HotNews : TMILL ปี 63 ดันกำลังการผลิตเต็มสูบ  เน้นลุยตลาดตจว. - เจาะ SME

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (25 พฤศจิกายน 2562) TMILL คาดปี 63 กำลังการผลิตเพิ่มแตะ 80-85% จากสิ้นปีนี้คาดอยู่ที่ 75% เล็งขยายฐานลูกค้าตจว.มากขึ้น /ส่งซิกไตรมาส 4/62 โตสวยกว่าทุกไตรมาส หลังเข้าสู้ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ พร้อมคงเป้าปริมาณขายแป้งสาลีปีนี้โต 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน

 

 

นางแววตา กุลโชตธาดา รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท ที เอส ฟลาวมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TMILL เปิดเผยว่า ปี 2563 บริษัทฯตั้งเป้ามีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 85% จากสินปีนี้คาดอยู่ที่ 75% อย่างไรก็ตามเป้ากำลังการผลิตปีนี้ได้ลดลงจาก 80% เนื่องจากปัจจุบันมีคู่แข่งรายใหม่เพิ่มเข้ามาในตลาดอีก 2 รายส่งผลให้การแข่งขันเรื่องราคาสูง

 

 

ขณะที่ในปีหน้าบริษัทฯยังคงใช้แผนการเน้นหาลูกค้ารายใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่องในต่างจังหวัดโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก(SME) โดยในปัจจุบันบริษัทฯมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าแล้ว 50-60% ของปริมาณขายที่วางไว้ ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อไปจนถึงสิ้นปี 2563

 

 

"เป้าเพิ่มกำลังการผลิตในปีละ 10% แต่ว่าต้องดูปัจจัยรอบข้างด้วย ถ้าเกิดว่าเพิ่มแล้วกำไรมันจะได้ไหม เพราะจะเน้นในเรื่องของกำไรมากกว่า และหากกำลังการผลิตเกิน 90% ไปแล้วจะเพิ่มไปอีกไหมซึ่งมองว่าคงเป็นไปไม่ได้ ณ ตอนนี้เราก็จะใช้กำลังการผลิตให้เต็มที่ก่อน ถ้าเกิดถึง 90% หรือถึง 100% แล้ว เราก็คงมองในเรื่องของเฟส 3 ที่จะต้องมาพิจารณาความเป็นไปได้อีกทีนึงค่ะ"นางแววตา กล่าว

 

 

ทั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส4/2562 จะเติบโตได้ดีกว่าสามไตรมาสที่ผ่านมา หลังเข้าสู้ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ รวมทั้งบริษัทฯยังคงเป้าปริมาณขายแป้งสาลีในปีนี้ เติบโต10% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยคาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 75% จากปัจจุบันที่มีการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ประมาณ 72.65%

 

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยอมรับว่ากำไรปีนี้จะเติบโตน้อยกว่าปีก่อนที่ทำได้ 106.60 ล้านบาท หลังได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนถึง4% แต่บริษัทฯยังคงพยายามปรับกลยุทธ์ในการบริหารต้นทุนเพื่อจำหน่ายสินค้าตอบสนองต่อลูกค้าได้ และในปีหน้าบริษัทฯประเมินว่าราคาวัตถุดิบอาจปรับตัวลดลงได้บ้างหลังมีสต็อควัตถุดิบจากการเก็บเกี่ยวมากกว่าปีนี้ โดยปัจจุบันคุณภาพของวัตถุดิบไม่ดีมากนักเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เกษตรกรมีการกักเก็บวัตถุดิบที่มีคุณภาพไว้ขายแบบเก็งกำไร

 

 

พร้อมกันนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างศึกษาการนำโรบอทเข้ามาช่วยในการผลิตเฟสที่ 3 หลังจากติดตั้งเฟสที่ 1 ซึ่งเป็นหุ่นยนต์เรียงแป้งและเฟสที่ 2 ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ร่อนแป้งแล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามการศึกษาในการลงทุนดังกล่าวยังคงไม่มีความชัดเจน หากมีความคืบหน้าบริษัทฯจะแจ้งให้ทราบทันที

 

 

นางแววตากล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลของงบการเงินเฉพาะ และหลักหักสำรองตามกฏหมาย และเงินสะสมอื่นๆตามที่บริษัทฯกำหนด ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงิน ผลการดำเนินงาน แผนการลงทุนความจำเป็นและความเหมาะสมอื่นๆในอนาคต

 

 

อนึ่ง TMILL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส3/2562 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ จำนวน 22.03 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส3/2561 มีผลกำไรสุทธิลดลง 12.82 ล้านบาท หรือคิดเป็น 36.8%อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีรายได้จากการจําหน่ายในไตรมาส 3/2562 เพิ่มขึ้น 5.9% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2561 โดยที่ปริมาณการจําหน่ายแป้งสาลีเพิ่มขึ้น 7.4% แต่ราคาจําหน่ายแป้งสาลีเฉลี่ยลดลง 0.2% ส่วนปริมาณจําหน่ายรําข้าว สาลีเพิ่มขึ้น 5.8% แต่ราคาจําหน่ายรําข้าวสาลีเฉลี่ยลดลง 6.6%ต้นทุนขายในไตรมาส 3/2562 คิดเป็น 84.1% ของรายได้ สูงขึ้นจาก 79.3% ในไตรมาส 3/2561 เป็นผลมาจากราคา เฉลี่ยของวัตถุดิบที่ใช้ปรับเพิ่มขึ้น

 

 

จากการที่ราคาขายเฉลี่ยลดลง และราคาวัตถุดิบสูงขึ้น ส่งผลให้อัตรากําไรขั้นต้นในไตรมาส 3/2552 ลดลง 4.8%การใช้อัตรากําลังการผลิตเฉลี่ยในไตรมาส 3/2562 อยู่ที่ 72.65% เพิ่มขึ้น 5.38% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกัน ของปี 2561ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาส 3/2562 ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปี 2561และจากงบการเงินสําหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 ซึ่งปรากฏว่า งบการเงินของบริษัทแสดงผล การดําเนินงานกําไรสุทธิ 68.84 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีผลกําไรสุทธิลดลง 19.72 ล้านบาท คิดเป็น 22.3% บริษัทขอเรียนชี้แจงดังนี้

 

 

บริษัทฯ มีรายได้จากการจําหน่ายในงวด 9 เดือนของปี 2562 เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2561 โดยที่ปริมาณการจําหน่ายแป้งสาลีเพิ่มขึ้น 3.6% และราคาจําหน่ายแป้งสาลีเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.6% ส่วนปริมาณจําหน่าย รําข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 3.5% แต่ราคาจําหน่ายรําข้าวสาลีเฉลี่ยลดลง 0.4%
ต้นทุนขายคิดเป็น 84.2% ของรายได้ สูงขึ้นจาก 80.2% ในปี 2561 เป็นผลมาจากราคาเฉลี่ยของวัตถุดิบที่ใช้ปรับ เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากําไรขั้นต้นในปี 2562 ลดลง 4.0%

 

 

การใช้อัตรากําลังการผลิตเฉลี่ยในปี 2562 อยู่ที่ 72.65% เพิ่มขึ้น 2.72% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2561 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในปี 2562 ลดลง 4.18 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเป็นหลัก

 

 

TMILL