Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : MTC ปักธงปี 64 พอร์ตสินเชื่อโต 20-25% - คุม NPL ที่ 1%

1,502

HotNews : MTC ปักธงปี 64 พอร์ตสินเชื่อโต 20-25% - คุม NPL ที่ 1%

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (17 กุมภาพันธ์ 2564) MTC ตั้งเป้าปี 64 พอร์ตสินเชื่อโต 20-25% พร้อมรักษาระดับ NPL ที่ 1% ขยายสาขาเพิ่มปีนี้ 600 แห่ง ตั้งเป้าปี 66 มีสาขาไม่ต่ำกว่า 6,700แห่ง พร้อมโชว์งบปี 63 กำไรสุทธิ 5,214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.06%

 

 

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) ผู้นำสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์และนาโนไฟแนนซ์ของเมืองไทย เปิดเผยว่าแผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้ารักษาอัตราการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อที่ 20-25% โดยเตรียมเปิดเพิ่มอีก 600 สาขา ซึ่งคาดว่าจะครบ 5,400 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อรองรับกลุ่มคนที่มีความต้องการสินเชื่อ แต่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการสินเชื่อของระบบสถาบันการเงิน รวมถึงกลุ่มคนที่ยังพึ่งพาสินเชื่อนอกระบบ โดยวางงบลงทุนสำหรับการขยายสาขาไว้ที่ 300 ล้านบาท

 

 

ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาขอรับบริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ บางส่วนต้องการที่จะซื้อรถจักรยานยนต์คันใหม่ จากฐานลูกค้าที่มีกว่า 2 ล้านคัน และช่วยลดความเสี่ยงการเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อกับบริษัทฯ มาอย่างต่อเนื่อง

 

 


นายชูชาติ กล่าวต่อว่า ไม่กังวลเรื่องของการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อทะเบียนรถมากนัก เนื่องจากตลาดมีขนาดใหญ่ และมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีพอร์ตสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ 2 ล้านคัน เทียบกับรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนมีกว่า 21 ล้านคันทั่วประเทศ และมีรถที่จดทะเบียนเพิ่มขึ้นในแต่ละปีต่อเนื่อง ทำให้พอร์ตสินเชื่อยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แม้จะมีผู้เล่นรายใหม่ทยอยเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับแนวคิดการทำตลาด และการขยายฐานลูกค้าของแต่ละบริษัท

 

 

 

ด้าน นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) MTC เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายสำหรับการดำเนินงานในปี2564 ในการสร้างพอร์ตสินเชื่อให้เติบโตที่ระดับ 20-25% ซึ่งเป็นเป้าหมายต่อเนื่องใน4-5ปีข้างหน้าด้วยเช่นกัน ประกอบกับยังคงรักษามาตรฐานหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับต่ำที่ 1% และไม่ให้เกิน 1.5% ซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.06% เมื่อเทียบกับพอร์ตสินเชื่อรวม

 

 

ด้านการขยายสาขาจะเพิ่มอีก 600 สาขา ซึ่งคาดว่าในสิ้นปี64 จะมีสาขาไม่ต่ำกว่า 5,400 แห่ง และจะทยอยขยายสาขาเพิ่มในปี2565-2566 ปีละ600 แห่ง โดยตั้งเป้าว่าในปี2566 จะมีสาขาไม่ต่ำกว่า6,700 แห่ง จากปัจจุบันอยู่ที่ 4,884 แห่งซึ่งปัจจุบันจากการทำสำรวจพบว่าจำนวนประชากรในพื้นที่มีค่าเฉลี่ยมากกว่าจำนวนสาขาในพื้นที่ ซึ่งเป็นโอกาสที่ MTC จะสามารถเข้าไปเปิดสาขาเพิ่มเติมได้ เพื่อรองรับกลุ่มคนที่มีความต้องการสินเชื่อ แต่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงบริการสินเชื่อของระบบสถาบันการเงิน รวมถึงกลุ่มคนที่ยังพึ่งพาสินเชื่อนอกระบบซึ่งจะเน้นกระจายในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นอีกด้วย

 

 

สำหรับการขยายสาขา จะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบตามความเหมาะสมของขนาดประชากรและกลุ่มเป้าหมายในบริเวณนั้นๆ ประกอบด้วย 1.สาขาแบบ Full Branch ใช้งบลงทุน 800,000 บาท/สาขา 2.สาขาแบบ Sub Branch ใช้งบลงทุน 400,000บาท และ3. สาขาแบบ Service Center ใช้งบลงทุน 250,000 บาท

 

 

พร้อมกันนี้ บริษัทได้กำหนดทิศทางของอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทได้กำหนดไว้ที่ระดับ18% จาก20% เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงการเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยยังคงระดับอัตราดอกเบี้ยที่18%ต่อไป จนกว่าในอนาคตจะมีทิศทางธุรกิจที่เปลี่ยงแปลงหรือมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น

 

 


“เรามองว่าตลาดสินเชื่อมีความกว้างมากๆ และยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่เราสามารถเข้าไปทำตลาดได้ แม้ว่าจะมีผู้เข้ามาทำการแข่งขันในธุรกิจเดียวกันเยอะ แต่ด้วยศักยภาพของMTC ที่มีความแข็งแกร่งและมีความเชี่ยวชาญทางด้านแพลตฟอร์มซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเผยแพร่สินเชื่อ จึงไม่มีความกังวลหรือความคิดว่าจะต้องไปแข่งขันกับใคร” นายปริทัศน์ กล่าว

 

 

 

นอกจากนี้ บริษัทยังมองเห็นโอกาสในธุรกิจเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์ใหม่ จึงต้องการต่อยอดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยพบข้อมูลว่าปัจจุบันมียอดมอเตอร์ไซค์ใหม่ที่ขายในประเทศอยู่ 1.5 ล้านคัน ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าเรามีศักยภาพในการช่วยเหลือลูกค้าในระบบให้สามารถซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่ได้ราว100,000 คัน/ปี

 


สำหรับผลการดำเนินงานในภาพรวมของปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 5,214 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.06% เมื่อเทียบกับปี 2562 มีกำไรสุทธิ 4,237 ล้านบาท โดยพอร์ตสินเชื่ออยู่ที่ 70,607 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เทียบกับปี 2562 อยู่ที่ 60,253 ล้านบาท ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับต่ำเพียง 1.06% เทียบพอร์ตสินเชื่อรวม

 

 

"ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2563 ออกมาได้เป็นที่น่าพอใจ แม้ส่วนหนึ่งจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่ยอดปล่อยสินเชื่อของเรายังคงเติบโตได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้รายได้และกำไรของเรายังคงเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นอย่างนี้ นับตั้งแต่ที่เราเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่ ปี 2557 เพราะเรามีทีมงานที่มีคุณภาพ และให้ความสำคัญกับการพิจารณาปล่อยสินเชื่อที่มีความรัดกุม รวมถึงการติดตามหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ตัวเลขเอ็นพีแอลอยู่ในระดับต่ำกว่าอุตสาหกรรม อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ทำให้ลูกค้าไว้วางใจ และเข้าใช้บริการกับเรา" นายชูชาติ กล่าวทิ้งท้าย


อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

ติดตาม By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หลังจาก นายกฯคุยกับนายแบงก์ วันนี้ สมาคมธนาคารไทย ก็ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อย...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้