
HotNews : กูรู เจาะงบปี 61 เล็งกำไร PTTEP-DRT ปังสุด / SCC-IVL- PTTGC-TRUE ส่อแววกำไรหด / IRPC-TOP-DTAC-WORK พลิกขาดทุน
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (23 มกราคม 2562) กูรูเอเซีย พลัส เจาะงบปี 61 ใครปัง ใครพัง!!! ทำนายงบ PTTEP - DRT โตทั้ง yoy และ qoq ส่วน SCC - IVL - PTTGC- TRUE ส่อแววกำไรหด เล็งIRPC -TOP-DTAC-WORK พลิกขาดทุน พร้อมคัดกรองหุ้นปันผลเด่น ชู PTT, PTTEP, GLOW, ADVANC, INTUCH, SCC ,BANPU,SAT, MAJOR และ QH
บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์หลักทรัพย์วันนี้ ว่า หลังจากกลุ่ม ธ.พ. รายงานงบงวด 4Q61 เสร็จสิ้น ก็จะเข้าสู่การรายงานงบฯ ของภาค Real Sector ซึ่งน่าจะมีการทยอยประกาศกันตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป นักวิเคราะห์ ASPS ได้มีการทยอยทำ Earning Preview เบื้องต้นสรุปแยกเป็นรายกลุ่มตามการเติบโตดังนี้
** คาดผลประกอบการ 4Q61 เติบโตทั้ง yoy และ qoq**
- PTTEP คาดเติบโต 13.3% yoy และ 2.9%qoq จากปริมาณและราคาขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น และต้นทุนที่ลดลง แม้จะมีค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ของโครงการมอนทารามากดดันก็ตาม
- DRT คาดเติบโต 2.6% yoy และ 6.7%qoq หนุนจากยอดขายกลุ่มลูกค้าโครงการ และ Modern Trade ขยายตัวสูงและ Gross Margin ดีขึ้น
**คาดผลประกอบการ 4Q61 เติบโต yoy แต่ชะลอตัว qoq**
- CPF คาดเติบโต 13.9%yoy จากการขายเงินลงทุน CPALL แต่ลดลง 46.1%qoq จากช่วง low season ของการบริโภคเนื้อสัตว์ในประเทศ และการส่งออกไก่และกุ้งสู่ต่างประเทศ
- EA คาดเติบโต 2.7%yoy แต่ลดลง 27.8%qoq จากการขาดทุน Fx รวมทั้งรายได้ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังลมลดลงหลังหมดฤดูมรสุม
- SVI คาดเติบโตถึง 111.6%yoy จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง 8.2%qoq จากเงินบาทแข็งค่า กดดัน gross margin ลดลง
- RJH คาดเติบโต 10.8%yoy จากการเติบโตของผู้ป่วยเงินสด แต่ลดลง 17.2%qoq เนื่องจากผ่านช่วง High Season ในงวดที่แล้ว และมีดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น
**คาดผลประกอบการ 4Q61 เติบโต qoq แต่ชะลอตัว yoy**
- ADVANC คาดเติบโต 3.3%qoq ตามรายได้ค่าบริการที่คาดฟื้นตัว แต่ลดลง 8.8%yoy จากการทยอยรับรู้ต้นทุนคลื่น 1800 MHz ที่ประมูลมาใหม่
- TU คาดเติบโต 7.2%qoq เนื่องจากมีการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปิดกิจการบริษัทย่อย แต่ลดลง 2.7%yoy จากเงินบาทแข็งค่า กดดัน gross margin ลดลง
- WHA คาดเติบโต 260.3%qoq จากการขายพื้นที่คลังสินค้าเข้ากอง REIT แต่ลดลง 23.4%yoy จากฐานกำไรที่สูงเป็นประวัติการณ์ในงวด 4Q60
- SNC คาดเติบโต 13.6%qoq แต่ลดลง 27.7%yoy จากค่าใช้จ่ายภาษีเพิ่มขึ้น และยอดขายมีแนวโน้มลดลงในส่วนของธุรกิจชิ้นส่วนแอร์รถยนต์
- TASCO คาดเติบโตถึง 11 เท่า qoq จากฐานกำไรที่ต่ำมากในงวดก่อนหน้า แต่ลดลง 86.1%yoy จาก Stock Loss ที่เกิดขึ้นหลังราคาน้ำมันดิบและยางมะตอยลดลงอย่างมาก
**คาดผลประกอบการ 4Q61 ชะลอตัวทั้ง yoy และ qoq**
- SCC คาดลดลง 26.4%yoy และ 2.4%qoq จาก Spread ธุรกิจปิโตรเคมีที่แคบลง รวมทั้งเกิด Stock Loss ในงวดนี้
- IVL คาดลดลง 75.7%yoy และ 75.8%qoq จากการบันทึกขาดทุนสินค้าคงเหลือ และปริมาณขายคาดปรับตัวลดลงเนื่องจากเป็นช่วง low season และ spread ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีแคบลง
- PTTGC คาดลดลง 58.1%yoy และ 68.7%qoq จากการบันทึกขาดทุนสต๊อกน้ำมัน รวมทั้งกำไรที่ลดลงในทุกธุรกิจปิโตรเคมี โดยเฉพาะธุรกิจหลักโอเลฟินส์
- TRUE คาดลดลง 5.5%yoy เนื่องจากงวด 4Q60 มีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินให้กับ DIF และลดลง 25.0%qoq จากต้นทุนขายและบริการ รวมทั้ง SG&A เพิ่มขึ้น
**คาดผลประกอบการ 4Q61 จะพลิกมาขาดทุน**
- IRPC จากการบันทึกขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในระดับสูง
- TOP จากการบันทึกขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในระดับสูง
- DTAC จากการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษเพื่อยุติข้อพิพาทกับ CAT ราว 6.8 พันล้านบาท
- WORK จากรายได้ค่าโฆษณาที่ลดลง และมีการบันทึกค่าตัดจำหน่ายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดกีฬาเอเชียนเกมส์เต็มไตรมาส
**เอาชนะตลาด ด้วย 10 หุ้นปันผลเด่น**
Fund Flow เริ่มไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยในปี 2562 บวกกับประเด็นการเลือกตั้งน่าจะช่วยหนุนให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีในช่วงแรกของปี เหมือนกับสถิติในอดีตย้อนหลัง 5 ปี พบว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี SET TRI (ดัชนี SET ที่มีการบวกเงินปันผลจ่ายกลับเข้ามา) ปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกเดือน เฉลี่ยตลอดทั้ง 4 เดือนอยู่ที่ 6.34% อย่างไรก็ตาม SETHD TRI (ดัชนีหุ้นปันผลสูงที่มีการบวกเงินปันผลจ่ายกลับเข้ามา) กลับปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีกว่า และให้ผลตอบแทนสูงถึง 9.9% เนื่องจากนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศเข้ามาลงทุนในช่วง 1 - 2 เดือนก่อนเพื่อรอรับปันผล จากนั้นฝ่ายวิจัยฯทำการวิเคราะห์เชิงปริมาณเพื่อค้นหาช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการลงทุนหุ้นปันผลเด่น โดยทำการทดสอบโมเดลย้อนหลัง 5 ปี (Backtesting) หาผลตอบแทนเฉลี่ยของหุ้นใน SETHD ทั้งหมด ได้ข้อสรุปว่า แนะนำซื้อหุ้นปันผลก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ราว 2 เดือน และขายทำกำไรในวันขึ้นเครื่องหมาย XD ได้ผลตอบแทนรวมสูงถึง 3.96% (Dividend Yield + Capital Gain) และมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก 86.7%
ระบุต่อคัดกรองหุ้นปันผลเด่นโดยมีเงื่อนไขดังนี้
เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในช่วง 2 เดือนก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD สูงกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นทั้งหมดใน SETHD (มากกว่า3.96%) เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอติดต่อกัน 5 ปีและสุดท้ายเป็นหุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯแนะนำ "ซื้อ" และเหมาะสมกับการลงทุนในปี 2562 ได้ผลลัพธ์ออกมา 10 บริษัท แบ่งออกเป็นกลุ่มหลักๆ 2 กลุ่ม คือ
หุ้นปันผลเด่นขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูง ซึ่งมีโอกาสได้แรงหนุนจาก Fund Flow ที่ไหลเข้า 7 บริษัท คือ PTT, PTTEP, GLOW, ADVANC, INTUCH, SCC และ BANPU โดยหุ้นทั้ง 7 บริษัท อยู่ในดัชนี SET50 ทั้งหมด เป็นการการันตีว่าเป็นหุ้นที่มีขนาดใหญ่สภาพคล่องสูงจริง และยังเป็นหุ้นที่สามารถคาดหวังปันผลได้เกินกว่า 3.5% อีกทั้งหากวิเคราะห์จากแรงซื้อขายผ่าน NVDR ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (วันที่ 1 ม.ค. - 22 ม.ค. 62) พบว่า มีสถานะเป็น "Net Buy" หรือ ซื้อสุทธิทุกบริษัท แสดงให้เห็นว่าต่างชาติเริ่มทยอยเข้ามาสะสมหุ้นดังกล่าว ช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกแรง
หุ้นปันผลเด่นสามารถคาดหวัง Dividend Yield ได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก 3 บริษัท คือ SAT, MAJOR และ QH โดยหุ้นทั้ง 3 บริษัท สามารถคาดหวัง Dividend Yield 62F ได้สูงถึง 6.4%, 5.5% และ 8.0% ต่อปี ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอ แม้ล่าสุดราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาจนทำให้มี Dividend Yield สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตย้อนหลัง 5 ปีมาก อย่างไรก็ตามในปี 2562 เชื่อว่ายังเติบโตได้ดี สะท้อนจาก EPS Growth 62F เป็นบวกทุกบริษัท ราคาหุ้นที่ย่อตัวลงมาถือเป็นโอกาสดีในการเข้าสะสม