่าง 6 เดือนที่ผ่านมา (นับตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2566 ถึงวันที่ 11 ธันวาคม 2566)
โดยคาดว่าการเข้าทํารายการจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2566

บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จํากัด (“CPG”) เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ CPF และ Chia Tai CP

CP Food ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่ C.P. Pokphand Co., Ltd. (“CPP) ถือหุ้นทั้งหมด จะขายเงินลงทุนในบริษัทที่ ดําเนินธุรกิจไก่ครบวงจรในประเทศจีนจํานวน 4 บริษัท (“บริษัทเป้าหมาย”) ให้กับ Chia Tai CP โดยมีมูลค่ารายการ รวม 432 ล้านเรนมินบี หรือ 2,152 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าเงินลงทุนรวม 4 เรนมินบี และหนี้เงินกู้ยืมที่บริษัท เป้าหมายมีอยู่กับกลุ่ม CPP ขณะเข้าทํารายการจํานวน 432 ล้านเรนมินบิ (ซึ่งจะมีการชําระคืนเมื่อเข้าทํารายการแล้ว)

ทั้งนี้ บริษัทเป้าหมายประกอบด้วย

1) C.P. Food (Hengshui) Co., Ltd.

2) C.P. Food (Nantong) Co., Ltd.

3) C.P. Food (Kaifeng) Co., Ltd.

4) C.P. Food (Zhanjiang) Co., Ltd.

บริษัทเป้าหมายเป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศจีนเพื่อดําเนินธุรกิจไก่ครบวงจร ธุรกิจหลักประกอบด้วย การเพาะฟักไข่ การจัดจําหน่ายอาหารสัตว์ การค้าผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหาร

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (ซึ่งไม่รวมกรรมการที่มีส่วนได้เสีย) ได้พิจารณาการเข้าทํารายการที่เกี่ยวโยงกันดังกล่าว ข้างต้นแล้วเห็นว่า การเข้าทํารายการดังกล่าวมีความสมเหตุสมผลและเป็นประโยชน์ต่อ CPF โดยภายหลังการเข้าทํา รายการ สัดส่วนการถือหุ้นของ CPP ในบริษัทเป้าหมายจะลดลงจากร้อยละ 100.0 เป็นร้อยละ 0.0 จนทําให้สิ้นสภาพ การเป็นบริษัทย่อยของ CPF ซึ่งจะส่งผลให้สถานะทางการเงินและผลการดําเนินงานของ CPF ดีขึ้น

เนื่องจาก 1. ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนของบริษัทเป้าหมาย 2. CPP ได้รับชําระคืนเงินกู้ยืมจากบริษัทเป้าหมาย และ3. ระดับหนี้สินลดลง ทําให้อัตราส่วนหนี้สินต่อผู้ถือหุ้นลดลง