HotNews:GPI ปี61 ปั้มรายได้โต10-20%
เล็งแตกไลน์ธุรกิจ
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 7 กุมภาพันธ์ 2561)--------GPI ตั้งเป้ารายได้ปี 61 โต 10-20% เล็งตั้งบ.ย่อย ในเมียนมาร์ ปลายQ1/61 หวังรอบรับงานใหม่ตปท.ต่อเนื่อง แย้มมีแผนM&Aธุรกิจจัดงานในมาเลย์ คาดชัดเจนปี62 มั่นใจทุนเพียงพอ มีแผนแตกไลน์ธุรกิจ เล็ง วิทยุ-ที่ปรึกษาอสังหาฯ ฯลฯ ชัดเจนปีนี้
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี2561 เติบโต10-20% จากปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าและจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเป็นพอร์ตรายได้หลัก ซึ่งในปีนี้ได้ปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่ออกบูธภายในงาน Bangkok International Motor Show 2018 แล้วประมาณ 7% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ โดยงานดังกล่าวจะจัดในวันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายน 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี บนพื้นที่รวมกว่า 1.7 แสนตารางเมตร
คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากค่ายผู้ผลิตยานยนต์ โดยปัจจุบันมีอัตราการจองพื้นที่ใกล้เต็ม 100% และคาดว่าจะมีปริมาณผู้เข้าชมและยอดจองรถภายในงานสูงกว่าปีก่อน จากปัจจัยภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์และภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คาดการณ์ยอดขายรถยนต์ในประเทศปีนี้จะเพิ่มขึ้นกว่า 3% หรืออยู่ที่ประมาณ 9 แสนคัน
“จากแผนงานที่วางไว้เชื่อว่าจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยมีการจัดงานมอเตอร์โชว์ที่จะสร้างรายได้หลัก พร้อมอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการจัดงานดังกล่าวมาแล้วถึง 38 ครั้ง ต่อยอดขยายธุรกิจจัดงานมอเตอร์โชว์ในเมียนมาและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่ธุรกิจรับจ้างพิมพ์ก็มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีและมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น” ดร.ปราจิน กล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทได้รุกขยายธุรกิจดังกล่าวในต่างประเทศเป็นครั้งแรก เริ่มจากงาน Motor Show ในประเทศเมียนมา ที่ปรับช่วงเวลาการจัดงานเป็นภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งมีแนวโน้มที่บริษัทฯ จะได้รับสิทธิการจัดงานในส่วนต่างๆ เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) เป็นผู้ร่วมจัดงาน
พร้อมกันนี้บริษัทยังมีแผนที่จะตั้งบริษัทย่อยในประเทศเมียนมาร์ โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบชงทุนราว 3 ล้านบาท และรูปแบบการลงทุนเป็นไปได้ทั้งการลงทุนเองของบริษัทหรือหาพันธมิตร ซึ่งปัจจุบันได้อยู่ระหว่างเจรจรากับพันธมิตรในพื้นที่ โดยคาดว่าจะดำเนินแล้วเสร็จได้ในปลายไตรมาส1/61 ทั้งนี้การจัดตั้งบริษัทย่อยดังกล่าวเพื่อเป็นการรับรองการขยายธุรกิจให้มีศักยภาพและขีดความสามารถในการรับงานในประเทศดังกล่าวได้เพิ่มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีเพียงจัดงาน Motor Show ในประเทศเมียนมา
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะขยายไปยังประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม อาทิอินโดนีเชีย,กัมพูชาและมาเลเซีย โดยปัจจุบันอยู่สำรวจพื้นที่ในการจัดอีเว้นท์ในประเทศมาเลเซีย ส่วนรูปแบบการลงทุนในเบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะเข้าไปซื้อกิจการบริษัทในประเทศมาเลเซีย ซึ่งคาดว่าจะได้ความชัดเจนได้ในปี2562
สำหรับงบลงทุนยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ แต่บริษัทมั่นใจว่ายังมีแหล่งเงินที่เพียงพอต่อการลงทุนอย่างแน่นอน
ดร.ปราจิน กล่าวเพิ่มเติมว่ามีแผนที่จะแตกไลน์ธุรกิจ โดยมีความสนใจในธุรกิจสถานีวิทยุกระจายเสียงและธุรกิจเป็นที่ปรึกษาให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยจะเสนอไอเดียให้แก่ผู้ประกอบการต่าง ซึ่งจะเจาะกลุ่มผู้สูงวัย ทั้งนี้คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปีนี้
----จบ----