Today’s NEWS FEED

News Feed

(3)HotNews: เจาะงบแบงก์ กำไรQ1/61 โต1.04% แบงก์เล็กกำไรวิ่งฉิว

1,025

 


(3)HotNews: เจาะงบแบงก์
กำไรQ1/61 โต1.04%
แบงก์เล็กกำไรวิ่งฉิว


CIMBT เผย Q1/61 กำไรโต 39.3% ตามรายได้-สำรองหนี้ลดลง

นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 มีกำไรสุทธิจำนวน 168.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.7 ล้านบาท หรือ 39.3% เมื่อเปรียบเทียบผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกันปี 2560 สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงาน 8.1% และการลดลงของสำรองหนี้สงสัยจะสูญ 4.5% สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 10.6% เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานงวดสามเดือนปี 2561 และ 2560 รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 252.3 ล้านบาท หรือ 8.1% เป็นจำนวน 3,382.2 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 132.9 ล้านบาท หรือ 5.4% และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิจำนวน 47.3 ล้านบาท หรือ 11.1% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัย ธุรกรรมเช่าซื้อและค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน รายได้อื่นเพิ่มขึ้น 72.1 ล้านบาท หรือ 30.1% เนื่องมาจากกำไรจากการจำหน่ายหลักทรัพย์เผื่อขาย
อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin - NIM) สำหรับงวดสามเดือนปี 2561 อยู่ที่ 3.98% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปี 2560 อยู่ที่ 3.77% เป็นผลจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 11.4 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ 5.2% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ 4.8% เป็นผลจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2560 อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแลและการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 อยู่ที่ 92.3% ลดลงจากสิ้นปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ 93.2% ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 เงินสำรองของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 10.4 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 4.0 พันล้านบาท


KKP ระบุกำไร Q1/61 วูบ 0.7% จากงวดปีก่อน

กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) รายงานว่า ในไตรมาส 1/61 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 1,513 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.0% เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิในไตรมาส 4/60 หากเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/60 กำไรสุทธิลดลงเล็กน้อยที่ 0.7% ทางด้านรายได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 3,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% จากไตรมาส 1/60 โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยของเงินให้สินเชื่อที่เพิ่มขึ้น 22.3% ตามปริมาณการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ
ทั้งนี้ สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 มี.ค.61 มีจำนวน 273,819 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% จากสิ้นปี 60
ขณะที่ ณ สิ้นเดือน มี.ค.61 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) คำนวณตามเกณฑ์ Basel III ซึ่งรวมกำไรถึงสิ้นปี 59 อยู่ที่ 15.96% โดยเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 12.87% แต่หากรวมกำไรถึงสิ้นไตรมาส 1/61 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงจะเท่ากับ 18.05% และเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 14.96%
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/61 สินเชื่อของธนาคารมีการขยายตัว 5.7% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 60 โดยสินเชื่อมีการขยายตัวในเกือบทุกประเภท รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อที่เริ่มมีการขยายตัวที่ 0.7% หลังจากที่มีการหดตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 57 เป็นต้นมา โดยตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อรวมทั้งปีที่ราว 10%
ในด้านคุณภาพของสินเชื่อมีปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคารและบริษทัย่อยจำนวน 9,673 ล้านบาท คิดเป็น 4.7% ของสินเชื่อรวม โดยเป็นอัตราส่วนที่ลดลงจาก ณ สิ้นปี 60 ที่ 5.0% โดยปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพยย์ยังคงมีการปรับตัวลดลงจากสิ้นปี 60
ทางด้านธุรกิจบริหารหนี้ธนาคารขายทรัพย์รอการขายได้ในไตรมาส 1/61 จำนวน 317 ล้านบาท และมีกำไรจากการขายทรัพย์รอการขาย 160 ล้านบาท ส่วนหนี้สินรวม (เงินฝากและอื่นๆ) มีจำนวน 230,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.0% จากสิ้นปี 60
ทางด้านธุรกิจตลาดทุนในส่วนของธุรกิจนายหน้า (Brokerage Business) โดย บล.ภัทร ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และตราสารอนุพันธ์แก่ลูกค้าประเภทสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ภายใต้บริการ Private Wealth Management สำหรับไตรมาส 1/61 บล.ภัทร มีรายได้ค่านายหน้า 396 ล้านบาท ประกอบด้วยรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ 353 ล้านบาท รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ 34 ล้านบาท และรายได้ค่านายหน้าอื่น 9 ล้านบาท นอกจากนี้ บล.ภัทร ยังมีรายได้ค่านายหน้าจากาการเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุน 143 ล้านบาท
ธุรกิจวานิชธนกิจ (Investment Banking Business) ประกอบธุรกิจวานิชธนกิจ ให้บริการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ในไตรมาส 1/61 บล.ภัทร มีรายได้รวม 67 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ที่ปรึกษาทางการเงิน 60 ล้านบาท และรายได้การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 7 ล้านบาท
ธุรกิจการลงทุน (Investment Business) ปี 2559 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมจากธุรกิจลงทุนจำนวน 234 ล้านบาท
ธุรกิจจัดการกองทุน (Asset Management Business) โดย บลจ.ภัทร ณ วันที่ 31 มี.ค.61 มีทรัพย์สินภายใต้การจัดการของกองทุนเป็นจำนวน 63,998 ล้านบาท มีกองทุนภายใต้การบริหารรวม 24 กองทุน

LHBANK เผย Q1/61 กำไรพุ่ง 31.5% เหตุรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยโต 112%

บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHBANK รายงานผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 มีกำไรสุทธิ 771.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 586.63 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 732.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.2% ส่วนใหญ่มาจากกำไรจากเงินลงทุนและรายได้เงินปันผล ขณะที่การตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นร้อยละ 112.9%


----จบ----

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้