Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: GUNKUL ทุ่ม 1 พันลบ.ลุยซื้อหุ้นคืน สร้างความเชื่อมั่น /TOP ตอบในระยะสั้นนี้ ไร้แผนแตกพาร์

5,499

 

HotNews: GUNKUL ทุ่ม 1 พันลบ.ลุยซื้อหุ้นคืน สร้างความเชื่อมั่น
/TOP ตอบในระยะสั้นนี้ ไร้แผนแตกพาร์


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 11 เมษายน 2561)-------- "อธิคม เติบศิริ" แม่ทัพ TOP เผยระยะยาวมีแผนกระจายพอร์ตกำไรสุทธิจากธุรกิจอื่นเป็น 40-50% จากปัจจุบัน30% ยันกบง.ปรับสูตรโรงกลั่นไม่กระทบต่อผลประกอบการ มองกรอบราคาน้ำมันปีนี้ที่ 60-65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ระบุในระยะสั้นนี้ ไม่มีแผนแตกพาร์ในระยะสั้นนี้


"โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์" กระบี่มือหนึ่งแห่ง GUNKUL เผยมติบอร์ด ไฟเขียวโครงการซื้อหุ้นคืน (Treasury Stock) ในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน ถึง วันที่ 22 ตุลาคม 2561 หลังราคาหุ้นปรับตัวลดลงจนต่ำกว่าพื้นฐาน “โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” มั่นใจศักยภาพธุรกิจมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังข่าวดีรออยู่อีกเพียบ เชื่อหลังเดินหน้าซื้อหุ้นคืนทำให้ราคาหุ้นอยู่ในสภาพที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนเพิ่มขึ้น

นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)หรือTOP เปิดเผยว่าในระยะยาวบริษัทมีแผนที่จะกระจายพอร์ตกำไรสุทธิไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นๆ เป็น 40-50% จากปัจจุบันอยู่ที่30%และอีก70%มาจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน เพื่อเป็นการไม่พึ่งจากธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันเป็นอย่างเดียว โดยบริษัทมีโครงการขยายธุรกิจอื่นๆทั้งในส่วนธุรกิจปิโตรเคมี,ปิโตรเลียม,สารละลาย โดยได้ศึกษาการลงทุนทั้งในประเทศและต่างเทศ ทั้งรูปแบบการร่วมมือกับพันธมิตรและเข้าซื้อกิจการ


ส่วนในธุรกิจหลักบริษัทมีโครงการผลิตผลิตภัณฑ์พิเศษเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์เดิมและเปิดตลาดสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ รวมทั้งมีแผนขยายกองเรือของบริษัท ไทยออยล์มารีน จำกัด


สำหรับโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างในปัจจุบันของบริษัท ประกอบไปด้วยโครงการขยายขีดความสามารถในการจ่าน้ำมันอากาศยาน มูลค่าโครงการราว 60 ล้านบาทซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส2/61 , โครงการก่อสร้างถังน้ำมันดิบเพื่อความมั่นคงด้านการกลั่น มูลค่าโครงการ 2.42 พันล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จเพื่อรองรับการใช้งานได้ในปี2562 ส่วนโครงการกลุ่มอาคารโรงกลั่นศรีราชา มูลค่าโครงการ 2.74 พันล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี2562


ขณะที่โครงการสร้างศูนย์กระจายผลิตภัณฑ์สารทำละลายในประทศเวียดนาม คาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส4/61และโครงการขยายท่าเรือหมายเลข7และ8 โดยจะสามารถรองรับเรือขนส่งผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดสูงสุดถึง 5หมื่นตันบรรทุกจากเดิมที่รองรับได้ 5.3 พันตันบรรทุก โดยมูลค่าโครงการราว 3.83 พันล้านบาทคาดว่าจะแล้วเสร็จและดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี2562


