"THAIESG Plays"
KCS Daily Strategy :  คาดตลาด "ฟื้นตัว" ต้าน 1400/1406จุด รับ 1378/1373จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัว รอรายเงินเฟ้อ CPI ต.ค. 23 ตลาดคาด +3.3%y-y ชะลอลงจาก prev. 3.7%y-y เรามองเป็นไปได้จากราคาน้ำมัน ต.ค. (vs สิ้น ก.ย. 23) ปรับลง -11% ขณะที่ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจการบริโภคแผ่วต่อเนื่อง เรายังคงมุมมองดอกเบี้ยปลายทาง ส่วนภายในดูเป็นบวก ท่องเที่ยวฟื้นเร่งมาก คาดนักท่องเที่ยว พ.ย. ลุ้นแตะ 2.8 ล้านคน เติบโต > 20%m-m วันนี้ติดตามการประชุม FETCO กับ AIMC (สมาคม บลจ.) คาดจะมีการออก ESG Fund+ยกระดับควบคุม Naked Short + SET อยู่ในโซนลงทุน PBV ใกล้ Avg. – 2 S.D.มองนำมาสู่เม็ดเงินใหม่หนุนตลาดฟื้นตัว มองหุ้นนำกลุ่ม THAIESG Index และถูก Short สูง อาทิ CPALL, GULF, CRC, GPSC, PTTGC, IVL, SCGP, OR, CBG, HMPRO ผสาน กลุ่มท่องเที่ยว หุ้นแนะนำ CPALL, GULF, GPSC

 

Daily outlook : "ฟื้นตัว" ต้าน 1400/1406จุด รับ 1378/1373จุด

What happened around the world ?

• (*/+) US Stocks :   Dow jones 0.16%, S&P500 -0.08% Nasdaq -0.22% โดย Sector ในดัชนี S&P500 กลุ่มปรับขึ้นแรงหลักๆ คือ กลุ่ม Energy, Health Care, Consumer Staples  ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ Utilities, Real Estate

• (*/-) China Econ  ยอดเงินกู้จีน(New loan) สกุลหยวนเดือน ต.ค. 7.38 แสนล้านหยวน ดีกว่าตลาดคาด 6.65 แสนล้านหยวน แต่ชะลอจากเดือน ก.ย.  2.31 ล้านหยวน ยังคงมุมมองเดิมคือเศรษฐกิจจีนผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และหาก คือ 1) ลุ้นจีนการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่คาดหวังการประชุม Financial Policy Commission ช่วง พ.ย. คาดรัฐบาลจีนจะมีมาตรการกระตุ้นเพิ่ม และ 2)การฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ มีนัยฯ)มองบวกต่อหุ้นโยงจีน  SCGP, PTTGC, IVL, KCE, HANA

• (*/+) US Earning 3Q23  : หุ้นในดัชนี S&P500 รายงานกำไร 3Q23 แล้ว  460 บริษัทจากทั้งหมด 500 บริษัท กำไรรวม 2.71%y-y และดีกว่าตลาดคาด 7.6%  เมื่อวานก่อนตลาดปิดบริษัทรายงาน กำไรดีกว่าคาด 1 บริษัทจาก 3 บริษัท(Tyson Food ดีกว่าคาด 27%)  ใกล้เคียงคาด 2 บริษัท (Henry Schein , Johnson Control)

• (*/+) APEC Meeting : ตลอดสัปดาห์นี้จะมีการประชุม ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก(APEC) ตลาดให้น้ำหนัก 15 พ.ย. การพบปะระหว่างประธานาธิบดีไบเดน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจีน (ประเด็นที่หารือกันในประเด็นการค้าทวิภาคี ฯลฯ มีโอกาสออกมาในโทนบวก  หากออกมาในโทนผ่อนคลายมองเป็นจิตวิทยาต่อการค้าโลกและหุ้น Global Play

•(*/+) Monitor  :   14 พ.ย. เงินเฟ้อ CPI ต.ค. 23 ตลาดคาด +3.3%y-y vs prev+3.7%y-y เงินเฟ้อพื้นฐานตลาดคาด +0.3%m-m vs prev. +0.3%m-m(Vs. Top Rank คาด 0.4%)  KCS เชื่อว่ามีโอกาสชะลอตามราคาน้ำมันสิ้น ต.ค. (vs สิ้น ก.ย.23) ปรับลง -11% และ พ.ย. MTD ลดลงอีก -4.6% ยังคงมองวงจรดอกเบี้ยจะสิ้นสุดระยะถัดไป ฝั่งจีน 15 พ.ย. 1) ยอดผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ตลาดคาด +4.6%y-y vs prev. +4.5%y-y 2) ยอดค้าปลีก ตลาดคาด +7%y-y vs prev. +5.5%y-y 3) ยอดลงทุนในสินทรัพย์คงทน ตลาดคาด +3.1%y-y ytd ทรงจาก prev. และ 4) การลงทุนภาคอสังหา คาด -9.1% ทรงจาก prev.

