หลังจากวานนี้ (19 ก.ย.) เมื่อตลาดทุกภูมิภาคเปิดทำการราคาทองคำตอบสนองในเชิงบวกต่อทิศทางการปรับลดดอกเบี้ยเฟดหลังจากมีมติปรับลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดไปแล้ว 0.50% และจะสามารถปรับลดดอกเบี้ยได้อีก 0.50% ในช่วงที่เหลือของปี 2024ขณะที่ CME FedWatch Tool บ่งชี้ นักลงทุนให้น้ำหนักส่วนใหญ่ คาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้อีก 0.75% ภาพดังกล่าวจึงยังคงกดดันดัชนีดอกลลาร์ และ Bond Yield สหรัฐซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มาหนุนราคาทองคำ ทำ All Time High อีกครั้งในวันนี้ (20 ก.ย.) ที่ระดับ 2,612 ดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อทองคำเข้ามาเพิ่มเติม ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังผู้นำฮิซบอลเลาะห์ กล่าวว่า การระเบิดของเพจเจอร์ทั่วเลบานอนที่ผ่านมา ถือเป็นการประกาศสงครามของอิสราเอล ทั้งนี้ ด้วยราคาทองคำ ที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังผ่านประชุมธนาคารกลางต่างๆไปแล้ว จึงควรระวังความผันผวนจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น

คำแนะนำ
เปิดสถานะซื้อเก็งกำไรระยะสั้น หากสามารถยืนเหนือแนวรับ 2,586-2,568 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ปิดทำกำไร หากปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 2,618 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านได้ถือสถานะซื้อต่อได้
ตัดขาดทุนสถานะซื้อ หากราคาหลุดแนวรับ 2,568 ดอลลาร์ต่อออนซ์