พร้อมกันนี้บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างศึกษาโครงการเพิ่มกำลังการผลิตภายใต้โครงการเชื้อเพลิงสะอาด (Clean Fuel Project : CFP)ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น4แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดิมอยู่ที่ 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน และปรับปรุงผลิตภัณฑ์การผลิตจากเดิมจะเป็นน้ำมันเตา แต่หลังจากที่เพิ่มกำลังผลิตแล้วจะได้ผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมันดีเซล และน้ำมันอากาศยาน โดยคาดว่าจะตัดสินใจลงทุนในขั้นตอนสุดท้ายได้ในภายในไตรมาส3/61 และใช้ระยะเวลาก่อสร้างราว 4 ปี โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างคัดเลือกผู้รับเหมาโดยมีผู้รับเหมาจากยุโรปและเอเชียได้เสนอราคาเข้ามาแล้ว ซึ่งมูลค่าก่อสร้างตามราคาตลาดอยู่ที่ 3.4-4พันล้านเหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล


นายอธิคม กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะมีการพิจารณาการปรับสูตรเป็นการคำนวณภายในของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานเป็นรายการคำนวณเพื่อติดตามภาวะการแข่งขันในตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงบริษัทประเมินประเด็นดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากในปัจจุบันได้มีการเปิดเสรีในการแข่งขันราคาอยู่แล้ว โดยบริษัทมีศักยภาพในการเเข่งขันเรื่องราคาขายและความสามารถในการบริหารต้นทุนในระดับที่ดีจึงไม่มีกังวลแต่อย่างใด ขณะที่การขายในปัจจุบันขึ้นอยู่กับดีมานด์และซัพพลายเพียงอย่างเดียว


อนึ่ง นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง.เมื่อวันที่ 26 มี.ค.พิจารณาโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงหน้าโรงกลั่นและราคาขายปลีก เนื่องจากตลาดค้าน้ำมันสำเร็จรูปตลาดโลกมีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน เดิมอ้างอิงราคาน้ำมันตลาดสากล (สิงคโปร์) บวกด้วยพรีเมียม เช่น ค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน ฯลฯ ซึ่งจะมีการยกเลิกการบวกด้วยพรีเมียมออกไปด้วยการปรับโครงสร้างการคำนวณใหม่ และมอบหมายให้ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานไปศึกษา เพื่อนำเข้าที่ประชุม กบง.ในวันที่ 20 เม.ย.นี้


สำหรับผลกำไร/ขาดทุนจากสต๊อคน้ำมันในปีนี้บริษัทยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากทิศทางตลาดค่อนข้างผันผวนอยู่ค่อนข้างมาก โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 60-65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลจากสิ้นปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 61 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลขณะที่ราคาน้ำมันในปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ 65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล


นายอธิคม กล่าวในที่ประชุมผู้ถือหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) TOP ซึ่งจัดขึ้นที่ ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว โดยระบุในที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่าในระยะสั้นนี้ บริษัทยังไม่มีแผนแตกพาร์


"สำหรับในระยะสั้นนี้ยังไม่มีแผนที่จะแตกพาร์ (มูลค่าหุ้นที่ตราไว้) จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 10 บาท/หุ้น เนื่องจากบริษัทประเมินว่าราคายังไม่ได้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมโดยในปัจจุบันราคาหุ้นของบริษัทยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 บาท/หุ้น"นายอธิคม กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2561 มีมติให้บริษัทเข้าโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) โดยจะดำเนินการซื้อหุ้นคืนสูงสุดไม่เกิน 300,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็น 4.04 % ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด คิดเป็นวงเงินซื้อคืนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท กำหนดระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน ถึงวันที่ 22 ตุลาคม 2561


“บอร์ด GUNKUL ประเมินแล้วว่า ณ จุดนี้ราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงของบริษัท ซึ่งเป็นผลจากภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ผันผวน เนื่องจากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบหลายด้าน ทำให้หุ้นกลุ่มหลัก รวมถึงหุ้นของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบตามไปด้วย บริษัทจึงตัดสินใจเข้าโครงการซื้อหุ้นคืน โดยจะใช้เงินทั้งหมดไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งการทำ Treasury Stock ครั้งนี้ บริษัทจะใช้เงินจากสภาพคล่องส่วนเกินซึ่งจะไม่มีผลกระทบกับการเงินของบริษัทแต่อย่างใด นอกจากจะทำให้อัตราส่วนทางการเงินดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการแสดงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ รวมถึงเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทฯ ขอให้ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนมั่นใจว่า บอร์ดบริษัทฯ และฝ่ายบริหารไม่ได้นิ่งนอนใจ เราพร้อมที่จะเข้าดูแลด้วยกลไกที่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทุกประการ” นางสาวโศภชากล่าว


บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจพลังงานทดแทนที่บริษัทดำเนินการอยู่ ที่ผ่านมาธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีความมั่นคงเพิ่มมากขึ้น จากการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงหางานใหม่ๆ เพิ่ม ทั้งในส่วนของโซลาร์ฟาร์ม รวมถึงพลังงานลม ที่ขณะนี้มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) รวมกันแล้วทั้งสิ้น 520 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้จ่ายไฟเข้าระบบไปแล้วรวม 232 เมกะวัตต์ โดยบริษัทยังคงเป้าหมายที่จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ครบ 1,000 เมกะวัตต์ในปี 2563


อนึ่ง บมจ.กันกุลเอ็นยิเนียริ่ง (GUNKUL) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2561 เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารการเงิน โดยจะใช้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 300 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.25 บาท คิดเป็นสัดส่วน 4.04% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ซึ่งเป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.-22 ต.ค.61



สำหรับกรณีที่รัฐบาลกำหนดนโยบายการงดซื้อไฟฟ้าส่วนเพิ่มเป็นระยะเวลา 5 ปี บริษัทยันยันว่า ประเด็นดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากบริษัทมีแผนขยายการผลิตไปยังต่างประเทศ ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าจากการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐในประเทศนั้น โดยได้ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าไปยังต่างประเทศ เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 200 เมกะวัตต์ , โครงการพลังแสงอาทิตย์ที่ประเทศมาเลเซีย ขนาด 30 เมกะวัตต์ ,โครงการประเภทเชื้อเพลิงแก๊สที่ประเทศพม่า ขนาด 25 เมกะวัตต์ และบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนเพิ่มเติมทั้งที่ประเทศมาเลเซีย พม่า และเวียดนามเนื่องจากเชื่อว่า ความต้องการและนโยบายภาครัฐของประเทศดังกล่าว ยังคงให้การสนับสนุนด้านพลังงานทดแทน อันเนื่องจากต้นทุนที่ถูกลงและมีความจำเป็นในการต้องขยายสัดส่วนความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้พลังงาน


ขณะที่บริษัทมุ่งลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าภาคเอกชนประเภทติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) และแบบติดตั้งบนภาคพื้นดิน (Solar Ground) ภายในประเทศ เพื่อลดต้นทุนด้านภาคประกอบการและเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน โดยปีนี้บริษัท มุ่งเน้นลงทุนติดตั้งโรงไฟฟ้าบนหลังคา ให้กับภาคเอกชนแบบให้ส่วนลดและสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบระยะยาว (Private PPA) ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายการขยายตัวสำหรับ Solar Rooftop ภาคเอกชนในปีนี้ประมาณ 50 - 100 เมกะวัตต์


อีกทั้งบริษัทตั้งเป้าการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ในปีนี้ 180 เมกะวัตต์ พร้อมตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 30% และยังคงเป้าที่จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ครบ 1,000 เมกะวัตต์ในปี 2563

-----จบ-----

 

 

 

บทความล่าสุด

โหมดพักตัว By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มาอัพเดทข่าวสารในวันศุกร์ที่ 8 เดือน 8 ปี 68 หุ้นไทยในภาคเช้าที่ผ่านมา เข้าสู่โหมดพักตัว .....

IND ทำดีเพื่อสังคม มอบน้ำดื่ม 500 ขวด สนับสนุน "มูลนิธินวัตกรรมเพื่อชุมชน"

IND ทำดีเพื่อสังคม มอบน้ำดื่ม 500 ขวด สนับสนุน "มูลนิธินวัตกรรมเพื่อชุมชน"

PTG ส่ง "PT Service Volunteer" บริการเติมสุขถึงมือลูกค้า

PTG ส่ง "PT Service Volunteer" บริการเติมสุขถึงมือลูกค้า

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ ทอล์ค : PTG มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนทุกคน

หุ้นอินไซด์ ทอล์ค : PTG มุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุนทุกคน

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้