Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : TMILL แกร่ง!! โชว์กำไร H1/63 โต 43.7% / CHAYO โค้ง 2 ฟาดกำไรพุ่ง 49.52% /TITLE เชื่อปีนี้ผ่านจุดต่ำสุด

1,595

HotNews : TMILL แกร่ง!! โชว์กำไร H1/63 โต 43.7% / CHAYO โค้ง 2 ฟาดกำไรพุ่ง 49.52% / TITLE เชื่อปีนี้ผ่านจุดต่ำสุด

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ( 17 สิงหาคม 2563)----- บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL ผู้ผลิตแป้งสาลีรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรกปี 63 สุดแกร่งโชว์กำไรสุทธิ 67.25 ล้านบาท เติบโต 43.7% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แม้เผชิญหลายปัจจัยทั้งวิกฤติโรคระบาด COVID-19 -ต้นทุนข้าวสาลีพุ่ง -การแข่งขันราคาสูงขึ้น -ค่าเงินบาทแข็งค่า แต่ยังสามารถมีอัตรากําลังการผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 73.76%

 

 

 

 

 


นางแววตา กุลโชตธาดา รองผู้อํานวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จํากัด (มหาชน) TMILL ผู้ผลิตแป้งสาลีรายใหญ่ของประเทศไทยและมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทฯ มีกําไรสุทธิ 67.25 ล้านบาท เติบโต 43.7% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกําไรสุทธิ46.80 ล้านบาท ถึงแม้ว่าบริษัทฯ จะเผชิญความท้าท้ายจากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือCovid-19 รวมทั้งภาวะการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาจําหน่ายแป้งสาลีและรําข้าวสาลีเฉลี่ยลดลง 5.0% และ 13.7% อีกทั้งค่าเงินบาทที่แข็งค่าในปีที่ผ่านมา ทําให้บริษัทฯ มีการปรับลดราคาจําหน่ายแป้งสาลีลง ดังนั้นบริษัทฯ จึงมีรายได้จากการขายในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ลดลง 3.2% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยที่รายได้จากการจําหน่ายแป้งสาลีลดลง 2.0% และรายได้จากการจําหน่ายรําข้าวสาลีลดลง 1.2%

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอัตราต้นทุนขายใน 6 เดือนแรกของปี 2563 ลดลง 3.9% และอัตรากําไรขั้นต้นสูงขึ้น 3.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากต้นทุนของข้าวสาลีที่ใช้ในปี 2563 นี้ถูกกว่าปี 2562 เนื่องจากปัจจัยด้านราคาข้าวที่มีการทําสัญญาซื้อตั้งแต่กลางปีก่อน ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงปลายปีก่อน โดยมีการใช้อัตรากําลังการผลิตเฉลี่ยใน 6 เดือนแรกของปี2563 อยู่ที่ 73.76% เพิ่มขึ้น 1.10% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สะท้อนว่าบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาด COVID-19 ไม่มากนัก

 

 

 

 

 

ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ลดลง 7.66 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากค่าขนส่งสินค่าที่ลดลงตามราคาน้ำมัน ค่าเช่าตามสัญญาระยะยาวที่มีการปรับไปอยู่ในต้นทุนทางการเงินบางส่วน และการปรับประมาณการสวัสดิการให้กับพนักงาน

 

 

สำหรับผลประกอบการ ไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มีกําไรสุทธิ 23.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาท หรือ 7.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/2562 มีผลกําไรสุทธิ 22.11 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับการใช้อัตรากําลังการผลิตเฉลี่ยในไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ 71.06% เพิ่มขึ้น 1.16% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

 

 

 

 

 

CHAYO บุ๊คผลงาน Q2/63 กำไรโต 50%ขยายแผนครึ่งปีหลัง ออกหุ้นกู้ 2,500 ล้านบาท รับโอกาสทองซื้อหนี้

 

 

