Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : Daily Theme to Play

169

Market Wrap-Up
•    SET วันที่ 25 เม.ย.67 ปิด +3.17 จุด อยู่ที่ 1,364.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 41,433 ลบ.ต่างชาติซื้อ 1,796 ลบ.สถาบันซื้อ 375 ลบ.รายย่อยขาย 1,735 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 1,805 ลบ. มียอดซื้อสุทธิในหุ้น BH,BDMS,CPALL,HMPRO,HANA และมียอดขายสุทธิ TOP,KTB,PTTEP,TTB.CPF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 4,597 ลบ. หุ้นที่มีปริมาณ Short สูงคือ KTC-R,,CKP,PSH โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 22,074 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 25,938 สัญญา นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรจำนวน 1,390 ลบ.
•    ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.98%, S&P500 -0.46%, Nasdaq -0.64% หลัง ก.พาณิชย์สหรัฐเผย GDP Q1/67 +1.6% ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่ US PCE Q1/67 +3.4% & Q4/66 +1.8% YoY บ่งชี้เงินเฟ้อยังอยู่ระดับสูง ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.64% จากแรงขายกลุ่มอุตสาหกรรม -1.8%, อาหาร & เครื่องดื่ม -1.1% และเทคโนโลยี -1%   
Market View
•    ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลัง US GDP Q1/67 +1.6% & Q4/66 +3.4% & คาด +2.4% QoQ สาเหตุจากการใช้จ่ายผู้บริโภค Q1/67 +2.5% ชะลอตัวจาก Q4/66 ที่ 3.3% แต่ยังได้แรงหนุนจากการลงทุนถาวรและการใช้จ่ายของรัฐบาลที่ปรับดีขึ้น ขณะที่การลงทุนสินค้าคงคลังของเอกชนลดลงและการนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยฉุด GDP ส่วนรายงาน US Core PCE Q1/67 ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.7% & Q4/66 ที่ 2.0% YoY บ่งชี้เงินเฟ้อสหรัฐอยู่ระดับสูง ขณะที่ค่ำวันนี้ติดตาม US PCE มี.ค. คาด 2.6% & ก.พ. 2.5% YoY เบื้องต้นตลาดคาดเฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ หากเงินเฟ้อยังสูงกว่าคาด              
•    ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปรับลดลงความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เงินเฟ้อสูง (Stagflation ) ส่งผลให้เฟดดำเนินการลดดอกเบี้ยได้ยากขึ้น โดยนักลงทุนรอรายงานกำไร บจ. Q1/67 ใน Stoxx600 ซึ่ง LSEG คาดจะหดตัวราว -12% YoY         
•    ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ นิเกอิ -2.16%, Kospi เกาหลีใต้ -1.76% เป็นผลจากค่าเงินเยน & วอนเกาหลีใต้อ่อนค่า โดยวันนี้ติดตามผลการประชุม BOJ จะส่งสัญญาณการเงินที่ตีงตัวขึ้นหรือไม่ หลังค่าเงินเยนอ่อนค่าอยู่ที่ 155.64 เยน/USD. ขณะที่รายงาน Tokyo CPI เม.ย. ชะลอตัวอยู่ที่ 1.8% & มี.ค. 2.6% YoY   
•    ดัชนี SET วานนี้ +0.23% ปริมาณการซื้อขาย 4.1 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 1.79 พัน ลบ. สถาบันซื้อ 375 ลบ. รายย่อยขาย 1.73 พัน ลบ. และพอร์ตโบรกขาย 436 ลบ. ได้แรงหนุนจากกลุ่ม รพ. +3.14% หลัง BH รายงานกำไร Q1/67 อยู่ที่ 1.98 พัน ลบ. +15.3% QoQ, +25.3% YoY ได้ปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้ป่วยในประเทศเพิ่มขึ้น QoQ, YoY และผู้ต่างชาติก็เพิ่มขึ้น YoY กอปรกับควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี ส่งผลบวกไปยัง BDMS, BCH ที่อยู่ระหว่างรอรายงานงบ ส่วนกลุ่มอาหาร & เครื่องดื่มได้ปัจจัยหนุนจากเงินบาทอ่อนค่า และอุปสงค์ปรับดีขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ ตลท.ออก ม.ควบคุม Short Sell ด้วยการใช้ Uptick กับหุ้นทุกตัว, คุม HFT ด้วยการเปิดเผยข้อมูลผู้ลงทุนในระดับ Sub-Account และ Omnibus Account รวมถึงเพิ่ม Circuit Braker รายหุ้นที่มีความผันผวนผิดปกติ โดยจะเริ่มใช้ในช่วงปลาย Q2 นี้ ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนของตลาด
Daily Strategy
•    ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,355 -1,360 แนวต้าน 1,372 ระหว่างรอตัวเลข US PCE มี.ค. เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ย และรอรายงานกำไร บจ. แนะนำทยอยซื้อกลุ่มอาหาร & เครื่องดื่ม ICHI,SAPPE,OSP,TU,ITC,KCG/ กลุ่มค้าปลีก CPALL,BJC/ รพ. BDMS,BCH และกลุ่มโรงแรม ERW,AWC,MBK
•    TACC* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.35 บาท) แนวโน้ม 1Q67 คาดกำไรฟื้นตัว QoQ, YoY ตามยอดขายผ่าน 7-Eleven และมีโมเมนตัมดีต่อใน 2Q67 จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทั้งนี้ในปี 67 คาดกำไรปกติจะฟื้นตัว โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ +10%YoY หนุนจากการเติบโตตาม 7-Eleven ทั้งในและต่างประเทศ การออกสินค้าใหม่ตามฤดูกาล และขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้ง B2B และ B2C ขณะที่ส่วนแบ่งขาดทุนจาก TCI (ธุรกิจกัญชง) จะหมดไปหลังทำรายการขายเสร็จ ซึ่งปกติมีผลขาดทุนอยู่ปีละ 10 ล้านบาท จากแนวโน้มที่ผ่านช่วงแย่ไปแล้ว รวมถึงการตัดขายธุรกิจไม่ทำกำไรออกไป จะทำให้ฐานะทางการเงินดีขึ้น ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 232 ล้านบาท +12%YoY และ 254 ล้านบาท +10%YoY
•    AWC* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 5.40 บาท) กำไรสุทธิปี2566 อยู่ที่ 5.0 พันลบ.,+31%YoY(มี Extra Gain ราว +3.9 พันลบ.) หนุนด้วย EBITDA +27%YoY โดยเฉพาะในหน่วยธุรกิจ Hotel(+119%YoY) และ Retail(+22%YoY) ตามการฟื้นตัวหลัง Covid-19 ส่วนผลการดำเนินงานปกติ 1Q67 นี้ คาดยังได้แรงหนุนต่อเนื่องจากหน่วยธุรกิจ Hotel และ Retail หลังจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทย 1Q67 ที่ 9.37 ล้านคน, +44%YoY ทั้งนี้ทางบริษัทวางเป้าในส่วนของธุรกิจ Hotel จะมี occ. Rate ที่75%(เท่า PreCovid-19 ปี62/ ปี66 occ. Rate อยูที่ 64.6%) และ ADR ที่ 5,858 บาท,+3.5%YoY(+25%เทียบ PreCovid-19 ปี62)


Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI มิ.ย. +$0.76 อยู่ที่ $83.51/บาร์เรล Brent มิ.ย. +$0.99 อยู่ที่ $89.01/บาร์เรล หลัง รมว.คลังสหรัฐ เจเน็ต เยลเลน ชี้เศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง และคาดจะปรับ GDP ขึ้นหลังได้รับข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่สถานการณ์ตะวันออกกลาง อิสราเอลใข้ปฏิบัติการทางอากาศโจมตีเมืองราฟาห์

Gold Update(-) Comex Gold มิ.ย. +$4.10 อยู่ที่ $2,342.50 /ออนซ์ หลัง US GDP Q1/67 ขยายตัวต่ำกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนเลือกถือทองคำที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
 
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ
-29.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   ซื้อหุ้นไทย +48.50 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -80.10 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +2.20 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ค่าเงินบาทเช้านีทรงตัวอยู่ที่ 37.02 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.706 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -31 จุด อยู่ที่ 1,743
(-) BitCoin เช้านี้ -0.18% อยู่ที่ 63,948 ดอลลาร์สหรัฐ
 

Economic Calendar

ในประเทศ
30 เม.ย.    ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
สัปดาห์ที4     กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ
    ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์
สัปดาห์ที5    สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนี
ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค     
สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม


ต่างประเทศ
23 เม.ย.    US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (เม.ย.)  
    US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (เม.ย.)  
    US ยอดขายบ้านใหม่ (มี.ค.)
24 เม.ย.    US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
25 เม.ย.    US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 1)  
    US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
26 เม.ย.    US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( มี.ค.)

Theme Strategy
Theme หุ้นเด่นปี 2567 รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ ด้านส่งออกมีโอกาสกลับมาขยายตัว ท่องเที่ยวฟื้นตามจำนวนนักท่องเที่ยว คาดหวัง Flow ไหลกลับหลังธนาคารกลางหลักมีโอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ย
(1) กลุ่มการอุปโภคบริโภค ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ CPALL, CPAXT*, CPN*, CRC, ICHI*, NSL*
(2) กลุ่มส่งออก ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกที่คาดฟื้นตัว AAI*, ITC*, TU, COCOCO*, PLUS*, OSP*, SAPPE*, KCE*, SJWD*
(3) กลุ่มท่องเที่ยว ได้ประโยชน์จากมาตรการ Free Visa AOT*, CENTEL*, ERW*, SPA*, SISB*, WPH*
(4) กลุ่ม Leasing ได้ประโยชน์จากการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น MTC*, TIDLOR*
(5) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซฯ ลดลง BGRIM*, GPSC*
(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม/ EV ได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต สงครามการค้า AMATA, WHA


**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 30% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 10%

Today Fundamental Research: -


Monthly Portfolio April 2024: GFPT*, SAPPE*, GPSC*, ITEL*, ITC*, ICHI*




Analysts
Apichai Raomanachai   
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939
Tel  02-829-6999  Ext  2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew      
Fundamental Analysis ID No.  043964
Tel  02-829-6999  Ext  2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri   
Fundamental Analysis ID No.  087077
Tel  02-829-6999  Ext  2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th
 

ณภัค ภัทรสุปรีดิ์

: เรียบเรียง โทร : 02-276-5976 อีเมล์ : reporter@hooninside.com ที่มา : สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

เก็งหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งขึ้น ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนการเล่นการเทรดเป็นไปตามแรง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้