•  (*) US Bond & Dollar : แนวโน้มระยะสั้นปรับขึ้นเล็กน้อย  โดยอายุ 10 ปี ปรับขึ้น +2 bps ปิดที่ 4.63% ส่วน  2 ปี ปรับขึ้น +2 bps อยู่ที่ 5.02% โทนโดยรวมทิศทาง Bond yield สหรัฐเป็นขาลงระยะสั้น   มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นกลุ่ม High Growth อาทิ BBIK,BE8 กลุ่มการเงินในทางตรงข้ามเป็นจิตวิทยาลบต่อ หุ้นกลุ่มธนาคาร  กลุ่มประกันชีวิต ส่วน Dollar Index แกว่งตัวบริเวณ  105.5+/- จุด

(•/+) Oil : น้ำมันดิบ Brent +1.51%  ปิดที่ US$ 82.66/barrel. น้ำมันดิบ West Texas  +1.41% ปิดที่ US$ 78.26/barrel แรงหนุนจาก 1.) OPEC Monthly เมื่อวาน ออกรานงานคาดการณ์ Demand การบริโภคน้ำมันโลกปี 2023 จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.46 ล้านบาร์เรล/วัน (จากคาดก่อนหน้าคาดที่ 2.44 ล้านบาร์เรล/วัน)  2.)แรงหนุนจากคาด Cut Supply หลังประเทศอิรักสนับสนุนให้กลุ่ม OPEC+ ปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีกก่อนการประชุมในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า วันที่ 26 พ.ย. มองเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นพลังงาน อาทิ PTT, PTTEP

 

 

What happened in Thailand?

•  (*/-) SET: SET ยังแกว่งตัวผันผวนก่อนปิดลบ -0.18% กลุ่มหนุน คือ กลุ่มชิ้นส่วน (DELTA, KCE) ตอบรับจิตวิทยาบวกตลาดกลับมาเชื่อภาพวงจรดอกเบี้ยสิ้นสุด กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, INTUCH) มองหนุนจาก กสทช. อนุมัติให้ควบรวมกับ 3BB ภายใต้เงื่อนไข กลุ่มถ่วง คือ กลุ่มการแพทย์  (BDMS, CHG) จิตวิทยาลบกรณี CHG ผู้บริหารถูก ก.ลต.กล่าวโทษ กลุ่มธนาคาร (BBL, KTB) ตลาดเริ่มลดน้ำหนักธนาคารที่ Outperform ช่วงก่อนหน้า

•  (*/-) Flow: เงินทุนต่างชาติไหลออก ขายหุ้น -1.7 ล้านเหรียญฯ ขายพันธบัตร -132.5 ล้านเหรียญฯ TFEX เปิด Net Long 13,905 สัญญา เงินบาททรงตัว 35.97+/- บาท

• (+) TH Tourism: ยอดผู้ใช้บริการสนามบินขาออกไปต่างประเทศ AOT ซึ่งเป็นรายงานชี้นำนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1-11 พ.ย. 23 อยู่ที่ 82% ของช่วงก่อน COVID เร่งขึ้นอย่างมากจาก ต.ค. 23 และ 1-4 พ.ย. ที่อยู่ 74.6% และ 79.1% บ่งชี้นักท่องเที่ยว พ.ย. 23 ที่ 2.78 ล้านคน บวกเกิน 20%m-m หนุนคาดนักท่องเที่ยว 11M23 สูง 25 +/- ล้านคน ผสาน นักท่องเที่ยว ธ.ค. เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก พ.ย. เฉลี่ย +20% (อิงค่าเฉลี่ยปี 2016-19) นักท่องเที่ยวปี 2023 จะสูงใกล้ตลาดคาดที่ 28-30 ล้านคน และมีโมเมนตัมหนุนปี 2024 ที่มีโอกาสสูงกว่าตลาดคาด 35-37 ล้านคน มองบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว เน้น AOT, ERW, CPALL, CPAXT

• (*/+) TH Rating: Fitch Rating ล่าสุดประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของของประเทศไทย(Sovereign Credit Rating)ที่ BBB+ และคงมุมมอง(Outlook)ณ ระดับมีเสถียรภาพ(Stable Outlook) ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่ Fitch ติดตามเพื่อวิเคราะห์ Credit Rating ต่อ คือ  ความสามารถในการบริหารจัดการ General Government Debt to GDP ให้อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ KCS มองบวกต่อมุมมอง Fitch Rating ล่าสุดคง Credit Rating ประเทศไทยลดความกังวลการถูกปรับลด Rating ลงจากมุมมองปัจจัยพื้นฐานของไทยที่ยังแข็งแกร่ง  มองเป็นจิตวิทยาบวกจากข่าวดังกล่าวต่อ SET