CHAYO อวดผลงานไตรมาส 2/2563 มีกำไร 49.79 ลบ. เติบโต 49.52% ในขณะที่ครึ่งปีแรกมีกำไร 86.65 ลบ. เติบโต 42.80% มีรายได้รวมครึ่งปีแรกอยู่ที่ 231.90 ลบ. ปัจจุบันมีมูลหนี้คงค้างอยู่ที่ราว 51,233 ลบ. “สุขสันต์ ยศะสินธุ์” ซีอีโอ เผยผลตอบรับจากการทำงานเป็นที่น่าพอใจแม้อยู่ในสถานการณ์โควิด-19 มองแนวโน้มครึ่งปีหลัง CHAYO พร้อมลุยในธุรกิจจัดเก็บหนี้ทั้งแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน บอร์ดบริษัทฯ พิจารณาเพิ่มวงเงินด้วยการออกหุ้นกู้จาก 1,250 ลบ. เป็น 2,500 ลบ. รับโอกาสทองธุรกิจติดตามหนี้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3 - 4 ปีนี้ ไฟเขียวจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเพิ่มวาระในการออกหุ้นกู้ และมีมติจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นแบบหุ้นในอัตรา 20:1 พร้อมจ่ายปันผลเป็นเงินสด รวมในอัตราหุ้นละ 0.0277777 บาท ด้านธุรกิจสินเชื่อวางเป้าใหม่อยู่ที่ 100 ลบ. และผลักดันธุรกิจสินค้าออนไลน์ ขายของผ่าน call center เริ่มมีผลงานเข้ามาแล้วโดย 555.shopping รุกขยายผ่านช่องทาง TV และเครือข่ายพันธมิตร

 

 

 

นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดไตรมาส 2/2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 121.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.52 ล้านบาท หรือคิดเป็น 54.10% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 49.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.52% สาเหตุการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพจำนวน 44.45 ล้านบาท และการเพิ่มขึ้นของธุรกิจใหม่ ซึ่งได้แก่รายได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อและรายได้จากการขายจำนวน 1.79 ล้านบาท และ 0.3 ล้านบาทตามลำดับ

 

 

 

 

 


ในขณะที่รายได้รวมสำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 อยู่ที่ 231.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.93% มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 86.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.80% โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยและกำไรจากการขายสินทรัพย์รอการขาย

 

 

 

“ผลการทำงานที่ผ่านมาเป็นที่น่าพอใจของลูกค้าและผู้ว่าจ้างรวมทั้งผู้ขายหนี้เพราะ แม้ว่าการจัดเก็บและการให้บริการบางส่วนจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 (ลูกหนี้บางรายขอหยุดพักชำระหนี้และขอเลื่อนการจ่ายออกไป ประกอบกับการเลื่อนขายทอดตลาดหลักประกันของหนี้สินด้อยคุณภาพจากกรมบังคับคดีปิดในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2563) ก็ตามแต่ บริษัทก็ยังสามารถจัดเก็บหนี้ได้และขายสินทรัพย์รอการขายได้ด้วย ทำให้บริษัทมีกำไรตามเป้าหมาย” นายสุขสันต์ กล่าว

 


สำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2563 คาดจะเติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมาย ในไตรมาส 3/2563 และไตรมาส 4/2563 จะเริ่มต้นเข้าสู่ช่วงที่ทางสถาบันการเงินเร่งทยอยขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมามากขึ้น รวมทั้ง การขายหนี้มีหลักประกันผ่านกรมบังคับคดีด้วยตนเอง โดยในปีนี้บริษัทฯ วางแผนที่จะซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มขึ้นอีก 10,000 ล้านบาท วางงบลงทุนไว้ 1,000 ล้านบาท ซึ่งหากมีโอกาสอำนวย บริษัทจะซื้อให้ได้มากกว่า 1,000 ล้านบาทที่วางไว้ โดยปัจจุบัน CHAYO อยู่ระหว่างการเจรจากับทางธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 800-1,200 ล้านบาท เพราะมองว่าโอกาสประมูลซื้อหนี้ในช่วงปลายปีนี้ ยังมีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทใช้เงินลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพไปแล้วประมาณ 90 ล้านบาท

 


สำหรับ การซื้อหนี้ด้อยคุณภาพใหม่เข้ามาเพิ่มในปีนี้ คาดว่าจะส่งผลให้มูลหนี้คงค้างภายในปลายปีนี้เพิ่มขึ้นมาเป็นไม่น้อยกว่า 60,000 ล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลหนี้คงค้างอยู่ในพอร์ตมูลค่าราว 51,233 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน 36,105 ล้านบาท และหนี้ที่มีหลักประกัน 15,128 ล้านบาท

 

 


ขณะที่ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ บริษัทฯ ปรับลดเป้าจาก 200 ล้านบาทเป็น 100 ล้านบาท เพราะดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง ลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) และผลักดันธุรกิจสินค้าออนไลน์ ขายของผ่าน call center ที่เริ่มมีผลงานเข้ามาแล้วโดย 555.shopping ขายผ่าน TV ช่อง 49 และ 97 ของ KU.Band โดย ดร.เอ้ นนทวัชร์ สร้างโอกาสในการขายผ่านช่องทางพันธมิตรล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2563

 

 

ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 25 กันยายน 2563 พิจารณาอนุมัติการเพิ่มวงเงินในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ และ/หรือตั๋วแลกเงินของบริษัท จากวงเงินไม่เกิน 1,250 ล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ใช้ในการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมาบริหาร ใช้เป็นเงินลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน รวมทั้ง เสนอการอนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ปี 2563 ในรูปแบบหุ้นปันผลและเงินสด รวม 0.0277777 บาทต่อหุ้น แบ่งเป็นอัตราการจ่ายหุ้นปันผล (หุ้นเดิม :หุ้นปันผล) ในอัตรา 20 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล คิดเป็นอัตราปันผล 0.0250000 บาทต่อหุ้น และ อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.0027777 บาทต่อหุ้น

 

 

 

 

 

 

TITLE มอง แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทางเลือก บนเกาะภูเก็ต หลังเปิดประเทศ มีทิศทางที่ดีขึ้น

 


TITLE อสังหาฯทางเลือกบนเกาะภูเก็ต ประเมินแนวโน้มธุรกิจหลังเปิดประเทศส่งสัญญาณฟื้นตัวได้ดี หลังไทยคุมสถานการณ์โควิด-19ได้ดีอันดับต้นๆของโลก ส่งผลให้ต่างชาติสนใจกลับมาถือครองอสังหาฯในไทยเพิ่มมากขึ้น ฟาก"ศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม มั่นใจอนาคตสดใสเมื่อเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยว หนุนกำลังซื้อต่างชาติกลับมา เชื่อผลประกอบการปีนี้ผ่านจุดต่ำสุด เตรียมพร้อมอัดโปรฯแรงโครงการพร้อมขาย และรอเปิดการขาย มูลค่ากว่า 1หมื่นล้านบาท

 

 

นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทางเลือกบนเกาะภูเก็ตหลังเปิดประเทศ คาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากการที่ประเทศไทยมีการควบคุมการสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีในอันดับต้นๆของโลก ทำให้ต่างชาติมีมุมมองที่ดีและให้ความสนใจอยากกลับเข้ามาอาศัยในไทยมากขึ้น จึงเชื่อว่ากำลังซื้อของต่างชาติจะฟื้นตัวได้เร็ว หลังจากที่มีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกได้ตามปกติ

 

 

 

 

"เรารอสถานการณ์คลี่คลาย ซึ่งผลประกอบการไตรมาส 2/63 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว พร้อมกันนี้ขอให้มั่นใจว่าผลประกอบการที่ขาดหายไปในปี 63 ทั้งหมด จะกลับคืนในปีถัดๆไปอย่างแน่นอน เพราะกำลังซื้อจากต่างชาติที่ต้องการถือครองอสังหาฯในไทย มีสัญญาณที่ดี เนื่องจากมีชาวต่างชาติจำนวนมากกว่าเดิมที่มองว่าไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีเป็นอันดับต้นๆของโลก โดยดูได้จากการสมัครสมาชิก อีลิทการ์ดที่ให้สิทธิ์ชาวต่างชาติเข้าและอยู่ไทยได้ 5-20 ปี มียอดสมาชิกเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากชาวต่างชาติมีความประสงค์เข้ามาถือครองอสังหาฯไทย ถือเป็นบ้านหลังที่สอง เชื่อว่าสามารถฟื้นกำลังซื้อหลังเดินทางเข้าออกได้ตามปกติ"

 

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมกล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ มีโครงการที่พร้อมขายและรอการเปิดขายอีกมูลค่ารวมราว 1 หมื่นล้านบาท โดยตั้งอยู่บนที่ดินที่มีศักยภาพสูงไม่ว่าจะเป็นบริเวณหาดในยาง หาดบางเทา และหาดราไวย์ โดยเฉพาะหาดในยาง ซึ่งอยู่ห่างสนามบินนานาชาติภูเก็ต เพียง 5 นาที ทำให้มั่นใจว่าเมื่อทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย ผลประกอบการจะกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามเป้าหมายที่ได้วางไว้

 

 

 

 

ในระหว่างนี้บริษัทฯได้เตรียมการออก campaign เพื่อกระตุ้นการขายในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา เงื่อนไขการชำระเงิน ตลอดจนการจัดหาสินเชื่อให้กับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งจะทำให้ตัดสินใจได้เร็วเพราะเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น ตอนนี้เหลือเพียงอย่างเดียวคือการรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

 

 

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปี 2563 บริษัทฯมีรายได้จากการขายอยู่ที่ 68.82 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 19.45 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้าหลักที่เป็นชาวต่างชาติ ไม่สามารถเดินทางมาทำธุรกรรมใดๆได้ในขณะนี้ ตามมาตรการล็อกดาวน์ชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่อยู่นอกเหนือการควบคุม

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไม่ไกล By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง สอดส่อง SET วันศุกร์ ก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่สัญญาณขายของนักลงทุน...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้