Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : IRPC ผนึก JPP ดัน Mytex Polymers รุกตลาดเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษ

2,095

HotNews: IRPC ผนึก JPP ดัน Mytex Polymers  รุกตลาดเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษ

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (5 สิงหาคม 2563) IRPC ผนึก JPP ดัน Mytex Polymers รุกตลาดเม็ดพลาสติกชนิดพิเศษ พร้อมเจาะตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ทุกรูปแบบทั้งไทยและต่างประเทศ   โบรกฯ คาด Q2/63 ขาดทุนสุทธิ 414 ล้านบาท ฟื้นตัวจากการรับรู้ Stock loss ลดลง ด้านแนวโน้ม Q3/63 ต้นทุนน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น ทำให้ยังมีความเสี่ยงขาดทุนต่อ  แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 64 ที่ 3.10 บาท 

 

 

นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC กล่าวก่อนการประชุมคณะกรรมการ บริษัท ไมเท็กซ์ โพลิเมอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Mytex Polymers บริษัทร่วมทุนระหว่าง IRPC และ บริษัท เจแปน โพลิโพรพิลีน คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ JPP สัดส่วน 50:50 เพื่อผลิตและจำหน่าย เม็ดพลาสติกชนิดพิเศษพีพีคอมพาวด์ (Polypropylene Compound: PP Compound) ให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า “การร่วมทุนกับ JPP ในครั้งนี้จะทำให้ IRPC สามารถขยายตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกชนิดพิเศษพีพีคอมพาวด์แบบขั้นตอนเดียว (In - line compound) ได้เต็มกำลังการผลิต 140,000 ตันต่อปี ที่เริ่มดำเนินการผลิตแล้วตั้งแต่ปี 2560 ด้วยเทคโนโลยีการผลิตของ JPP”

 

 

นอกจากนี้ การเข้าไปถือหุ้นใน Mytex Polymers ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ IRPC ให้สามารถขยายตลาดเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น จึงนับเป็นก้าวสำคัญของ IRPC ที่สามารถเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกชนิดพิเศษ (Specialties) ได้ตามแผนธุรกิจ ด้วยการพัฒนาต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเม็ดพลาสติกพีพีคอมพาวด์ ที่พร้อมตอบสนองอุตสาหกรรมยานยนต์ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า ที่ได้รับความนิยมและมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้น พร้อมทั้งรองรับความต้องการในอุตสาหกรรมอื่นๆ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การเติบโตของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นกลยุทธ์การเข้าใจและเข้าถึงความต้องการของลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมมาตอบโจทย์เทรนด์โลกได้ในที่สุด

 

 

ทั้งนี้ IRPC และ JPP ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานรัฐบาลในทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง ว่าด้วยการปฎิบัติตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้า(Antitrust clearance) และบริษัทร่วมทุน (Mytex Polymers) พร้อมดำเนินการตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป

 

 

บล.คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า คาดผลประกอบการ IRPC ใน 2Q63 จะยังขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 414 ล้านบาท แต่ฟื้นตัวจาก 1Q63 ที่ขาดทุนสุทธิ 8.9 พันล้านบาท หลักๆ เป็นเพราะราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทรับรู้ผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันสุทธิ (รวม LCM) ลดลงเทียบกับ 1Q63 ที่ขาดทุนมากถึง 6.8 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามเมื่อรวมกำไรจากธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงคาดว่าส่วนนี้จะหักกลบกันพอดี

 

 

ดังนั้นรายการพิเศษที่เหลือจะมาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนราว 352 ล้านบาท จากค่าเงินบาท ณ สิ้นงวดที่แข็งค่าขึ้น ด้านผลการดำเนินงานหลักคาด Market GIM จะเพิ่มขึ้น +29%QoQ เป็น 8.8 $/bbl ส่วนใหญ่เป็นเพราะค่าการกลั่นที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนน้ำมันดิบ (Arab Extra Light / Arab Light) ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเป็น Discount ราว 5-6 $/bbl จาก Premium 3-4 $/bbl ในช่วง 1Q63 ช่วยชดเชย Crack Spread ที่ลดลงตามความต้องการใช้ในช่วง Lockdown ส่วนผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีส่วนต่างราคา HDPE และ PP ปรับเพิ่มขึ้นจากต้นทุน Feed Cost (Naphtha) ลดลง แต่ถูกชดเชยด้วยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อะโรมาติกส์และสไตรีนิกส์ที่อ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามจากต้นทุนรวมต่อหน่วยยังอยู่ในระดับสูงราว 12 $/bbl ทำให้ผลการดำเนินงานยังไม่สามารถ Break-even ได้ โดยคาดขาดทุนปกติที่ 766 ล้านบาท

 

 


สำหรับแนวโน้ม 3Q63 คาดผลการดำเนินงานหลักยังเผชิญผลขาดทุน โดยมีปัจจัยกดดันจากต้นทุนน้ำมันดิบที่แพงขึ้นจากการประกาศปรับเพิ่มราคา OSP ของซาอุฯ ในเดือน ก.ค.-ส.ค.โดยน้ำมันดิบประเภท Arab Light ที่โรงกลั่น IRPC ใช้เป็นส่วนใหญ่พลิกกลับมาเป็น Premium +0.7 $/bbl ใน 3Q63 อย่างไรก็ตามคาดส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีทยอยฟื้นตัวด้วยผลบวกจากการคลาย Lockdown และตัวเลขทางเศรษฐกิจมีทิศทางดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มโอเลฟินส์ที่มีความต้องการใช้ในภาคอุตสาหกรรมการแพทย์และบรรจุภัณฑ์อาหาร ภายใต้การประเมิน Market GIM ใน 2H63 เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 9-10 $/bbl และอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงกลั่นที่ 200-205 KBD จากในช่วง 1H63 ที่ 188 KBD แม้จะยังไม่ถึงจุด Break-even แต่ก็จะขาดทุนลดลง เบื้องต้นเรายังคงประมาณการปี 63 ขาดทุนปกติ 1.5 พันล้านบาท ส่วนปี 64 พลิกกำไรสุทธิ 1.2 พันล้านบาท ภายใต้สมมติฐานปริมาณการกลั่นเฉลี่ยปี 63 ที่ 198 KBD และ Market GIM ปี 63-64 ที่ 9.5$/bbl/10.5$/bbl

 

 

แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" เปลี่ยนไปใช้ราคาเหมาะสมปี 64 ที่ 3.10 บาท (จากเดิม 2.60 บาท) อิง PBV Multiplier 0.8x แม้ผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q63 แต่ยังขาดความน่าสนใจในการลงทุน เนื่องจากการฟื้นตัวในช่วงที่เหลือยังถูกกดดันจากโครงสร้างต้นทุนของบริษัทที่สูงกว่าผู้ประกอบการปิโตรเคมีและโรงกลั่นรายอื่น ส่งผลให้ผลประกอบการมีความผันผวนค่อนข้างสูง รวมถึงคาดว่าจะไม่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 1H63 อย่างไรก็ตามราคาหุ้นได้ปรับฐานไปในระดับหนึ่งจนมี Downside จำกัดแล้ว ปัจจุบันซื้อขาย Laggard กว่ากลุ่ม ดังนั้นจึงปรับคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น "ซื้อเก็งกำไร"

 

 

IRPC

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้