HotNews: GUNKUL เปิดแผนปีจอ
เตรียมลุยงานEPC -สานต่อแผนลงทุนพลังงานทดแทน
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 10 มกราคม 2561)----------GUNKUL เปิดแผนปีจอ วางยุทธศาสตร์ เน้นลุยงานรับเหมาก่อสร้างฯ(EPC) คาดมีลุ้นคว้างาน 10-20% จากมูลค่างานประมูลกว่า 1 หมื่นลบ./ปี พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี61โตไม่ต่ำกว่า 20% หลังตุนงานในมือกว่า 1,500 ลบ. เดินหน้าลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนต่อเนื่อง ตามแผน 3 ปี (61-63) มีPPA ในมือ 1,000 Mw จากปัจจุบัน 489 Mw คุยปี61 รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าที่ทยอยCOD กำลังการผลิตรวมราว 200 Mw
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นงานด้านรับเหมาก่อสร้างวางระบบและติดตั้ง (EPC) มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานโครงการสร้างสถานีโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก งานระบบสายส่ง สายจำหน่าย งานวางระบบสายเคเบิลลงใต้ดินและงานวางสายเคเบิลใต้น้ำ เนื่องจากในแต่ละปีจะมีมูลค่างานประมูลออกมาประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าวปีละประมาณ 10-20%
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเดินหน้าลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 3 ปี (2561-2563) บริษัทฯ จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือ 1,000 เมกะวัตต์ตามเป้าที่วางไว้ จากปัจจุบันบริษัทฯ มี PPA อยู่ในมือแล้วประมาณ 489 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2561 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 2560 โดยจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเชิงพาณิชย์ (COD) กำลังการผลิตรวมในปี 2561 ประมาณ 200 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 2 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 110 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าสราญรมย์วินด์ฟาร์ม กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ได้ในไตรมาสที่ 1/2561 และโครงการโรงไฟฟ้ามิตรภาพวินฟาร์ม กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ได้ไตรมาสที่ 2/2561 รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 78 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ได้ในครึ่งปีหลัง
"ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของกลุ่มบริษัทฯ GUNKUL ที่ผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เพราะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่เตรียม COD ในปี 2561 อีกทั้งยังมีแผนเข้าประมูลงานใหม่ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพของรายได้และกำไร ซึ่งปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ประมาณ 1,500 ล้านบาท อันจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นกว่าปี 2560 ไม่น้อยกว่า 20% ซึ่งน่าจะส่งผลทำให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัทฯ มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น” นางสาวโศภชากล่าวในที่สุด
ด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินราคาพื้นฐานปี 61 ที่ 5.50 บาท/หุ้น คงคำแนะนำ "ซื้อ" : แม้ปี 60 ผลประกอบการจะมีความผันผวนตามฤดูกาล(Seasonality) เนื่องจากราว 1 ใน 3 ของกำลังผลิตที่จ่ายไฟแล้ว(172MW) เป็นโครงการพลังลม ทว่าGUNKULยังมีกำลังผลิตทั้งแสงอาทิตย์และลมรวมอีก 316MW(65%)จากทั้งหมดในมือ 488MWที่จะทยอยส่งมอบในปี 60-65ทำให้ฝ่ายยังคงมีมุมมองบวกต่อการเติบโตของกำไรในระยะยาว คงคำแนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาพื้นฐานปี 61 เท่ากับ 5.50 บาทต่อหุ้น
----จบ---