Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : บีบีจีไอ รุกขยายกำลังผลิตเอทานอล-ไบโอดีเซล เต็มสูบ

5,341

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (24 กรกฏาคม 2561) "บีบีจีไอ" รุกขยายกำลังผลิตเอทานอล-ไบโอดีเซล เล็งทุ่มงบ 1.55 พันลบ.ขยายกำลังผลิตเอทานอลเป็น 8 แสนลิตร/วัน-ไบโอดีเซลเป็น 1 ล้านลิตร/วันในสิ้นปี 62

นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI เปิดเผยว่า กลุ่มบางจากฯ และกลุ่มน้ำตาลขอนแก่น ร่วมทุนกันจัดตั้ง บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ในสัดส่วนร้อยละ 60:40 ตามลำดับ เพื้อเข้าลงทุนถือหุ้นในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล ไบโอดีเซล และผลิตภัณฑ์พลอยได้ รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันกลุ่มบริษัท ฯ ถือเป็นผู้ประกอบการธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ของไทย โดยได้ถือหุ้นในบริษัทย่อย 3 บริษัท ได้แก่ บมจ.เคเอสแอล กรีน อินโนเวชั่น (KGI) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอลที่ใช้กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบ บริษัทบางจากไบโอเอทานอล (ฉะเชิงเทรา) จำกัด (BBE) ผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอลโดยใช้มันสำปะหลังสดและมันสำปะหลังเส้น และบริษัท บางจากไบโอฟูเอล จำกัด (BBF) ผู้ผลิตและจำหน่ายไบโอดีเซล โดยใช้น้ำมันปาล์มดิบ เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต

“เรามีวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นกลุ่มบริษัทผลิตภัณฑ์ชีวภาพระดับนานาชาติด้วยนวัตกรรมสีเขียว และดำเนินธุรกิจด้วยแนวทางอย่างยั่งยืน ซึ่ง BBGI มีเป้าหมายที่จะขยายทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่โดยมุ่งไปสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (Hight Value Product) หรือ HVP เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยนำผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพและวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ รองรับภาครัฐเร่งผลักดันอุตสาหกรรมชีวภาพ (Bio Industry) แจ้งเกิดในประเทศไทย " นายพงษ์ชัย กล่าว

BBGI เกิดจากการรวมกิจการธุรกิจชีวภาพของกลุ่ม บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และธุรกิจเอทานอลของ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) โดย BCP ถือหุ้น 60% และ KSL ถือหุ้น 40%

 

 

ทั้งนี้บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล ไบโอดีเซล และผลิตภัณฑ์พลอยได้ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากการควบบริษัท (Amalgamation) ระหว่าง บริษัท บีบีพี โฮลดิ้ง จำกัด หรือ BBH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100.0 กับ บริษัท เคเอสแอลจีไอ จำกัด หรือ KSLGI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หริอ KSL ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100.0 ซึ่งเป็นไปตามแผนความตกลงร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจสำหรับธุรกิจชีวภาพ (Bio-based) ระหว่าง BCP กับ KSL โดยก่อน IPO BCP และ KSL เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ในสัดส่วนร้อยละ 60.0 และร้อยละ 40.0 ตามลำดับ

 

สำหรับเป้าหมายและกลยุทธ์การดำเนินงาน บริษัทฯมีโครงการจะลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและปริมาณการผลิตเอทานอล ที่ได้รับการอนุมัติโดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทแล้ว ซึ่งเมื่อดำเนินงานเสร็จแล้ว กำลังการผลิตเอทานอลของกลุ่มบริษัทจะเพิ่มเป็นดังนี้ KGI โรงงานน้ำพอง 115.50 ล้านลิตรต่อปี KGI โรงงานบ่อพลอย 99 ล้านลิตรต่อปี และ BBE โรงงานผลิตเอทานอล 49.50 ล้านลิตรต่อปี

 

ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้เตรียมงบลงทุนจำนวน 1.55 พันล้านบาท ในการขยายฐานธุรกิจเพิ่มเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มกำลังการผลิตเอทานอลอีก 300,000 ลิตร/วัน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 500,000 ลิตร/วัน ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตเอทานอลอยู่ที่ 800,000 ลิตร/วัน ภายในสิ้นปี 2562 โดยบริษัทฯคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 1.5 พันล้านบาท ส่วนไบโอดีเซลบริษัทฯจะเพิ่มอีก 70,000 ลิตร/วัน จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 930,000 ลิตร/วัน ซึ่งจะทำให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตไบโอดีเซลอยู่ที่ 800,000 ลิตร/วัน ภายในสิ้นปี 2562 เช่นกัน โดยบริษัทฯคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 50 ล้านบาทซึ่งบริษัทจะนำเงินทุนมาจากจากกระแสเงินที่มีอยู่ และเงินจากการระดมทุนขาย IPO

 

 

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาที่จะลงทุนขยายธุรกิจพลาสติกชีวภาพ เคมีภัณฑ์ และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับทางบีบีจีไอมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปภายในครึ่งปีหลัง ปี 2561 รวมไปถึงขยายธุรกิจไปยังผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่มีมูลค่าสูง (Hight Value Product)โดย ธุรกิจเอทานอล ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง ธุรกิจวัสดุชีวภาพและเคมีชีวภาพ ตั้งเป้าหมายที่จะต่อยอดงานวิจัยในด้านการใช้ประโยชน์น้ำตาลรุ่นที่ 2 จากชีวมวลที่มีเซลลูโลสสูง เช่น ชานอ้อยไม้สับ และมีแผนที่จะลงทุนโครงการใหม่กลุ่มวัสดุชีวภาพและเคมีชีวภาพ เช่น โครงการผลิตพลาสติกชีวภาพ และโครงการผลิตน้ำตาลจากเซลลูโลส และธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอาง ต่อยอดงานวิจัยในด้านเพาะเลี้ยงสาหร่ายเพื่อผลิตสารสกัดมูลค่าสูง (Astraxantin) เป็นอาหารเสริมและเครื่องสำอาง

 

ด้านนายชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ BBGI กล่าวว่า บริษัทนับว่ามีความได้เปรียบทางธุรกิจจากการที่มีกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจต้นน้ำและปลายน้ำของผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวภาพ ทั้งจากกลุ่มบางจากฯและกลุ่มน้ำตาลขอนแก่น ทำให้กลุ่มบริษัทมีความมั่นคงด้านวัตถุดิบ มีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการการสั่งซื้อวัตถุดิบ และยังได้รับประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความเข้มแข็งและพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทได้เป็นอย่างดี "บริษัทนับว่ามีความได้เปรียบจากการที่เป็นผู้ผลิตเอทานอลที่มีเชื้อเพลิงหลากหลายทั้งจากกากน้ำตาล และมันสำปะหลัง ซึ่งหากมาร์จิ้นตัวใดตัวหนึ่งลดลง ก็จะทำให้มาร์จิ้นภาพรวมคงที่ไม่หวือหวา สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้...พื้นฐานของเราคือการทำเอทานอลและไบโอดีเซล หากความต้องการใช้หยุดชะงักหรือลดลง เราก็เตรียมพร้อมก้าวไปสู่ธุรกิจอื่นที่จะเป็นก้าวต่อไปของกลุ่มบริษัท"นายชลัช กล่าว

 

 

สำหรับความคืบหน้าการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ล่าสุด BBGI ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดย BBGI จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 216.60 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 30.0 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 5.0 บาท ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ในการกำหนดกรอบเวลาการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯที่ชัดเจน

 


อนึ่ง บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 216.60 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 30.0 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 5.0 บาท เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จํากัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผูัจัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

 

BBGI

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

เก็งกำไรงบ บจ. By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม มองห้วงการเก็งกำไร ประเด็นงบไตรมาสแรกปีนี้ น่าจะเป็นสตอรี่ที่นักลงทุน ให้น้ำหนักการเก็งกำไร หรือ แม้งบอาจ...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้