• (*/+) FETCO: คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกฯ เผยการประชุมหารือเรื่อง สภาวะตลาดหุ้น ณ .ทำเนียบรัฐบาล และจะมีบทสรุปพรุ่งนี้หลักๆคือ

    ปลัดคลังหารือ FETCO - AIMC  วันพรุ่งนี้คาดจะได้ข้อสรุปเกณฑ์ตั้ง ESG Fund(ไม่ใช่กองทุนพยุงหุ้น แต่จะเป็นกองทุนคล้าย LTF)
    เลขา ก.ล.ต.-ตลท.เตรียมยกระดับมาตรการคุม Naked Short Sell ให้เข้มข้นขึ้น

KCS ประเมินกรณี ESG Fund ได้รับการอนุมัติ จะเป็นภาพบวกต่อ SET ในระยะกลางถึงยาว จาก "Long Term Fund" หุ้นภายในประเทศที่จะสูงระดับ 65,900ล้านบาท(เฉลี่ย 5ปีหลังสุดของ  LTF) คาดหุ้นที่อยู่ในกลุ่ม THAIESG Index จะน่าสนใจขึ้น และมีโอกาสถูก Active Fund ในประเทศดึงสถานะกลับก่อน เน้นในกลุ่ม 1)          ราคาลงแรงกว่า THAIESG Index -14%YTD  2) ถูก Short sales บนกระดานหลัก+NVDR ตั้งแต่จุดสูง 30 ส.ค. 23 – ปัจจุบัน  มีสัดส่วน % Short Sales Volume(+ NVDR) มากกว่า 8 %ของมูลค่าซื้อขายรายตัว หุ้นในกลุ่มดังกล่าวที่น่าจะเป็นเป้าหมายกองทุน ได้แก่ CPALL, GULF, CRC, GPSC, PTTGC, IVL, SCGP, OR, CBG, HMPRO

•              (*/+) MSCI: 14 พ.ย. ติดตามการประกาศ MSCI Rebalance เราคาดหุ้นไทยเข้าสู่ดัชนีรอบนี้ คือ WHA TU CENTEL (Meduim Convictions) ปรับน้ำหนักมีผล 30 พ.ย.

• (*/+) SET 3Q23 Earnings: หุ้นที่รายงานกำไรงวด 3Q23 แล้วมีทั้งสิ้น 400 บริษัท คิดเป็น 79.5% ของมูลค่าตลาด กำไรอยู่ที่ 2.47 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น +33%y-y, 27.5%q-q ในกลุ่มที่มีการคาดการณ์กำไร กำไรนั้นดีกว่าคาด 2.7% (vs วานนี้ ดีกว่าคาด 2.7%)

-   กลุ่มดีกว่าตลาดคาด คือ AH (-16%y-y, -22%q-q) AAV ( ขาดทุนลดลง q-q, y-y) BDMS (15%y-y, 27%q-q) HANA (76%y-y, 16%q-q) CPF (พลิกขาดทุน y-y, ขาดทุนเพิ่ม q-q) BA (พลิกกำไร y-y, 187%q-q) SIRI (23%y-y, -4%q-q) CPN (45%y-y, 13%q-q) PLANB (42%y-y, 15%q-q) XO (263%y-y, 17%q-q) TCAP (37%y-y, 2%q-q) MEGA (-19%y-y, 1%q-q)

-  กลุ่มที่ใกล้เคียงตลาดคาด คือ SAPPE (79%y-y, 2%q-q) BEM (12%y-y, 8%q-q) DIF (-6%y-y, -3%q-q) SABINA (19%y-y, 5%q-q) SISB (29%y-y, 17%q-q) PTT (252%y-y, 56%q-q)

-  กลุ่มที่ต่ำกว่าที่ตลาดคาด คือ MICRO (พลิกขาดทุนy-y, ขาดทุนเพิ่มq-q) ANAN (ขาดทุนเพิ่มขึ้น y-y, q-q) BGRIM (พลิกกำไร y-y, -49%q-q) TASCO (-60%y-y, -73%q-q) CRC (-2%y-y, -27%q-q) PTG ( -89%y-y, -83%q-q) SVI (-54%y-y, - 2%q-q)

