สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(25 ตุลาคม 2566)----บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน)PRINC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2566ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2566 ดังนี้

1. อนุมัติให้บริษัท พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ จำกัด (“PRINH”) บริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นของบริษัท ผิวดีคลินิกเอสเธติคส์ จำกัด (“ผิวดี”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PRINH และเข้าซื้อหุ้นของบริษัท พงศ์ศักดิ์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (“พงศ์ศักดิ์”)

- วันที่เกิดรายการ : ภายหลังจากได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัท และเงื่อนไขบังคับก่อนระหว่างคู่สัญญาตามที่ตกลงกันดำเนินการแล้วเสร็จ

- ลักษณะโดยทั่วไป : เพื่อเข้าซื้อหุ้นสามัญของผิวดีจำนวน 41,800 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 38.0 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ ผิวดีคิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน106,400,000 บาท และเข้าซื้อหุ้นของพงศ์ศักดิ์ จำกัด จำนวน 1,320,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 15.0 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของพงศ์ศักดิ์ คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 90,135,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 196,535,000 บาท และภายหลัง
การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว PRINH จะดำเนินการให้มีการปรับโครงสร้างกิจการโดยการควบบริษัทผิวดีและพงศ์ศักดิ์ ต่อไป

- วัตถุประสงค์ในการลงทุน : เพื่อขยายธุรกิจให้บริการด้านผิวพรรณ ศัลยกรรมความงามและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

- บริษัทฯ คาดว่าจะดำเนินการเข้าซื้อหุ้นสามัญให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2566

- แหล่งเงินทุนที่ใช้ : เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯและ/หรือ เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

2. อนุมัติการควบบริษัทระหว่างผิวดีซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PRINH และพงศ์ศักดิ์ โดยในการควบบริษัท จะมีการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบบริษัท (“บริษัทใหม่”) โดยสัดส่วนการถือหุ้นของ PRINH จะเป็นดังนี้

การควบบริษัทจะส่งผลให้บริษัทใหม่ภายหลังการควบรวม สามารถพัฒนาและต่อยอดการเติบโตของธุรกิจผิวหนังและความงามได้มากยิ่งขึ้น จากการได้รับประโยชน์ร่วมกันของผิวดีและพงศ์ศักดิ์ ซึ่งมีความสามารถและจุดเด่นในด้านการให้บริการที่แตกต่างกัน จะทำให้บริษัทใหม่สามารถนำเสนอบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจรและมีฐานลูกค้าที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพจากการได้รับประโยชน์จาก Economies of Scale

นอกจากนี้ ภายหลังการควบบริษัท บริษัทใหม่มีแผนในการขยายธุรกิจ ด้วยเป้าหมายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอาจมีแผนในการปรับโครงสร้างของกิจการในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งอาจดำเนินการในลักษณะของการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์นโยบายการบริหารงาน และ/หรือการระดมทุนในรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น

หากมีความคืบหน้าและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการควบบริษัท บริษัทฯ จะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และเผยแพร่ข้อมูลให้แก่นักลงทุนทราบโดยทั่วกัน