ในกลุ่มที่รายงานงบวานนี้ เรามองกลุ่มน่าสนใจ คือ HANA ตามภาพวงจรส่งออกฟื้นตัว, TASCO เป็นจุดต่ำสุดและธุรกิจมีจุดเปลี่ยนฟื้นตัวชัดเจนจากการซื้อแหล่งน้ำมันถูกลง CRC (ตั้งรับ) มองหุ้นผันผวนไม่มาก กำไรปกติตามคาด ขณะที่มีปัจจัยเร่งรออยู่จำนวนมาก

วันนี้ติดตามรายงานกำไรหุ้น ERW, CK, IVL, AMATA, TLI มองหุ้นน่าสนใจ คือ ERW ตลาดคาดกำไร 3Q23F พลิกกำไร y-y , ทรงตัวสูง q-q ขณะที่งวด 4Q23F คาดสดใสต่อเนื่อง CK ตลาดคาดกำไร 3Q23F เด่น +41%y-y, +20%q-q IVL เชื่อว่ามีโอกาสเป็นจุดต่ำสุดก่อนฟื้นตัว หลัง PET Spread เริ่มฟื้นตัวชัด q-q AMATA ตลาดคาดกำไร 3Q23F เด่น +39%y-y, +23%q-q และขยายตัว q-q ได้ต่อใน 4Q23F

 

Daily Strategy : CPALL, GULF, GPSC

ระยะสั้น วันนี้มองภาพตลาด "ฟื้นตัว" ระยะสั้นมีโอกาสตอบรับภาพบวก FETCO และ AIMC น่าจะมีข้อสรุปเรื่องตั้ง ESG Fund มองนำมาสู่เม็ดเงินใหม่ๆ เข้าตลาด ซึ่ง SET ปัจจุบันที่มี Valution โซนลงทุน PBV ใกล้ – 2 S.D. จะยิ่งดึงดูด ผสาน ภาพบวกองค์ประกอบเศรษฐกิจภายในดีขึ้นในฝั่งท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวเร่งแบบชัดเจน จึงมองหุ้นนำในกลุ่ม THAIESG Index ที่ปรับฐานลึก+ถูก Short สูง อาทิ CPALL, GULF, CRC, GPSC, PTTGC, IVL, SCGP, OR, CBG, HMPRO และหุ้นท่องเที่ยว+กลุ่มอิงภาคบริการ อาทิ AOT, ERW

 

    หุ้นที่อยู่ในกลุ่ม THAIESG Index จะน่าสนใจขึ้น และมีโอกาสถูก Active Fund ในประเทศดึงสถานะกลับก่อน เน้นในกลุ่ม i)    ราคาลงแรงกว่า THAIESG Index -14%YTD  ii) ถูก Short sales สูง หุ้นในกลุ่มดังกล่าวที่น่าจะเป็นเป้าหมายกองทุน ได้แก่ CPALL, GULF, CRC, GPSC, PTTGC, IVL, SCGP, OR, CBG, HMPROหุ้นได้รับประโยชน์มาตรการฟรี วีซ่าจีน รัสเซีย ไต้หวัน อินเดีย (AOT, ERW, CENTEL, ADVANC, CPAXT, CPALL, CRC)
    หุ้นกลุ่มเก็งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ Digiial Wallet+E-Refund, เร่ง FDI และ สร้าง S Curve จาก Soft Power   (CPAXT, CPALL, CRC, DOHOME, GLOBAL, ADVANC, , WHA, AMATA, MAJOR)
    หุ้น China Plays ที่เริ่มเห็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแรงขึ้นและเริ่มเห็นการฟื้นตัวภายใน (PTTGC, IVL, SCGP, DOHOME, GLOBAL)
    หุ้นได้ประโยชน์ภาคผลิตโลกเริ่มฟื้น และพอประคองได้ (HANA, KCE, IVL)
    กลุ่มได้ประโยชน์ที่วงจรดอกเบี้ยสิ้นสุด และ Bond Yield เป็นปลายทาง (GULF, GPSC, BE8, MTC, KCE, HANA)
    กลุ่มที่ได้ประโยชน์น้ำมันเริ่มแกว่งลงตอบรับความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มโตแผ่ว จีนฟื้นตัวค่อยเป็นค่อยไป (SCGP, GULF, GPSC, IVL, TASCO, CPAXT)

 

• Nov 23 Best Picks : MAJOR, SCGP, GULF, GPSC, KCE, ERW, CPALL

• 4Q23 Stock Picks : AOT, ERW, CPAXT, BCH, WHA, SCB, KCE, PTT, SCGP, IVL, JMT Mid-Small Cap Play :  SPA, BE8, GLOBAL, TNP


 Tactical & Investment Idea

• Strategy Update : SET50/100 Rebalance – Second Update  KCS คำนวณหุ้นเข้า/ออก SET50-SET100 สำหรับรอบ 1H24 (ประกาศ ช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2023 : Effective 1 ม.ค. 2024)  นี้